กินอย่างไรให้... ผอม
กินอย่างไรให้... ผอม (Labelle)
น้ำหนักตัวเป็นสิ่งที่ผู้หญิงสวย รักสุขภาพทั้งหลายกังวลกันมาก พอน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น จึงต้องเสาะหาวิธีการกิน หรือการปฏิบัติตน เพื่อสุขภาพและรูปร่างที่สมส่วนงดงามสมบูรณ์แบบ ตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า รู้หรือไม่ว่าสารอาหารบางอย่างในผักและผลไม้ จะมีผลทำให้ผอมลง แต่บางอย่างก็เพียงแค่มีส่วนช่วยให้รู้สึกว่าผอมลง
พริก ไม่ว่าจะเป็นพริกฝรั่ง พริกไทย พริกหยวก พริกชี้ฟ้า สารพักตระกูลพริก จะมีสารเผ็ดร้อน เรียกว่า แคปไซซิน ช่วยเพิ่มความร้อนให้กับร่างกาย เผาผลาญไขมัน ใครที่สามารถกินเผ็ดได้ ก็ลองเพิ่มพริกสด หรือใช้พริก เป็นส่วนผสมในเมนูอาหารได้ตามใจชอบ
หน่อไม้ฝรั่ง หรือ เอสพารากัส จะมีกรดแอสพาราจีน ช่วยในการขับน้ำออกจากร่างกาย แต่ไม่มีคุณสมบัติในการเผาผลาญไขมันโดยตรง ใช้รับประทานเป็นผักสลัด หรือใช้ในการประกอบอาหารในแต่ละมื้อได้ดี มีรสชาติอร่อย กินบ่อยๆ รับรองหุ่นดี สบายใจได้
สาหร่าย จะมีคุณสมบัติในการขับน้ำที่ไม่จำเป็นออกจากร่างกาย รวมถึงของเสียในร่างกาย ทำให้รู้สึกไม่อึดอัด และกระฉับกระเฉง ใครที่ไม่ชอบรับประทานสาหร่ายคงต้องเปลี่ยนความคิดเสียใหม่ มีหลากหลายเมนู ที่เรานำเอาสาหร่ายมาประกอบแล้วอร่อยด้วยได้ประโยชน์ด้วย
เครื่องดื่มประเภทชาเขียว ผลการวิจัยจากมหาวิทยาลัยไฟร์บวร์ก ประเทศเยอรมนี ระบุว่า การดื่มชาเชียววันละ 4 แก้ว จะสามารถช่วยกระตุ้นการเผาผลาญไขมันได้และมีผลดีต่อสุขภาพ แต่ทั้งนี้ต้องเป็นชาเขียวที่ไม่ใส่น้ำตาลเท่านั้น
กาแฟ จะมีสารคาเฟอีน ช่วยกระตุ้นเอนไซม์ ซึ่งทำหน้าที่เผาผลาญไขมัน การดื่มกาแฟ จะให้ผลดีเมื่อดื่มเพียง 1 แก้วในตอนเช้า และอีก 1 แก้ว ตอนหลังเที่ยง
ไวน์แดง การดื่มในปริมาณที่พอเหมาะ จะมีสารบางอย่าง ที่ไปช่วยขัดขวางการดูดซึมไขมันในร่างกาย แต่ไม่ควรดื่มมากจนเกินไป เพราะไวน์แดง 1 แก้ว ให้พลังงานถึง 72 แคลลอรี่ ทีเดียว
แต่ทั้งหมดนี้ ถ้าให้การเผาผลาญไขมันเป็นไปได้ด้วยดี แค่การรับประทางเพียงอย่างเดียว คงไม่เพียงพอ ต้องอาศัยการออกกำลังกายควบคู่ไปด้วย จะเป็นผลดีที่สุด แค่นี้หุ่นสวยสุขภาพดีคงไม่ไกลเกินความพยายาม
TIP
ความเชื่อที่ว่า การดื่มน้ำในขณะรับประทานอาหารทำให้เกิดโทษนั้นไม่เป็นความจริง เพราะน้ำย่อยที่จางลงมีน้ำปนอยู่ด้วยนั้นสามารถย่อยได้ดีเท่า ๆ กับน้ำย่อยที่ไม่มีน้ำปนอยู่ด้วย เพราะฉะนั้น แม้จะดื่มน้ำมากในขณะรับประทานอาหาร ถ้าเคี้ยวอาหารให้ละเอียดพอสมควรแล้ว ก็ไม่ทำให้เกิดผลเสียอะไร แต่กลับจะช่วยให้ย่อยอาหารได้ง่ายขึ้นด้วยซ้ำไป
ที่มา: health.kapook.com