อุจจาระ...สัญญาณบอกโรค
พอจะกล่าวถึงเจ้าเรื่องที่เกี่ยวกับ อุจจาระ หลาย ๆ คนคงมีสีหน้าแตกต่างกันออกไป เพราะแน่นอนค่ะว่าด้วยลักษณะเด่นของมันคือ เป็นของเสีย ๆ กลิ่นตุ ๆ แบบนั้น เมื่อร่างกายขับออกมาก็อยากให้จบ ๆ กันไป แต่รู้ไหมคะว่าเรื่อง อุจจาระ นี้ เราจะชะล่าใจไม่ได้เอาเสียเลย เพราะอุจจาระสามารถบอกถึงความผิดปกติภายในร่างกายได้ด้วย เพียงแค่เราต้องหมั่นสังเกต อย่าได้อายสายตาตัวเองไปเลยค่ะ โดยจะให้สังเกตจากสิ่งต่าง ๆ ดังนี้
สิ่งที่ต้องสังเกตนั้นเริ่มจาก อุจจาระจมหรือลอย
หากจมน้ำบ่งบอกว่า เจ้าของเน้นกินเนื้อสัตว์มากเกินและละเลยผักผลไม้ ดังนั้นอุจจาระควรลอยดีกว่าจม จึงขอแนะนำให้กินผักผลไม้เพื่อเพิ่มกากใยเข้าไปมากๆ ระบบขับถ่ายจะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งคนที่กินผักและผลไม้มากๆ ลดโอกาสเสี่ยงเป็นมะเร็งทางเดินอาหาร
สิ่งที่ควรดูต่อมาดูซิว่า อุจจาระมีสีอะไร
สีที่เหมาะที่ควรนั้นน่าจะเป็นสีออกเหลือง แต่ถ้าเป็นสีอื่นก็พอจะบอกที่มาได้ เช่น สีเหลืองเขียวขี้ม้า เป็นเพราะทานผักมาก สีแดง ๆ ส้ม แสดงว่าเน้นกินมะละกอ-แครอท สีน้ำตาลคล้ำ หมายถึงกินเนื้อสัตว์มาก ซึ่งยังไม่จัดว่าอันตรายมาก เว้นแต่อุจจาระนั้นมีสีดำคล้ำคล้ายยางมะตอย หรือน้ำตาลไหม้แดง แถมมีกลิ่นเหม็นคาวมาก จึงถือว่าเป็นสัญญาอันตรายเตือนว่า คุณอาจมีเลือดออกที่ทางเดินอาหารส่วนต้น ควรไปพบแพทย์ ขณะที่อุจจาระที่มีเลือดปนเป็นสีแดงสด อาจเป็นไปได้ว่า มีเลือดออกที่ลำไส้ใหญ่ใกล้รูทวาร
ถ้าอุจจาระเกิดผิดปกติสามารถบ่งบอกโรคได้ดังนี้
อุจจาระคล้ายดินร่วน เหลว ปวดถ่ายเร็ว
เกิดจาก การถ่ายท้องเนื่องจากยาระบาย หรืออาหารที่มีฤทธิ์เป็นยาระบายทำให้ลำไส้ใหญ่บีบตัวเร็ว อุจจาระยังไม่ทันฟอร์มตัวเป็นก้อน ทำให้อุจจาระออกมาเหลว ถ้ามีสีเขียวด้วยนั่นคือสีของน้ำดี มักพบในคนที่ท้องเสียมากๆ และในเด็กที่ลำไส้ยังสั้นและทำงานเร็ว
อุจจาระเป็นสีขาวซีดเหมือนสีขี้เถ้า
เกิดจาก การอุดตันของทางเดินท่อน้ำดี ทำให้น้ำดีไม่สามารถเข้าสู่ลำไส้ได้ มักพบในคนที่เป็นนิ่ว หรือเนื้องอกในท่อน้ำดี หรือมีความผิดปกติตั้งแต่กำเนิดร่างกายไม่สามารถผลิตน้ำดีออกมาได้
อุจจาระเป็นก้อนเล็กๆ แข็ง แห้ง
เกิดจาก การขาดน้ำและกินอาหารที่มีกากใยน้อย มักพบในผู้ป่วยท้องผูกเป็นเวลานาน หรือเนื่องมาจากอารมณ์ อากาศ การทำให้ร่างกายเกิดภาวะร้อนเกินไปอยู่เป็นประจำ ทำให้สูญเสียน้ำมาก ก็เป็นได้
อุจจาระเป็นสีดำ มีกลิ่นแรง ร่วมกับอาการปวดท้อง
เกิดจาก ความผิดปกติในระบบทางเดินอาหารตลอดแนว ซึ่งอาจเกิดเลือดไหลจากกระเพาะอาหาร ลำไส้เล็ก หรือลำไส้ใหญ่ก็ได้ ซึ่งต้องรีบไปตรวจเช็กร่างกายโดยด่วน
อุจจาระมีเลือดสดปนออกมา
เกิดจาก การมีแผลบริเวณทวารหนัก ซึ่งอาจเกิดจากอุจจาระบาด หรือการปริขาดของเนื้อเยื่อ มักพบในผู้ที่มีอาการท้องผูก แผลสามารถหายเองได้ แต่ถ้ายังคงท้องผูก หรือท้องเสียมาก อาจทำให้เป็นแผลเรื้อรัง จนต้องรักษาด้วยการผ่าตัด
อุจจาระมีเลือดสดๆ และคันก้น เจ็บทวารหนักขณะถ่าย
เกิดจาก โรคริดสีดวงทวาร ถ้าไม่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหรือไม่รักษาจะมีหัวริดสีดวงที่อักเสบโผล่ออกมาทางปากทวารหนัก ทำให้เจ็บปวดมาก
อุจจาระเป็นมูกวุ้น เหมือนน้ำมูก ถ่ายทั้งวัน อาจมีเลือดออกร่วมด้วย
เกิดจาก อาการอักเสบของลำไส้ หากเกิดในผู้สูงอายุ อาจเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ หรือลำไส้ใหญ่อุดตัน หากเป็นในวัยรุ่นอาจเกิดจากลำไส้อักเสบ แต่ถ้าหายได้เองใน 1-2 วันอาจเกิดจากอาหารเป็นพิษ
นอกจากนี้แล้ว ก้อนอุจจาระควรมีลักษณะเหมือนกล้วย หรือดินเปียก เคลื่อนออกจากทวารหนักลื่นคล้องไม่ต้องออกแรงเบ่งมาก ไม่ควรแบ่งตัวออกเหมือนก้อนกรวด ไม่แข็งเกินไป อาจเป็นเพราะท้องผูก ดื่มน้ำน้อย แต่ก็ไม่น่าจะเหลวหรือเหมือนโคลน ซึ่งอาจเป็นอาการของการติดเชื้อแบคทีเรียทำให้ท้องเสีย ท้องร่วงได้นั่นเองค่ะ
เมื่อทราบอย่างนี้แล้ว...อย่าอายที่จะสังเกตสีและลักษณะของอุจจาระกันเลยนะคะ เพราะมันเป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงสุขภาพของเราค่ะ
ที่มา: guru.sanook.com