ปอดบวมในเด็ก (Childhood pneumonia) / ปอดอักเสบในเด็ก (Childhood pneumonitis)


1,935 ผู้ชม


ระบบและอวัยวะที่เกี่ยวข้อง :

ปอด  ระบบโรคติดเชื้อ 

อาการที่เกี่ยวข้อง :

ไข้  ไอ 

บทนำ

โรคปอดอักเสบและโรคปอดบวม (Pneumonitis or Pneumonia) มีความหมายคล้ายคลึงกันมากจนใช้เรียกแทนกันได้ แต่นิยมเรียกโรคปอดอักเสบมากกว่าเพราะตรงความหมายมากกว่า โรคปอดอักเสบเป็นโรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจที่สำคัญ โดยเฉพาะในเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 5 ปี และเป็นสาเหตุการตายในเด็กที่สูงถึง 1.6 ล้านคนต่อปีจากจำนวนผู้ป่วย 156 ล้านคนต่อปีทั่วโลกโดย 95% ของเด็กเหล่านี้อาศัยอยู่ในประเทศกำลังพัฒนา เพราะมีปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดปอดอักเสบสูงกว่าประเทศที่พัฒนาแล้ว สำหรับประเทศไทยพบโรคปอดอักเสบ 1,418 คน ต่อประชากรไทย 100,000 คน

โรคปอดอักเสบ ปอดบวม ในเด็กเกิดได้อย่างไร?

โรคปอดอักเสบ ปอดบวม เกือบทั้งหมดมีสาเหตุจากเชื้อโรคทั้งสิ้น โดยพบดังนี้

  1. เชื้อไวรัส เช่น ไวรัสไข้หวัดใหญ่ ไวรัส โรคหัด ไวรัสอาร์เอสวี ฯลฯ ซึ่งกลุ่มนี้พบบ่อยที่สุด
  2. เชื้อแบคทีเรีย เช่น เชื้อนิวโมคอคคัส (Pneumococcus) เชื้อฮีโมฟิลุส อินพลูเอนเซ (Haemophilus influenzae) เชื้อมัยโคพลาสม่า (Mycoplasma) ฯลฯ พบได้พอสมควร โดยปกติเชื้อแบคทีเรียเหล่านี้จะอยู่ที่คอหอยของคนเรา รอจังหวะเวลาที่เหมาะสมในการก่อโรคปอดอักเสบหรือโรคอื่นๆ
  3. เชื้อรา เช่น เชื้อราแคนดิดา (Candida) เชื้อราเพนิซิเลี่ยม (Peni cillium) ฯลฯ มักเกิดขึ้นในผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต้านทานโรคต่ำ เช่น กินยาสเตียรอยด์ โรคเอดส์ เป็นต้น

อะไรเป็นปัจจัยเสี่ยงในการเกิดโรคปอดอักเสบ ปอดบวมในเด็ก?

ปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคปอดอักเสบ ปอดบวมในเด็ก คือ

  1. ตัวเด็กเอง:
  2. สิ่งแวดล้อม:
    • อยู่อย่างแออัด (การถ่ายเทอากาศไม่ดี)
    • ฝุ่นละออง ควันบุหรี่ภายในบ้าน เป็นต้น
  3. เชื้อโรค:

โรคปอดอักเสบ ปอดบวม ในเด็กมีอาการอย่างไร?

อาการจากโรคปอดอักเสบ ปอดบวมในเด็ก คือ

แพทย์วินิจฉัยโรคปอดอักเสบ ปอดบวม ในเด็กอย่างไร?

การวินิจฉัยแบ่งเป็น 2 แบบ

  1. จากอาการ:
  2. จากห้องปฏิบัติการ:

รักษาโรคปอดอักเสบ ปอดบวม ในเด็กอย่างไร? ดูแลเด็กอย่างไร?

การรักษาโรคปอดอักเสบ ปอดบวมในเด็ก เนื่องจากโรคปอดอักเสบ ปอดบวมมักมีอาการรุนแรง และอาจจะถึงแก่ชีวิตได้ จึงต้องดูแลรักษาโดยแพทย์เท่านั้น โดยเมื่อเด็กมีอาการดังกล่าว ไม่ควรดูแลเอง ควรรีบนำเด็กพบแพทย์ ทั้งนี้การรักษามี 2 ส่วน คือ

  1. การรักษาตาอาการและประคับประคอง เช่น ยาแก้ไข้ ยาแก้ไอ หากมีอาการหอบเหนื่อยต้องให้ออกซิเจน หากอาการรุนแรงมาก อาจต้องใช้เครื่อง ช่วยหายใจ
  2. การรักษาจำเพาะต่อเชื้อโรค เช่น ยาต้านไวรัสไข้หวัดใหญ่ (ยาทามิฟลู/Tamiflu) หรือ ยาปฏิชีวนะ ตามความเหมาะสมต่อเชื้อโรคต้นเหตุของโรคปอดอักเสบ ปอดบวมนั้นๆ ซึ่งแพทย์จะเป็นผู้พิจารณาชนิดของ ยาต่างๆ รวมทั้งชนิดของยาปฏิชีวนะ ขนาดยา วิธีการให้ยา (เช่น กิน หรือ ฉีดเข้าเส้น) และระยะเวลาของการใช้ยาอย่างเหมาะสม และไม่ควรซื้อยากินเอง

เมื่อไรจึงควรพาเด็กที่สงสัยโรคปอดอักเสบ ปอดบวม มาพบแพทย์?

อาการปอดอักเสบ มักเริ่มต้นด้วยอาการไข้หวัดใหญ่ประมาณ 2-4 วัน แล้วจึงเริ่มหอบเหนื่อย เพลีย ซึ่งเป็นอาการของปอดอักเสบ ปอดบวม ดังนั้นหากเด็กที่เริ่มเป็นไข้หวัด ไม่ว่าจะรักษาโดยแพทย์หรือรักษาเองก็ตาม ถ้า 24-48 ชั่วโมงหลังการรักษาไข้หวัดนั้นๆแล้วอาการไม่ดีขึ้น เช่น ไข้สูงตลอด หอบเหนื่อย เพลีย ไอมาก อาเจียนมาก ฯลฯ ให้สงสัยว่าอาจเป็นโรคปอดอักเสบ ปอดบวม ซึ่งรุนแรงและอันตรายได้ ควรรีบนำเด็กพบแพทย์/ไปโรงพยาบาลด่วน เพื่อการรักษาที่ถูก ต้องและเหมาะสมต่อไป

การป้องกันโรคปอดอักเสบ ปอดบวม ในเด็กทำอย่างไร?

การป้องกันโรคปอดอักเสบ ปอดบวมในเด็ก มีหลายวิธี ได้แก่

  1. กินนมแม่ให้นานที่สุด
  2. หลีกเลี่ยงการอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่มีฝุ่นละออง ควันบุหรี่ ควันไฟ ควันธูป ฯลฯ
  3. ฉีดวัคซีนป้องกันโรค เช่น วัคซีนโรคไอกรน วัคซีนโรคหัด วัคซีนโรคไข้หวัดใหญ่ วัคซีนโรคฮิบ วัคซีนโรคไอพีดี เป็นต้น
  4. หลีกเลี่ยงบริเวณที่มีคนอยู่อย่างแออัด

ที่มา    https://haamor.com/th/ปอดบวมในเด็ก-ปอดอักเสบในเด็ก/

อัพเดทล่าสุด