ทั่วไป
ปัจจุบัน ผู้มีปัญหาเรื่องสายตา ทั้ง สายตาสั้น สายตายาว แล สายตาเอียง นิยมใช้ เลนส์สัมผัส (Contact lens หรือ คอนแทคเลนส์) แทนการใส่แว่นตากว้างขวางขึ้น ซึ่งโดยทั่วไป คอนแทคเลนส์ แบ่งตามลักษณะของเลนส์ได้เป็น 2 ชนิด คือคอนแทคเลนส์ชนิดแข็ง (Hard หรือ Rigid lens) และคอนแทคเลนส์ชนิดนิ่ม (Soft lens)
คอนแทคเลนส์ชนิดแข็งมีข้อดี และมีข้อเสียอย่างไร?
ข้อดีของคอนแทคเลนส์ชนิดแข็ง คือ
- ทำให้สายตาเห็นดีกว่า ทั้งภาพคมชัด และภาพที่เห็นชัดสม่ำเสมอดี จึงเหมาะสำหรับคนมีอาชีพที่ต้องการภาพที่คมชัด เช่น สถาปนิก วิศวกร หรือ ช่างเขียนแบบ
- การหยิบจับเลนส์ง่ายกว่า เพราะเลนส์มีรูปร่างคงที่ การใส่และถอดทำได้ง่าย
- ราคาถูกกว่า
- สามารถขัดถูได้หากเป็นรอย
- การดูแลรักษาง่ายกว่า ค่าบำรุงรักษาถูกกว่า
- แก้สายตาเอียงได้ดีกว่า ผู้มี สายตาเอียง มาก ๆ จึงต้องใช้เลนส์แข็งสายตาถึงจะมองเห็นชัด แม้ว่าปัจจุบันจะมีเลนส์นิ่มที่แก้สายตาเอียงได้ แต่ก็แก้ได้ไม่ดีนัก
- มีอายุการใช้งานนาน อาจใช้ได้ถึง 5 ปี หรือนานกว่านั้น ในขณะที่เลนส์นิ่มโดยเฉลี่ยใช้ได้ 2 ปี
ข้อเสียของคอนแทคเลนส์ชนิดแข็ง ได้แก่
- เลนส์แข็ง ออกซิเจนไม่สามารถซึมผ่านเลนส์ได้ ต้องอาศัยออกซิเจนเลี้ยง กระจกตา (ตาดำ) จากน้ำตา จึงมีโอกาสทำให้กระจกตาอักเสบจากภาวะขาดออกซิเจนได้ง่าย
- ก่อนใช้ต้องอาศัยเวลาปรับตัวนาน ต้องเริ่มใส่ทีละน้อยชั่วโมง และเพิ่มชั่วโมงมากขึ้น หากเลิกใส่ไปแล้วกลับมาใส่ใหม่ก็ต้องค่อยๆปรับใหม่
- ระคายเคืองมากกว่าเลนส์นิ่ม
- ไม่เหมาะสำหรับใช้ขณะเล่นกีฬา เพราะว่าเลนส์หลุดจากตาง่าย
- ไม่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่มีฝุ่นละออง อาชีพบางอย่าง เช่น ช่างเชื่อมเหล็ก กรรมกรก่อสร้าง หรือ ช่างซ่อมรถยนต์ เพราะเพิ่มการระคายเคืองตาได้มากขึ้น
- ไม่เหมาะสำหรับคนที่ไม่ค่อยกระพริบตา หรือคนที่ต้องอ่านหนังสือมาก เพราะตาจะแห้ง ก่อการระคายเคืองตามากขึ้น
เพื่อขจัดปัญหาข้อเสียของคอนแทคเลนส์แข็งทั่วไป ปัจจุบันคนหันมาใช้เลนส์ชนิดแข็งที่ออกซิเจนซึมผ่านดี ซึ่งเราเรียกกันว่า เลนส์ กึ่งแข็งกึ่งนิ่ม (Semi-hard lens) ซึ่งดีกว่าเลนส์แข็งธรรมดาตรงที่ ออกซิเจนซึมผ่านได้ และเลนส์ยังมีขนาดใหญ่กว่าเลนส์แข็งธรรมดา เพื่อให้เลนส์เกาะอยู่ที่ตาได้ดีขึ้น
คอนแทคเลนส์ชนิดนิ่มมีข้อดี และมีข้อเสียอย่างไร?
คอนแทคเลนส์ชนิดนิ่มมีข้อดีต่างๆ ดังนี้
- ผู้ใช้ ปรับสายตาเข้ากับเลนส์ได้รวดเร็ว โดยทั่วไปแค่ 10 นาที ผู้ใช้จะรู้สึกปกติดี แม้ว่าจะเป็นการใส่ครั้งแรก
- ผู้ใช้สบายตา
- ผู้ที่ทนต่อเลนส์แข็งไม่ได้ด้วยสาเหตุต่างๆ มักจะหันมาใช้เลนส์นิ่มได้
- นักกีฬาโดยเฉพาะกีฬาที่มีการกระโดด และเคลื่อนไหวรุนแรง เช่น ตีเทนนิส ยิมนาสติก สามารถใช้เลนส์นิ่มโดยไม่หลุดจากตา ถ้าเป็นเลนส์แข็งจะหลุดจากตาได้ง่าย
- พนักงานในโรงงานอุตสาหกรรมที่มีเครื่องจักร การใช้เลนส์นิ่มนอกจากเห็นชัดแล้ว เลนส์นิ่มอาจปกป้องดวงตาจากเศษเหล็กได้ดีกว่า
- การเกิดภาวะขาดออกซิเจนของกระจกตาพบได้น้อยกว่าชนิดแข็งเพราะว่าออกซิเจน ซึมผ่าตัวเลนส์ได้ดี
- เหมาะสำหรับใช้ในเด็กที่จำเป็นต้องใช้ คอนแทคเลนส์ เพราะสบายตา กว่า
- สามารถใส่ว่ายน้ำในสระได้ ขณะว่ายน้ำเลนส์ติดกับกระจกตาแน่น ไม่หลุดหาย ขณะว่ายน้ำ สายตายังเห็นชัดดีโดยไม่ต้องสวมแว่น
- สามารถใส่ๆถอดๆโดยไม่ต้องใช้เวลาปรับเข้ากับเลนส์ จึงเหมาะกับคนที่ไม่ใส่เลนส์ประจำ
ข้อเสียของคอนแทคเลนส์ชนิดนิ่ม ได้แก่
- โดยทั่วไป ไม่สามารถแก้สายตาเอียงได้ หากมีสายตาเอียงต้องสั่งเฉพาะชนิดที่แก้เอียงได้ด้วย ซึ่งราคาแพงกว่า อีกทั้งแก้สายตาเอียงได้ไม่ดีนัก
- ตาจะมองเห็นไม่ชัดนัก ทั้งนี้อาจเนื่องจากแก้ไขตาเอียงไม่ได้ดี เลนส์ที่ใส่อาจจะคับหรือหลวมเกินไป นอกจากนั้น ตัวเลนส์อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามบรรยากาศรอบตัว เช่น อากาศแห้ง หรือชื้น และการอยู่ในห้องปรับอากาศ อาจทำให้กำลังของเลนส์เปลี่ยนแปลงโดยเฉพาะผู้ที่มีตาแห้ง น้ำตาไม่เพียงพอเนื่องจากตัวเลนส์จะอมน้ำจึงทำให้น้ำตาแห้งลงอีก ถ้าน้ำตาไม่เพียงพออาจทำให้ความหนาของเลนส์เปลี่ยนแปลง เป็นผลให้กำลังของเลนส์เปลี่ยนไป ส่งผลถึงการมองเห็นภาพชัดด้วย
- อายุการใช้งานสั้น โดยเฉลี่ยไม่เกิน 2 ปี เนื้อเลนส์จะเสื่อมคุณภาพ อีกทั้งอาจมีคราบโปรตีนมาจับ แม้แต่สเปรย์ผมก็อาจทำให้เลนส์เป็นรอยและเสียการมองเห็นได้ง่าย
- ใช้ไปนานๆ จะมีคราบไขมัน และโปรตีน ไปจับกับเลนส์ ซึ่งทำให้ไม่สบายตา มองไม่ชัด หรืออาจก่อให้เกิดอาการแพ้คราบเหล่านั้น (กระจกตาอักเสบ) หรือ อาจเป็นสาเหตุเกิดการติดเชื้อของลูกตา
- การฆ่าเชื้อโรคเลนส์ก่อนใส่เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง อาจทำโดยวิธีต้มหรือใช้สารเคมี ทั้งนี้ขึ้นกับคำแนะนำของหมอตาและ/หรือ บริษัท ผู้ผลิต
- มีขบวนการใช้ค่อนข้างยุ่งยาก มีการใช้น้ำยาล้างทำความสะอาด แช่น้ำยาฆ่าเชื้อแล้วยังต้องมีวิธีขจัดคราบโปรตีนที่เกาะเนื้อเลนส์ด้วย ผู้ใช้ต้องพิถีพิถันดูแลความสะอาด หยิบจับเลนส์อย่างระมัดระวัง มิเช่นนั้นเลนส์อาจฉีกขาดเสียหายได้ง่าย
- มีอุบัติการณ์ของการติดเชื้อในตา มากกว่าการใช้เลนส์แข็ง
มีขั้นตอนอย่างไรเมื่อใช้คอนแทคเลนส์?
โดยทั่วไปหากผู้มีสายตาผิดปกติ อยากจะใช้ คอนแทคเลนส์ ควรได้รับการตรวจตาจากจักษุแพทย์ หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสายตาก่อนว่าอยู่ในสภาวะเหมาะสมหรือไม่ ที่สำคัญคือ มีโรคตาอะไรประจำหรือไม่ เปลือกตาปกติดีหรือไม่ การกระพริบตาทำได้อย่างปกติหรือไม่ น้ำตามีพอเพียงหรือไม่ กระจกตาปกติดีหรือไม่
เมื่อสภาพตาดี ก็จะวัดดูว่าสายตาเป็นเท่าไร ภารกิจประจำวันเป็นอะไร มีความตั้งใจใส่ตลอด หรือใส่เป็นบางครั้ง
ปัจจัยเหล่านี้ หมอตาจะนำมาพิจารณาว่า ควรใช้เลนส์หรือไม่ และควรเลือกใช้เลนส์ชนิดไหน ต่อจากนั้น จึงทำการวัดความโค้งของกระจกตา เพื่อคำนวณหาขนาดของเลนส์ และกำลังของเลนส์ แล้วนำเลนส์ขนาดใกล้เคียงให้ผู้ป่วยทดลอง จนได้ขนาดของเลนส์เป็นที่พอใจ
ทั้งนี้ หมอตา และ/หรือ ผู้ประกอบเลนส์ จะแนะนำวิธีใช้ วิธีใส่และถอด ตลอดจนการดูแลรักษา รวมทั้งการทำความสะอาดเลนส์ และนัด ผู้ใช้เพื่อการตรวจเป็นระยะๆ จนกว่าจะแน่ใจว่าผู้ใช้ ใช้เลนส์ได้อย่างปลอดภัย
ควรดูแลตนเองอย่างไร และควรพบจักษุแพทย์เมื่อไร เมื่อใช้คอนแทคเลนส์?
เนื่องจากเป็นวัสดุที่จำเป็นต้องนำมาวางอยู่หน้าบนกระจกตา จึงควรประกอบ คอนแทคเลนส์ จากผู้รู้ อย่าได้ซื้อใส่เองโดยไม่ได้รับการตรวจสภาพตา อีกทั้งต้องดูแลรักษาความสะอาดอย่างเคร่งครัด มีขั้นตอนต่าง ๆ ของการทำความสะอาด ต้องมีขบวนการฆ่าเชื้อโรค ซึ่งอาจทำได้โดยใช้น้ำยาฆ่าเชื้อหรือใช้ความร้อน อีกทั้งจะต้องมีวิธีขจัดคราบต่างๆ เช่น คราบโปรตีนที่จับในเนื้อเลนส์โดยเฉพาะเลนส์ชนิดนิ่ม
เมื่อใช้ คอนแทคเลนส์ ชนิดใดก็ตาม ควรต้องปฏิบัติตามหมอตา (จักษุแพทย์) ผู้ประกอบเลนส์ และบริษัทผู้ผลิตแนะนำอย่างเคร่งครัด ถูกต้อง แม้ละเลยเพียงเล็กน้อย อาจก่อผลเสียต่อลูกตาได้ เช่น การติดเชื้อของลูกตา และ/หรือ เกิดแผลต่อกระจกตา
หากมีอาการผิดปกติเมื่อใส่คอนแทคเลนส์ เช่น เจ็บตา ระคายเคือง ตาแดง ตาพร่ามัว ควรต้องถอดเลนส์ออกทันที และขณะมีการอักเสบบริเวณดวงตาก็ควรงดไม่ใส่เลนส์ชั่วคราว และรีบพบหมอตา เสมอ
สำหรับผู้ใช้ คอนแทคเลนส์ ไปนานๆ แม้ไม่มีอาการอะไรก็ควรได้รับการตรวจสภาพตาจากหมอตาเป็นระยะๆ หากพบว่า เริ่มมีอาการที่ไม่ดีเกิดขึ้น แพทย์จะได้ให้คำแนะนำรักษา ซึ่งบางรายอาจต้องงดใช้คอนแทคเลนส์ชั่วคราว หรือ อาจตลอดไป
ที่มา https://haamor.com/th/คอนแทคเลนส์ชนิดแข็ง-คอนแทคเลนส์ชนิดนิ่ม/