ทำไมได้เคมีบำบัดแล้วถึงเจ็บปากเจ็บคอ?
ยาเคมีบำบัด (Chemotherapy) มีคุณสมบัติก่อการบาดเจ็บและทำลายเซลล์ทุกชนิด แต่จะทำลายเซลล์มะเร็งมากกว่าเซลล์ปกติมาก และเซลล์ปกติยังมีคุณสมบัติที่จะซ่อมแซมฟื้นตัวจากยาเคมีบำบัดได้ดีกว่าเซลล์มะเร็งมาก ด้วยคุณสมบัติเหล่านี้ จึงได้นำยาเคมีบำบัดมาใช้รัก ษาโรคมะเร็ง และเนื่องจากเซลล์เยื่อเมือกบุช่องปากและช่องคอ มีความไวต่อยาเคมีบำบัดมาก กว่าเซลล์อื่นๆของร่างกายเพราะเป็นเซลล์ที่มีการแบ่งตัวสูงกว่า ดังนั้นเมื่อได้ยาเคมีบำบัด ยาจะส่งผลให้เกิดการบาดเจ็บ อักเสบ (โดยไม่ติดเชื้อ) ของเซลล์เยื่อเมือกบุช่องปาก/ช่องคอ จึงก่อให้เกิดอาการเจ็บปากเจ็บคอได้ แต่จะเป็นอาการเพียงชั่วคราว ซึ่งมักเกิดประมาณ 24 ชั่ว โมงภายหลังยาเคมีบำบัด และจะมีอาการอยู่ประมาณ 4-5 วัน โดยอาการจะดีขึ้นตามลำดับหลังได้ยาเคมีบำบัด 2-3 วันไปแล้ว
ความรุนแรงของอาการเจ็บปากเจ็บคอจะขึ้นกับ
- ชนิดและปริมาณยาเคมีบำบัด
- มีการฉายรังสีรักษาบริเวณช่องปากและลำคอร่วมด้วย
- และผู้ป่วยเคยสูบบุหรี่และ/หรือดื่มสุรามาก่อน
ทำไมฉายรังสีรักษาแล้วถึงเจ็บปากเจ็บคอ?
รังสีรักษา (Radiotherapy หรือ Radiation therapy) ก่อให้เกิดอาการเจ็บปากเจ็บคอ เพราะรังสีจะก่อให้เกิดการบาดเจ็บต่อเซลล์ที่ได้รับรังสี โดยจะต่างจากยาเคมีบำบัดที่ยาเคมีบำ บัดจะก่ออาการเจ็บปากเจ็บคอได้เสมอในทุกครั้งของการให้ยาเคมีบำบัดและในโรคมะเร็งทุกชนิดที่ได้รับยาเคมีบำบัด โดยอาการจะน้อย หรือมาก ขึ้นกับชนิด และปริมาณ (Dose) ของยาเคมีบำบัด แต่รังสีรักษา จะก่อให้เกิดอาการเจ็บปากเจ็บคอ เฉพาะเมื่อเป็นการฉายรังสีรักษาผ่านบริเวณช่องปากและ/หรือช่องคอเท่านั้น ดังนั้นอาการเจ็บปากเจ็บคอ จึงเกิดเฉพาะการฉายรังสีในโรคมะเร็งที่เกิดขึ้นเฉพาะในส่วนศีรษะและลำคอเท่านั้น (การดูแลตนเองเมื่อฉายรังสีรัก ษาบริเวณศีรษะและลำคอ) โรคมะเร็งอื่นๆ เช่น โรคมะเร็งปอด โรคมะเร็งเต้านม โรคมะเร็งปากมดลูก จะไม่มีอาการเจ็บปากเจ็บคอเมื่อได้รับการรักษาด้วยรังสีรักษา
อาการเจ็บปากเจ็บคอจากรังสีรักษา จะมากหรือน้อยขึ้นกับ
- ปริมาณรังสีที่ผู้ป่วยได้รับ
- สุขภาพของช่องปาก (เช่น มีโรคเหงือก โรคฟันผุ)
- การได้ยาเคมีบำบัดร่วมด้วย
- อายุมาก ผู้สูงอายุ
- เป็นโรคเบาหวาน
- เคยสูบบุหรี่
- และ/หรือดื่มสุรา
โดยทั่วไปถ้าผู้ป่วยไม่เคยสูบบุหรี่ และ/หรือดื่มสุรา และ/หรือไม่ได้ยาเคมีบำบัดร่วมด้วย อาการเจ็บปากเจ็บคอมักเริ่มเกิดในสัปดาห์ที่ 2-3 ของการฉายรังสี แต่ถ้าเคยสูบบุหรี่ ดื่มสุรา และ/หรือการได้ยาเคมีบำบัดด้วย อาการเจ็บปากเจ็บคอ จะเกิดได้ภายใน 2-3 วันของการฉายรังสีรักษา
อาการเจ็บปากเจ็บคอจากรังสีรักษาจะทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆเมื่อฉายรังสีต่อเนื่อง จากปริมาณรังสีสะสมที่สูงขึ้น แต่อาการจะค่อยๆดีขึ้นภายหลังหยุดฉายรังสีแล้วประมาณ 2 สัปดาห์ และจะกลับเป็นปกติ หรือใกล้เคียงปกติ ประมาณ 6-8 สัปดาห์หลังครบรังสีรักษาแล้ว (การดูแลตนเองเมื่อฉายรังสีรักษาบริเวณศีรษะและลำคอ)
ป้องกันไม่ให้เจ็บปากเจ็บคอได้ไหม?
การป้องกันอาการเจ็บปากเจ็บคอ จากยาเคมีบำบัดและจากรังสีรักษาเป็นเรื่องยาก เพราะเป็นสิ่งที่ต้องเกิด แต่อาจลดอาการรุนแรงลงได้ เช่น
- การอมน้ำแข็งในช่วงให้ยาเคมีบำบัด หรือในช่วงฉายรังสี แต่เป็นไปได้ยากในทางปฏิบัติ และได้ผลไม่ชัดเจน จึงไม่มีการนำมาใช้ในทางปฏิบัติ
- การเลิกบุหรี่ และสุรา
- การดื่มน้ำสะอาดมากๆ อย่างน้อยวันละ 8-10 แก้วเมื่อไม่มีโรคจำกัดน้ำดื่ม
- การรักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง
- การดูแลการทำงานของไขกระดูกให้ปกติ ไม่มีภาวะเม็ดเลือดขาวต่ำ (ภาวะเม็ดเลือดขาวต่ำจากเคมีบำบัด และ/หรือรังสีรักษา:การดูแลตนเอง) เพื่อป้องกันการติดเชื้อของช่องปากช่องคอ ซึ่ง คือ การกินอาหารมีประโยชน์ 5 หมู่ให้ครบในทุกๆวัน โดยเพิ่มอาหารโปรตีนให้เพียงพอ
ดูแลตนเองอย่างไรเมื่อเจ็บปากเจ็บคอ? ควรพบแพทย์เมื่อไร?
การดูแลตนเองเมื่อมีอาการเจ็บปากเจ็บคอ และการพบแพทย์ ทั้งในการได้รับยาเคมีบำบัดและในรังสีรักษา (การดูแลตนเองเมื่อฉายรังสีรักษาบริเวณศีรษะและลำคอ) คือ
- รักษาความสะอาดช่องปากเสมอ แปรงฟันวันละ 2 ครั้ง ก่อนเข้านอน และเมื่อตื่นนอนเช้า ปรับยาสีฟันเป็นยาสีฟันเด็กที่ไม่ก่อการระคายเยื่อเมือกช่องปาก เปลี่ยนแปรงสีฟันเป็นแปรงเด็กชนิดขนแปรงอ่อนนุ่ม บางครั้งอาจใช้เพียงผ้าสะอาดเช็ดช่องปาก ถ้าการแปรงฟันเพิ่มอาการเจ็บช่องปากมากขึ้น
- บ้วนปากด้วยน้ำเกลือเจือจาง หรือน้ำสะอาด หรือน้ำยาบ้วนปาก (เฉพาะเมื่อแพทย์แนะนำเท่านั้น) หลัง กินอาหาร ดื่มเครื่องดื่ม ทุกครั้ง
- ปรับอาหารเป็นอาหารอ่อน อาหารเหลว (ประเภทอาหารทางการแพทย์)
- กินอาหารให้เพียงพอ โดยเฉพาะอาหารประเภทที่ซ่อมแซมเซลล์ที่บาดเจ็บเสีย หาย ซึ่งคือ อาหารโปรตีน (เช่น นม ไข่ เนื้อสัตว์ ปลา ตับ นมถั่วเหลือง)
- กินอาหารบ่อยๆ เพิ่มมื้ออาหาร แต่กินครั้งละเท่าที่พอกินได้
- ดื่มน้ำสะอาดให้ได้มากๆ อย่างน้อยวันละ 1-2 ลิตรเมื่อไม่มีโรคต้องจำกัดน้ำดื่ม ทยอยดื่มทั้งวัน ไม่ใช่ดื่มรวดเดียว
- จิบน้ำบ่อยๆ อมน้ำแข็งก้อนเล็กๆ เพื่อรักษาความชุ่มชื้นในช่องปากเสมอ ยิ่งช่องปากแห้งจะยิ่งเจ็บปากเจ็บคอ
- รักษาความสะอาดฟันปลอม ถ้าใช้ฟันปลอม และอาจต้องพักการใช้ ถ้ามีแผลที่เหงือก หรือเพดานปาก
- แจ้งแพทย์ พยาบาลเมื่อ
- อาการเจ็บปากเจ็บคอส่งผลถึงการกิน การดื่ม ทั้งๆที่ดูแลตนเองแล้ว
- กิน หรือ ดื่มได้น้อย
- อ่อนเพลียมาก
- มีกลิ่นปากมาก
- มีเลือดออกจากแผลในปาก และ/หรือในคอ
- ท้องเสีย
- ท้องผูก
- มีไข้
- มีความกังวลในอาการ
ที่มา https://haamor.com/th/การดูแลช่องปากเมื่อได้เคมีบำบัดหรือรังสีรักษา/