การติดเชื้อทริโคโมแนส โรคพยาธิในช่องคลอด (Trichomoniasis)


1,207 ผู้ชม


ระบบและอวัยวะที่เกี่ยวข้อง :

ช่องคลอด  อวัยวะเพศชาย  ระบบอวัยวะสืบพันธุ์ชาย  ระบบอวัยวะสืบพันธุ์สตรี 

อาการที่เกี่ยวข้อง :

การติดเชื้อทริโคโมแนสคืออะไร?

การติดเชื้อทริโคโมแนส (Trichomoniasis) หรือเมื่อติดเชื้อในผู้หญิงเรียกได้อีกชื่อว่า โรคพยาธิในช่องคลอด เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์โรคหนึ่งที่พบได้ค่อนข้างบ่อยทั้งในผู้ หญิงและในผู้ชาย เป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อพยาธิที่มีชื่อเรียกว่า ทริโคโมแนส วาไจนอลลิส (Trichomonas vaginalis) อาการที่พบคือผู้หญิงที่ติดโรคจะมีตกขาวผิดปกติ ส่วนในผู้ชายมักจะมีอาการระคายเคืองที่บริเวณอวัยวะเพศ หรือปัสสาวะแสบขัดได้

การติดเชื้อทริโคโมแนส ไม่ได้ก่อให้เกิดอันตรายถึงชีวิต แต่ก่อให้เกิดความรำคาญอันเนื่องมาจากอาการผิดปกติที่เกิดขึ้น อีกทั้งยังเป็นเหตุนำ ทำให้เกิดการติดต่อของโรคทางเพศ สัมพันธ์อื่นๆตามมาได้

การติดเชื้อทริโคโมแนสพบได้มากน้อยเพียงใด?

โรคติดเชื้อทริโคโมแนส เป็นโรคพบได้ค่อนข้างบ่อย และพบในผู้หญิงมากกว่าในผู้ชาย ในผู้หญิงที่มีอายุมากจะติดพยาธิในช่องคลอดได้ง่ายกว่าผู้ที่มีอายุน้อย

ในผู้ที่ติดเชื้อจะพบว่ามีเพียง 30% เท่านั้นที่จะปรากฏอาการผิดปกติ และด้วยเหตุนี้จึงทำให้การแพร่กระจายเชื้อเกิดขึ้นได้ง่าย เพราะผู้ที่ติดเชื้อส่วนใหญ่ไม่ทราบว่าตัวเองมีการติดเชื้อแล้วเนื่องจากไม่มีอาการผิดปกติ จึงทำให้ขาดการป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อไปยังผู้ อื่น

การติดเชื้อทริโคโมแนสเกิดขึ้นได้อย่างไร?

การติดเชื้อทริโคโมแนสมักมีการติดต่อผ่านการมีเพศสัมพันธ์ การติดโรคในผู้หญิง มักจะเป็นที่ตำแหน่งอวัยวะเพศภายนอก ช่องคลอด และท่อปัสสาวะ ส่วนในผู้ชาย มักมีการติดโรคที่ท่อปัสสาวะ

การติดเชื้อทริโคโมแนสที่ตำแหน่งอื่นของร่างกาย เช่น มือ ปาก หรือทวารหนัก มักจะไม่ค่อยเกิดขึ้น

ดังที่ได้กล่าวไปข้างต้นแล้วว่า การติดเชื้อทริโคโมแนส ไม่ได้ก่อให้เกิดอาการผิดปกติในผู้ที่ติดเชื้อทุกราย อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันก็ยังไม่เป็นที่ทราบชัดเจนว่า อะไรเป็นปัจจัยที่ส่ง ผลต่อการแสดงหรือไม่แสดงอาการของการติดเชื้อ อาจจะเกี่ยวข้องกับ อายุ หรือสภาวะสุข ภาพของผู้ที่ติดเชื้อก็เป็นได้ อย่างไรก็ดี ผู้ที่ติดเชื้อทั้งที่แสดงและไม่แสดงอาการก็สามารถแพร่กระจายเชื้อไปสู่ผู้อื่นได้เช่นกัน

อาการของการติดเชื้อทริโคโมแนสเป็นอย่างไร?

ในผู้ที่ติดโรคนี้ ประมาณ 70% มักจะไม่มีอาการที่ผิดปกติ นั่นคือมีเพียงประมาณ 30% ของผู้ที่ติดเชื้อที่จะปรากฏอาการให้เห็นอาการที่พบ อาจเป็นแค่เพียงความรู้สึกระคายเคืองเล็กน้อยที่อวัยวะเพศ หรือมีอาการอักเสบอย่างรุนแรงปรากฏให้เห็นอย่างเด่นชัด การแสดงอาการของโรคอาจพบได้หลังจากที่มีการติดโรคแล้วตั้งแต่ 5 วันจนถึง 1 เดือนอาการที่เกิดขึ้นอาจเป็นๆหายๆได้

ในผู้ชายที่ติดเชื้อทริโคโมแนส อาการที่พบได้แก่ อาการคัน หรือรู้สึกระคายเคืองอวัยวะเพศ ปัสสาวะแสบ หรือมีสารคัดหลั่งไหลออกจากอวัยวะเพศ (ปากท่อปัสสาวะ)ได้

ในผู้หญิงที่ติดเชื้อทริโคโมแนส อาการที่พบได้แก่ การที่มีอาการคัน แสบ แดง และเจ็บที่อวัยวะเพศ ในบางรายอาจมีอาการปัสสาวะแสบขัด หรือมีตกขาวผิดปกติ เช่น ตกขาวสีเหลือง หรือสีเขียว หรือ มีกลิ่นเหม็น เป็นต้น

ดังนั้นการมีเชื้อทริโคโมแนสในร่างกาย จึงอาจทำให้เกิดความไม่พึงพอใจขณะที่มีเพศ สัมพันธ์ได้ทั้งสองฝ่าย

ภาวะแทรกซ้อนหรือผลข้างเคียงที่เกิดจากการติดเชื้อทริโคโมแนสมีอะไรบ้าง?

การติดเชื้อทริโคโมแนสนั้น เป็นการเพิ่มความเสี่ยงอย่างหนึ่งในการติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์โรคอื่นๆ ทั้งนี้เพราะเชื้อทริโคโมแนส ทำให้เกิดการอักเสบของอวัยวะเพศ จึงทำให้ง่ายต่อการติดเชื้อและต่อการแพร่เชื้อของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่นๆ เช่น การติดเชื้อเอชไอวี หรือโรคเอดส์ เป็นต้น

ในกรณีที่ตั้งครรภ์ การติดเชื้อทริโคโมแนส เป็นความเสี่ยงอย่างหนึ่งที่จะทำให้มีโอกาสในการคลอดก่อนกำหนดสูงขึ้น และมีแนวโน้มว่าทารกที่คลอดออกมามักจะมีน้ำหนักน้อยกว่าเกณฑ์ที่ควรเป็น คือน้อยกว่า 2,500 กรัม

แพทย์วินิจฉัยการติดเชื้อทริโคโมแนสได้อย่างไร?

การวินิจฉัยโรคการติดเชื้อทริโคโมแนสนั้น ต้องอาศัยการตรวจวินิจฉัยโดยแพทย์ แพทย์จะทำการตรวจภายในและทำการตรวจทางห้องปฏิบัติการเพิ่มเติม โดยการนำตกขาวไปตรวจ หาตัวพยาธิ การวินิจฉัยจากอาการที่เป็นเพียงอย่างเดียวนั้น ไม่อาจให้การวินิจฉัยโรคที่ถูกต้องได้

วิธีรักษาการติดเชื้อทริโคโมแนสทำได้อย่างไร?

การติดเชื้อทริโคโมแนสนั้น สามารถรักษาให้หายได้ด้วยยารับประทานเพียงครั้งเดียว เช่น ยา Metronidazole หรือ Tinidazole และควรงดดื่มแอลกอฮอล์เมื่อกินยาอย่างน้อยประ มาณ 3 วันหลังกินยาครบ เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ (เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง หัวใจเต้นผิดปกติ ปวดศีรษะ และความดันโลหิตสูง) และในกรณีที่ตั้งครรภ์ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสม เพราะยาอาจก่อผลข้างเคียงรุนแรงต่อทารกในครรภ์ได้

ผู้ที่ได้รับการรักษาแล้ว มีโอกาสในการติดเชื้อทริโคโมแนสซ้ำได้อีก โดยพบว่าประมาณ 1 ใน 5 คนจะติดเชื้อซ้ำอีกครั้งภายใน 3 เดือน ดังนั้นการรักษาคู่นอนของผู้ที่ติดโรคจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องกระทำ และควรงดมีเพศสัมพันธ์อย่างน้อย 1 สัปดาห์หลังกินยา หากมีอา การผิดปกติเกิดขึ้นอีกครั้งควรรีบพบแพทย์

เมื่อติดเชื้อทริโคโมแนสแล้วและไม่ได้รักษา การติดเชื้อดังกล่าวอาจคงอยู่ในร่างกายได้นานเป็นเดือนหรือเป็นปี

มีวิธีป้องกันการติดเชื้อทริโคโมแนสอย่างไร?

การใช้ถุงยางอนามัยชนิด ลาเทก (Latex)อย่างถูกวิธีจะช่วยลดการแพร่ของเชื้อทริโคโมแนสได้ แต่ก็ไม่อาจป้องกันได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ การงดมีเพศสัมพันธ์เป็นการป้องกันที่ได้ผลร้อยเปอร์เซ็นต์ อย่างไรก็ตาม การมีเพศสัมพันธ์ที่ยั่งยืนต่อกันนั้น ก็ช่วยลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ ทริโคโมแนสและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่นๆลงได้อย่างมาก

การดูแลตนเองเมื่อสงสัยว่าจะมีการติดเชื้อทริโคโมแนสทำได้อย่างไร?

ในผู้หญิงเมื่อมีตกขาวผิดปกติ หรือในผู้ชายเมื่อรู้สึกระคายเคืองที่อวัยวะเพศหรือรู้สึกแสบขัดเวลาปัสสาวะ ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อเข้ารับการตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาที่เหมาะ สม และเมื่อทราบว่าตนเองติดเชื้อทริโคโมแนสแล้ว ควรเข้ารับการตรวจคัดกรองโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่นๆด้วย เช่น การติดเชื้อเอชไอวี หรือโรคเอดส์ นอกจากนี้ควรนำคู่นอนมารับการตรวจรักษาที่เหมาะสม และงดมีเพศสัมพันธ์จนกว่าอาการจะหายหรืออย่างน้อย 1 สัปดาห์หลังกินยา
ที่มา   https://haamor.com/th/การติดเชื้อทริโคโมแนส/

อัพเดทล่าสุด