ทำไมได้เคมีบำบัด หรือรังสีรักษาแล้วติดเชื้อได้ง่าย? ติดเชื้ออะไรได้บ้าง?
ผู้ป่วยโรคมะเร็งทุกคน โดยธรรมชาติของโรค จะมีภูมิคุ้มกันต้านทานของร่างกายต่ำอยู่แล้ว อาจโดย เป็นผลจากตัวโรคมะเร็งเอง พันธุกรรม เป็นต้น
ส่วนการรักษาด้วยยาเคมีบำบัด และ/หรือรังสีรักษา ทั้ง 2 วิธีการ จะมีผลต่อเซลล์ร่าง กายที่ทำหน้าที่สร้างภูมิคุ้มกันต้านทานโรค ซึ่งที่สำคัญคือไขกระดูก โดยยาเคมีบำบัด และรังสีรักษาจะทำให้เซลล์ไขกระดูกเกิดบาดเจ็บ และมีจำนวนเซลล์ลดลง โดยเฉพาะเซลล์เม็ดเลือดขาว ซึ่งมีหน้าที่ให้ภูมิคุ้มกันต้านทานการติดเชื้อโรคทุกชนิดโดยตรง ดังนั้นผู้ป่วยโรคมะเร็งที่ได้ รับยาเคมีบำบัด และ/หรือรังสีรักษาจึงมักมีภูมิคุ้มกันต้านทานโรค และมีภาวะเม็ดเลือดขาวต่ำกว่าคนปกติ ดังนั้นจึงมีโอกาสติดเชื้อได้ง่ายกว่าคนปกติทั่วไป และโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อได้รับการรักษาร่วมกันทั้งยาเคมีบำบัดและรังสีรักษา (ภาวะเม็ดเลือดขาวต่ำจากเคมีบำบัด และ/หรือรังสีรักษา:การดูแลตนเอง)
การติดเชื้อที่เกิดจากภาวะเม็ดเลือดขาวต่ำ เป็นการติดเชื้อที่เกิดได้จากเชื้อโรคทุกชนิด ทั้งแบคทีเรีย เชื้อรา เชื้อไวรัส และสัตว์เซลล์เดียว/ปรสิต/โปรโตซัว แต่พบบ่อยที่สุด คือ ติดเชื้อแบคทีเรีย รองลงไป คือ ติดเชื้อรา
การติดเชื้อในภาวะมีเม็ดเลือดขาวต่ำ มักเป็นการติดเชื้อที่รุนแรง และเป็นสาเหตุให้เสีย ชีวิตได้ในอัตราค่อนข้างสูงและอย่างรวดเร็ว เพราะมักลุกลามเป็นการติดเชื้อในกระแสโลหิตได้ง่าย (ภาวะพิษเหตุติดเชื้อ/ภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด)
ป้องกันการติดเชื้อเมื่อได้เคมีบำบัดและ/หรือรังสีรักษาอย่างไร?
การป้องกันการติดเชื้อเมื่อได้รับยาเคมีบำบัดและ/หรือรังสีรักษา คือ
- รักษาสุขอนามัยพื้นฐาน (สุขบัญญัติแห่งชาติ) เสมอ
- พักผ่อนให้เพียงพอ
- กินอาหารมีประโยชน์ 5 หมู่ให้ครบถ้วนทุกวัน
- กินแต่อาหารปรุงสุกทั่วถึง ไม่ใช่สุกๆดิบๆ ไม่กินอาหารค้าง
- ชาม ช้อน แก้วน้ำ ต้องสะอาด
- ระมัดระวังการกินอาหารทะเลทุกชนิด เพราะมักติดเชื้อได้ง่าย จากเป็นอาหารที่ล้างให้สะอาดได้ยาก และมักปรุงสุกๆดิบๆ เช่น หอย ปู และกุ้ง
- ไม่บริโภคผักสด ผลไม้ไม่ปอกเปลือก
- ระวังพวกน้ำซอส น้ำจิ้ม พริกน้ำส้ม เครื่องปรุงรส ที่ทิ้งค้างไว้ รวมทั้งซอสมะเขือเทศ
- ควรหลีกเลี่ยงนมเปรี้ยว และโยเกิร์ต ซึ่งมีจุลินทรีย์ที่ในภาวะร่างกายปกติ จะเป็นจุ ลินทรีย์ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง แต่ในภาวะร่างกายมีภูมิคุ้มกันต้านทานโรคต่ำ จุลิน ทรีย์เหล่านี้ อาจเจริญเติบโตผิดปกติจนส่งผลให้เป็นสาเหตุของการติดเชื้อได้
- ระวังน้ำดื่มต้องสะอาด โดยเฉพาะน้ำแข็ง
- เคลื่อนไหว ออกกำลังกายตามควรกับสุขภาพทุกวัน
- ไม่ไปในที่แออัด เช่น ศูนย์การค้า ถ้าจะไปควรใช้หน้ากากอนามัย และเลือกไปในช่วงเวลาที่มีคนน้อย เช่น ในวันราชการ และในช่วงห้างแรกเปิด หรือเกือบจะปิดแล้ว
- ระมัดระวังการใช้ สัมผัสของใช้สาธารณะ เช่น ราวบันไดเลื่อน การใช้ลิฟต์ การใช้โทรศัพท์สาธารณะ
- ล้างมือให้สะอาดบ่อยๆโดยเฉพาะก่อนกินอาหารและหลังเข้าห้องน้ำ
- ระมัดระวังไม่ให้เกิดแผลต่างๆตามร่างกาย โดยเฉพาะที่เท้า และบริเวณเล็บ
- ตัดเล็บให้สั้นป้องกันแผลติดเชื้อจากการเกา
- ระวังการติดเชื้อจากสัตว์เลี้ยง
- รู้จักใช้หน้ากากอนามัย
- ใช้ถุงยางอนามัยเสมอเมื่อมีเพศสัมพันธ์ไม่ว่าผู้ป่วยโรคมะเร็งจะเป็นหญิง หรือ ชาย
- รู้จักดูแลตนเองในภาวะเม็ดเลือดขาวต่ำ (ภาวะเม็ดเลือดขาวต่ำจากเคมีบำบัด และ/หรือรังสีรักษา:การดูแลตนเอง)
ดูแลตนเองอย่างไรเมื่อมีการติดเชื้อ? ควรพบแพทย์เมื่อไร?
การดูแลตนเองเมื่อมีการติดเชื้อ รู้ได้โดย มักมีไข้ ท้องเสีย ไอมาก ไอมีเสมหะ หรือเสมหะมีสีเขียว หรือเหลือง คอแข็ง ปวดศีรษะมาก มีฝ้าขาวในช่องปากหรือที่อวัยวะเพศ ผิว หนังขึ้นผื่น ปัสสาวะแสบขัด เจ็บปาก คอ มาก เจ็บ/ปวดหูมาก และ/หรือผิวหนังมีแผล/ฝี บวม แดง ร้อน ควรต้องรีบพบแพทย์ภายใน 24-48 ชั่วโมงตามความรุนแรงของอาการ
แต่ถ้ามี ไข้สูงร่วมกับท้องเสีย และ/หรือคอแข็ง ร่วมกับมีเม็ดเลือดขาวต่ำ ต้องไปโรง พยาบาลฉุกเฉินเสมอ
อนึ่งซีบีซี (CBC) ซึ่งระหว่างได้ยาเคมีบำบัด หรือ รังสีรักษา แพทย์จะตรวจ ซีบีซี อย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง และแพทย์ พยาบาลจะแจ้งให้ผู้ป่วยทราบ พร้อมให้คำแนะนำการดูแลตนเองในภาวะเม็ดเลือดขาวต่ำ ซึ่งผู้ป่วยควรต้องปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด จะรู้ได้ว่า มีเม็ดเลือดขาวต่ำ โดยการตรวจเลือด
นอกจากนั้น การดูแลตนเองที่สำคัญอีกประการ คือ เมื่อมีการตรวจต่างๆ รวมทั้งการตรวจเลือด ผู้ป่วยควรสอบถามแพทย์ พยาบาลว่าตรวจอะไร และผลตรวจเป็นอย่างไร เพื่อการดูแลตนเองได้อย่างเหมาะสม
ที่มา https://haamor.com/th/การป้องกันภาวะติดเชื้อในคนไข้เคมีบำบัด/