ทั่วไป
ผู้ที่ไปเที่ยวชายทะเลจำนวนไม่น้อย มีประสบการณ์ถูกแมงกะพรุน (Jellyfish) ต่อย ทำให้เกิดความทุกข์ทรมาน มากน้อยแล้วแต่ชนิดของแมงกะพรุนและขนาดพื้นที่บนร่างกายที่ถูกต่อย ท่านทราบไหมว่า แมงกะพรุนต่อยเป็นสาเหตุให้คนบาดเจ็บและเสียชีวิตได้
ข้อมูลจากประเทศฟิลิปปินส์พบว่า มีผู้เสียชีวิต 20-40 คนต่อปีจากแมงกะพรุนต่อย
การถูกแมงกะพรุนต่อย พบได้บ่อยริมฝั่งทะเล ทั้งที่เป็นทะเลน้ำอุ่นและน้ำเย็น จำนวนแตกต่างกันไป เช่น 60,000 ถึง 200,000 รายต่อปีในแถวชายฝั่งฟลอริดา ประเทศสหรัฐ อเมริกา และมีรายงานที่เสียชีวิตจากทางภาคเหนือของประเทศออสเตรเลีย 1 รายในทุก 2-3 ปี
ธรรมชาติของแมงกะพรุนเป็นอย่างไร?
แมงกระพุรน เป็นสัตว์น้ำไม่มีกระดูกสันหลัง ตัวใสคล้ายวุ้น ด้านบนเป็นวงโค้งคล้ายร่ม ด้านล่างตรงกลางเป็นอวัยวะที่ทำหน้าที่กินและย่อยอาหาร มีหลายชนิด เช่นแมงกะพรุนจาน แมงกะพรุนหนัง ซึ่งกินได้ ส่วนแมงกะพรุนถ้วย แมงกะพรุนไฟ และแมงกะพรุนลายจะมีพิษ
แมงกะพรุนเป็นสัตว์น้ำอยู่ในไฟลัม (การจัดประเภทของสัตว์) /Phylum Coelenterata ซึ่งแบ่งเป็น 2 ชนิด (Class)
- Scyphozoa jellyfish คือแมงกะพรุนทั่วๆไป ที่เรามักเห็นเกยตื้นตามชายหาด ตัวใสๆ หรือเห็นประกอบอยู่ในอาหาร
- Hydrozoa (Portuguese man-of-war) คือแมงกะพรุนไฟ ซึ่งจะมีลักษณะแตก ต่างจากแมงกะพรุนธรรมดาอย่างเห็นได้ชัด โดยมีสีสันค่อนข้างสดใส มีหนวดยาว
อนึ่ง แมงกะพรุนจะมีเข็มพิษ (Nematocyst) อยู่ทั่วตัว โดยเฉพาะบริเวณหนวดและรอบปากซึ่งใช้ในการล่าเหยื่อ ทั้งนี้พบแมงกะพรุนได้ทั่วโลก มักอยู่บริเวณใกล้ผิวน้ำ บริเวณที่แสง แดดไม่จัด จะล่องลอยไปกับกระแสน้ำ คนมักถูกแมงกะพรุนต่อยโดยบังเอิญเนื่องจากว่ายน้ำไปโดน ทำให้มีอาการตั้งแต่ระคายเคืองเพียงเล็กน้อยจนถึงอาจมีอาการรุนแรงถึงชีวิต ซึ่งแมงกะ พรุนที่มีพิษถึงตายอยู่บริเวณทะเลแถบอินโด-แปซิฟิก และออสเตรเลีย
เมื่อแมงกะพรุนต่อยจะมีอาการอย่างไร?
อาการที่เกิดจากแมงกะพรุนต่อยมีได้แตกต่างกันตาม ชนิดของแมงกะพรุน ลักษณะของคนที่ถูกต่อย ระยะเวลาและปริมาณที่แมงกะพรุนสัมผัสหรือต่อย และการรักษาเมื่อเริ่มต้นถูกต่อย
ผู้ถูกแมงกะพรุนต่อยอาจมองไม่เห็นหนวดของแมงกะพรุน แต่จะรู้สึกปวดทันทีที่ถูกต่อย และจะเห็นมีเส้นแดงหรือเป็นลมพิษภายในไม่กี่นาทีหลังถูกต่อย บางคนอาจจะใช้เวลาหลายชั่วโมงจึงเห็นรอยนั้น ส่วนใหญ่บริเวณที่ถูกต่อยจะมีอาการปวดแสบปวดร้อนมากและอาจคัน อาการปวดนี้อาจลามไปที่ แขน ขา และลำตัว
เมื่อตรวจร่างกายจะพบเป็นรอยนูนเป็นรูปหนวดของแมงกะพรุนทาบอยู่ที่แขน ขา หรือลำ ตัว หรืออาจพบเป็นกลุ่มของตุ่มน้ำใสๆเป็นแนวที่ถูกหนวดของแมงกะพรุน หรือเป็นปื้นใหญ่ๆ หรือเป็นรอยไหม้แดงเป็นเส้นยาว
แมงกะพรุนบางชนิด เมื่อต่อยแล้วจะก่ออาการรุนแรง ทำให้เนื้อเยื่อผิวหนังอักเสบ โดยเริ่มจากการมีผิวหนังบวมแดงตรงบริเวณที่ถูกต่อย แล้วเป็นมากขึ้น แต่อาการมักจะหายไปภาย ใน 10 วัน แม้ว่าบางคนอาจมีอาการอยู่หลายสัปดาห์
- อาการอื่นๆที่รุนแรงเมื่อแมงกะพรุนต่อย คือ
- เมื่อแมงกะพรุนต่อยที่ตา อาการเริ่มต้นจะแสบร้อนที่ตา ตากลัวแสง เยื่อบุตาอัก เสบ บวม และมีอาการอักเสบของบริเวณเนื้อเยื่อตาที่ลึกลงไป อาการจะดีขึ้นใน 48 ชั่วโมง บางคนอาจเกิดผลตามมาที่ตาหลังจากนั้นนานเป็นปี หรือหลายปี เช่น เห็นภาพไม่ชัด หรือเป็นต้อหิน
- มีบางคนถูกแมงกะพรุนต่อยแล้วมีอาการทางระบบประสาท เรียกว่า กลุ่มอาการ กิแลง แบร์เร่ (Guillain Barre syndrome) ทำให้เป็นอัมพาต
- บางคนมีอาการทางหัวใจคือ กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน หลังจากถูกแมงกะพรุนต่อย
- บางคน อาจมีอาการต่างๆทั่วร่างกาย (Systemic reaction) เช่น มีไข้ คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย ต่อมน้ำเหลืองโตปวดท้อง ชาและปวดเกร็งกล้ามเนื้อ มีอาการทางหัวใจ และ/หรือมีอาการทางระบบประสาท
แมงกะพรุนต่อยทำให้ถึงตายได้หรือไม่?
ชนิดแมงกะพรุนที่ทำให้เกิดอันตรายมาก
-
แมงกะพรุนที่มีอันตรายมาก
คือ แมงกะพรุนที่เรียก คูโบโซน (Cubozoan) หรือ บอกซเจลลี่ฟิช (Box jellyfish) ชื่อของมันมาจากรูปร่างที่มีลักษณะคล้ายกล่อง หรืออีกชื่อ คือ ต่อทะเล (Sea wasp) แมงกะพรุนชนิดนี้มีหนวดยาวจำนวนมาก พบบ่อยในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนพฤษภาคม แต่สามารถพบได้ตลอดปีในแถบทะเลบริเวณทรอปิคอล และแถวประเทศออสเตรเลียพบได้มากเมื่อ บอกซ์เจลลี่ฟิช ต่อย จะมีอาการปวดมากทันที หนวดของมันจะเหนียวและทิ้งร่องรอยเป็นแนวแดง พิษของมันมีผลต่อระบบประสาท หัวใจ และทำลายผิวหนัง และอาจทำให้ เหยื่อเสียชีวิตได้ หากรักษาไม่ทันท่วงที
- แมงกะพรุน Curakia barnesi ซึ่งเป็นบอกซ์เจลลี่ฟิช ชนิดหนึ่ง เมื่อต่อย จะก่อให้เกิดกลุ่มอาการอิรุคันด์จิ (Irukandji syndrome) เป็นกลุ่มอาการที่มีอาการหลายอย่างคือ ปวดหลัง กล้ามเนื้อเกร็ง อาเจียน กระสับกระส่าย หรือตื่นตกใจ หงุดหงิด ในผู้ป่วยจำนวนน้อยบางรายมีอาการปอดบวมน้ำ ความดันโลหิตสูง และหัวใจล้มเหลว หากไม่ได้รับการรักษาจะเสียชีวิต หรือบางคนจมน้ำเสียชีวิตโดยไม่ทราบว่าถูกแมงกะพรุนนี้ต่อย
แมงกะพรุนชนิดนี้มักพบในแถบทะเลแถวออสเตรเลีย ซึ่งชื่อกลุ่มอาการที่เกิดจากแมงกะพรุนชนิดนี้ต่อย เรียกตามชนเผ่า Irukandji Aboriginal ซึ่งอาศัยอยู่ในแถบ Cairns ในนอร์ทควีนส์แลนด์ซึ่งเป็นบริเวณที่พบแมงกะพรุนชนิด Carukia barnesi มาก
- Bluebottle jellyfish และ Pacific man-o-war หรือ Portuguese man-of-war เป็น กลุ่มสัตว์น้ำที่ไม่ใช่แมงกะพรุน จัดเป็นสัตว์น้ำในกลุ่ม Physalia species แต่ต่อยได้เหมือนแมง กะพรุน พบในแถบมหาสมุทรแปซิฟิกและออสเตรเลีย
เมื่อสัตว์น้ำกลุ่มนี้ต่อยจะมีอาการปวดรุนแรงทันทีและปวดอยู่นาน มักจะมีอาการปวดไปบริเวณต่อมน้ำเหลืองของแขน ขาในส่วนที่ถูกต่อยด้วย
การปฐมพยาบาลเมื่อถูกแมงกะพรุนต่อยทำอย่างไร?
การปฐมพยาบาลเมื่อถูกแมงกะพรุนต่อย คือ
- ถ้าถูกแมงกะพรุนกลุ่มที่มีพิษร้ายจำพวกบอกซ์เจลลี่ฟิชต่อย ต้องรีบไปพบแพทย์ทัน ที หรือรีบโทรศัพท์ติดต่อรถพยาบาลให้รีบมารับ
ขณะที่รอการรักษาอยู่นั้น ล้างบริเวณที่ถูกต่อยด้วยน้ำส้มสายชู (ไม่เจือจาง) ก่อนที่จะเอาหนวดของแมงกะพรุนออก ให้ราดน้ำส้มสายชูไปบนบริเวณที่ถูกต่อยและราดลงบนหนวดของแมงกะพรุนประมาณ 10 นาที หรือมากกว่า ก่อนที่จะพยายามดึงหนวดของแมงกะพรุนออกไป
ถ้าแมงกะพรุนต่อยที่แขน ขา เอาผ้ารัดไม่ให้พิษกระจายไปเร็ว แต่อย่ารัดแน่นจนเลือดไปเลี้ยงเนื้อเยื่อต่างๆไม่เพียงพอ
- ถ้าถูกแมงกะพรุนชนิดอื่นๆ ให้ค่อยๆราดและล้างบริเวณที่ถูกต่อยด้วยน้ำส้มสายชู ใช้
เวลาประมาณ 15-30 นาทีเพื่อป้องกันไม่ให้ถุงพิษจากหนวดปล่อยสารพิษออกมา
ถ้าไม่มีน้ำส้มสายชู ให้ล้างด้วยน้ำทะเล หรือ 70% ไอโซโปรปิลแอลกอฮอล์ (Isopropyl alcohol) หรือแอมโมเนีย หรือทาโลชันที่หาได้ใกล้ตัว
มีการแนะนำให้ใช้ผักบุ้งทะเลซึ่งชอบขึ้นอยู่แถวชายหาดที่มีแมงกะพรุน ขยี้กับน้ำส้มสาย ชูความเข้มข้น 5% ประคบผิวหนังบริเวณที่โดนพิษแล้วห่อด้วยผ้าขาวบางทิ้งไว้ 30-60 นาที อาการระคายจะค่อยๆดีขึ้น ข้อสำคัญผักบุ้งทะเลต้องสะอาด แต่วิธีนี้ควรมีการศึกษาให้มากขึ้น เพราะตำราและข้อเสนอแนะทั่วไปเน้นการใช้น้ำส้มสายชูซึ่งหากหาไม่ได้ให้ใช้น้ำทะเลราด
พยายามกำจัดเข็มพิษออกโดยใช้สันบัตรแข็งๆ เช่น บัตรเครดิตขูดบริเวณที่ถูกแมงกะ พรุนต่อย
-
สิ่งที่ไม่ควรทำในบริเวณที่แมงกะพรุนต่อย
คือ- ล้างด้วยน้ำเปล่า
- ใช้มือถูบริเวณที่ถูกต่อย
- ประคบด้วยความร้อน หรือน้ำแข็ง
ซึ่งการกระทำดังกล่าวข้างต้น ทำให้เข็มพิษของแมงกะพรุนยังคงปล่อยพิษออกมาเรื่อยๆ
-
การเอาหนวดแมงกะพรุนออกจากร่างกาย
โดยใช้ไม้เขี่ยออกหรือใช้ที่คีบออก หากหาถุงมือใส่ได้จะดีมาก -
การปฐมพยาบาลเมื่อแมงกะพรุนต่อยที่ตา
ให้ล้างตาด้วยน้ำเกลือ Normal saline ใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำส้มสายชูซับที่ผิวหนังรอบๆตา โดยไม่ให้น้ำส้มสายชูสัมผัสกับดวงตาโดยตรง -
การปฐมพยาบาลเมื่อแมงกะพรุนต่อยในปาก
ใช้น้ำส้มสายชูความเข้มข้นหนึ่งในสี่โดยผสมน้ำส้มสายชูหนึ่งส่วนสี่ (1/4) แก้ว กับน้ำสามส่วนสี่ (3/4) แก้ว กลั้วปากแล้วบ้วนออก ไม่ดื่มเข้าไป -
การดูแลตนเองตามอาการเมื่อมีอาการปวดหรืออาการคัน
Paracetamol) ขนาดเม็ดละ 325 มก. 1-2 เม็ดทุก 4-6 ชั่วโมงถ้ามีอาการปวด ถ้ามีอาการคัน กินยาแอนติฮิสตามีน (Antihistamine) หรือให้ครีมสเตียรอยด์ทาบริเวณที่ถูกต่อย กินยาแก้ปวด ได้แก่ พาราเซตามอล (
เมื่อถูกแมงกะพรุนต่อยควรไปพบแพทย์เมื่อใด?
เมื่อถูกแมงกะพรุนต่อย ต้องรีบไปพบแพทย์ทันทีเมื่อมีอาการดังนี้
- หายใจลำบาก กลืนลำบาก เจ็บหน้าอก หรือปวดบริเวณที่ถูกแมงกะพรุนต่อยมาก
- โดนแมงกะพรุนที่ดวงตา
- เมื่อถูกแมงกะพรุนต่อยในปาก หรือหนวดแมงกะพรุนเข้าปาก แล้วมีเสียงพูดเปลี่ยน กลืนลำบาก มีลิ้นและริมฝีปากบวม
- ผู้ที่ถูกแมงกะพรุนต่อยอายุน้อยมาก หรือมีอายุมาก
- แมงกะพรุนต่อยเป็นบริเวณกว้างที่ลำตัว หรือต่อยใบหน้า หรืออวัยวะเพศ
- มีอาการ คัน บวมแดง ปวดผิวหนังอยู่ตลอดเวลา
แพทย์มีแนวทางการรักษาอย่างไรเมื่อผู้ป่วยถูกแมงกะพรุนต่อย?
แนวทางการรักษาเมื่อถูกแมงกะพรุนต่อย คือ
- แพทย์จะประเมินระบบการหายใจและการทำงานของระบบหายใจ หากมีอาการรุน แรง แพทย์จะรีบช่วยกู้ชีพตามขั้นตอนทางการแพทย์
- ประเมินเรื่องอาการแพ้ (Allergic reaction) หากมีอาการที่บ่งบอกว่ามีการแพ้ (เช่น ผื่นคันทั่วตัว หน้า ตา ริมฝีปากบวมแผลที่ถูกต่อยบวมมาก ข้อต่างๆบวม และ/หรือ แน่น หายใจลำบาก) แพทย์จะรักษาอาการแพ้ และสังเกตอาการจนกว่าจะแน่ใจว่าไม่เกิดอาการซ้ำ และผู้ ป่วยปลอดภัย
- รักษาตามอาการ เช่น อาการปวด คัน โดยให้ยาตามอาการนั้นๆ
ดูแลแผลแมงกะพรุนต่อยอย่างไรหลังการปฐมพยาบาล?
แผลแมงกะพรุนต่อยที่เป็นไม่มาก สามารถดูแลได้เองเช่นเดียวกับแผลอักเสบทั่วไป (Inflammation) ที่ไม่มีการติดเชื้อแบคทีเรีย โดยการทาแผลด้วยครีมสเตียรอยด์ เช่น
หลังการล้างแผลตามวิธีที่กล่าวข้างต้น แผลจะค่อยๆดีขึ้นและหายได้ในเวลาไม่กี่วัน ส่วนใหญ่จะหายภายใน 10 วัน
ส่วนแผลที่พองหรือมีน้ำเหลืองซึมให้ประคบด้วยน้ำเกลือล้างแผล Normal saline โดยใช้ผ้าก๊อส หรือสำลีสะอาดแผ่เป็นแผ่นบางชุบน้ำเกลือล้างแผล แล้ววางประคบลงบนแผลที่แฉะสัก 10-15 นาที จึงเอาผ้าหรือสำลีที่ประคบออก วิธีนี้เป็นการล้างแผลที่ไม่เจ็บและได้ผลดี
ถ้าไม่ได้พบแพทย์แต่แรกโดยดูแลแผลเอง เมื่อไรควรไปพบแพทย์?
ถ้าไม่ได้พบแพทย์แต่แรกโดยดูแลแผลเอง ควรพบแพทย์เมื่อ
- เมื่อแผลซึ่งควรมีอาการดีขึ้น คือ อาการปวด บวม แดง ร้อนลดลง แต่กลับมีอาการมากขึ้น หรือมีไข้ร่วมด้วย แสดงว่าแผลอาจมีการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน ต้องรีบไปพบแพทย์เพื่อทำการวินิจฉัยและรักษาโดยเร็ว ก่อนที่การติดเชื้อจะแพร่กระจายจากการติดเชื้อเฉพาะที่เป็นการติดเชื้อเข้ากระแสเลือด/โลหิตไปทั่วรางกาย (ภาวะพิษเหตุติดเชื้อ /ภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด)
- เมื่อมีแผลเป็นนูนที่เรียกว่า คีลอยด์ (Keloid) และการทาครีมสเตียรอยด์ไม่ได้ผล แพทย์อาจต้องประเมินและให้การรักษาต่อ เช่น ฉีดยาสเตียรอยด์เข้าไปที่แผลเป็นนูนนั้น
ป้องกันแมงกะพรุนต่อยอย่างไร?
ป้องกันแมงกะพรุนต่อยโดย
- เมื่อจะลงไปในทะเล สวมใส่ชุดที่ป้องกันไม่ให้แมงกะพรุนต่อย เช่น Wet suit หรือชุดทำจากไลครา (Lycra)
- อย่าเก็บแมงกะพรุนที่ตายแล้วมาเล่น เพราะต่อมพิษยังอาจปล่อยพิษได้อยู่
- ควรหลีกเลี่ยงการเข้าไปในบริเวณที่มีแมงกะพรุนชุกชุม หากจำเป็นต้องเข้าไป ควรรู้ว่าบริเวณนั้นมีแมงกะพรุนชนิดใดมากที่สุด
- ควรมีความรู้เรื่องการปฐมพยาบาล และมีอุปกรณ์จำเป็นในการรักษาไปด้วย ในพวกที่มีประวัติแพ้แมลง ควรมียาอิพิเนฟรีนคิต (ปากกาฉีดยาอิพิเนฟรีน/Epinephrine kit/ยาฉีดรัก ษาอาการแพ้สิ่งต่างๆ) ติดไว้ในยามฉุกเฉินด้วย
- เมื่อลงเล่นน้ำทะเล ควรเล่นอยู่ในบริเวณที่มียามประจำฝั่งดูแลได้ทั่วถึง ในบางแห่งที่มีแมงกะพรุนชุกชุมและมีอันตราย อาจมีการล้อมบริเวณด้วยตาข่าย ควรเล่นน้ำอยู่ในบริเวณที่จำกัดนั้นๆ
ที่มา https://haamor.com/th/การปฐมพยาบาลเมื่อถูกแมงกะพรุนต่อย/