การทำหมันชายคืออะไร?
การทำหมันชาย (Vasectomy หรือ Male surgical sterilization) เป็นการคุมกำเนิดถาวรโดยทำการผูกและตัดหลอด/ท่อนำอสุจิ (สเปิร์ม/Sperm) ป้องกันไม่ให้ตัวอสุจิจากอัณฑะเคลื่อนมายังถุงพักเชื้ออสุจิ ทำให้น้ำอสุจิที่หลั่งออกมาไม่มีตัวอสุจิ จึงทำให้ไม่มีการปฏิสนธิเกิดขึ้น
การทำหมันชายมีกี่วิธี? อะไรบ้าง?
วิธีการทำหมันชายทำโดยการผ่าตัด ทำได้ง่าย ใช้เวลาในการผ่าตัดน้อย ปลอดภัยกว่าการทำหมันหญิง ใช้ยาชาเฉพาะที่ ไม่จำเป็นต้องดมยาสลบ ปัจจุบันมีวิธีผ่าตัดทำหมันชาย 2 วิธี คือ
- การใช้มีดกรีดเปิดผิวหนังบริเวณถุงอัณฑะ เหนือหลอดนำน้ำเชื้ออสุจิ 1-2 แผล ขาดประมาณ 1 ซม. ทำการผูกและตัดหลอดน้ำเชื้ออสุจิทั้ง 2 ข้าง จากนั้นเย็บปิดผิวหนังที่กรีด
- การใช้เครื่องมือเจาะบริเวณผิวหนังเพื่อหาหลอดนำอสุจิจากนั้นทำการผูก และตัดหลอดนำอสุจิ ทั้งสองข้าง ซึ่งวิธีนี้ แผลมีขนาดเล็ก จึงไม่จำเป็นต้องเย็บปิดแผล
ข้อดีของการทำหมันชายมีอะไรบ้าง?
ข้อดีของการทำหมันชาย คือ
- มีประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์สูงกว่าการทำหมันหญิง มีอัตราการล้มเหลว (การตั้งครรภ์ของภรรยาหลังสามีทำหมัน) ต่ำ พบ 1 ใน 700-2,000 รายที่ภรรยายังตั้งครรภ์ได้หลังสามีทำหมัน
- เป็นวิธีผ่าตัดที่ทำได้ง่าย ใช้เวลาน้อย ไม่จำเป็นต้องใช้ยาดมสลบ
- ค่าใช้จ่ายต่ำ เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพสูงสุดเมื่อเทียบกับค่าใช้จ่ายในการวางแผนครอบครัว
- ผ่าตัดครั้งเดียว สามารถคุมกำเนิดได้ตลอดชีวิต ไม่ต้องพะวงเกี่ยวกับการตั้งครรภ์
- ไม่มีผลต่อสมรรถภาพทางเพศของเพศชาย เนื่องจากการผ่าตัดไม่เกี่ยวข้องกับเส้นประสาท ไม่เกี่ยวข้องกับการสร้าง หรือการใช้ฮอร์โมนเพศของร่างกาย
- มีรายงาน เพิ่มความสุขทางเพศหลังจากทำหมันชาย เนื่องจากคู่สมรสไม่ต้องพะวงเรื่องการตั้งครรภ์
- การทำหมันชายไม่มีผลทำให้พละกำลังการทำงานหนักตามปกติลดลง
- ไม่มีผลต่อการเกิดโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก โรคมะเร็งอัณฑะ หรือโรคมะเร็งชนิดใดๆรวมทั้งของอวัยวะสืบพันธุ์ทั้งของผู้ทำหมันและของภรรยา
ข้อจำกัดของการทำหมันชายมีอะไรบ้าง?
ข้อจำกัดของการทำหมันชาย คือ
- ผู้ให้การผ่าตัดต้องเป็นผู้ที่มีความชำนาญได้รับการฝึกฝนอย่างดี
- อาจพบภาวะแทรกซ้อน (ผลข้างเคียง) หลังผ่าตัดทำหมันได้ เช่น อาจเกิดภาวะ ปวด บวม มีเลือดออก และมีลิ่มเลือดคั่งบริเวณถุงอัณฑะ (พบได้น้อย) และ/หรืออาจมีการติดเชื้อบริเวณแผลผ่าตัด
- ไม่ป้องกันโรคติดต่อ/โรคติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์
- ไม่เป็นหมันทันทีหลังผ่าตัด ต้องรอนานประมาณ 3 เดือน หรือหลังการหลั่งน้ำอสุจิอย่างน้อย 20 ครั้ง จากนั้นควรทำการตรวจน้ำเชื้อว่าพบตัวอสุจิหรือไม่ เพื่อยืนยันการเป็นหมัน ทั้งนี้เพราะหลังทำหมัน น้ำเชื้อจะยัง คงมีอสุจิตกค้างอยู่ในหลอดนำอสุจิได้อีกระยะเวลาหนึ่งดังกล่าวแล้ว ดัง นั้นหลังทำหมันชาย จึงควรให้ฝ่ายหญิงคุมกำเนิดต่อไปก่อน หรือใช้ถุง ยางอนามัย จนกว่าผ่านระยะเวลาดังกล่าวแล้ว แต่ที่แน่นอน คือ หลังตรวจน้ำเชื้อแล้วไม่พบตัวอสุจิ
ข้อห้ามของการทำหมันชายมีอะไรบ้าง?
ข้อห้ามของการทำหมันชาย คือ
- ต้องการมีบุตรเพิ่มอีกในอนาคต
- ผู้ที่เข้ารับบริการต้องไม่มีภาวะแข็งตัวของเลือดผิดปกติ หากได้รับยาละ ลายลิ่มเลือด หรือยาต้านการแข็งตัวของเกล็ดเลือด ควรแจ้งแพทย์ให้ทราบก่อน และต้องงดยาก่อนทำผ่าตัดตามแพทย์สั่ง
- ช่วงเวลาที่ทำผ่าตัดต้องไม่มีโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และไม่มีการติดเชื้อบริเวณถุงอัณฑะ
ภาวะแทรกซ้อนจากการทำหมันชายมีอะไรบ้าง?
ภาวะแทรกซ้อนจากการทำหมันชาย (ผลข้างเคียง) ที่อาจพบได้ คือ
- เกิดลิ่มเลือดคั่งในบริเวณถุงอัณฑะ พบได้ประมาณ 1% ของผู้รับการทำหมันชาย มีสาเหตุจากการบาดเจ็บต่อหลอดเลือดที่อยู่โดยรอบหลอดนำอสุจิ ถ้าลิ่มเลือดคั่งมีขนาดเล็ก ร่างกายจะดูดซึมเลือดที่คั่งให้หายไปได้เองภายในระยะเวลา 1-2 สัปดาห์ หากมีขนาดใหญ่และมีอาการปวดมาก ควรรีบกลับมาพบแพทย์ที่ทำผ่าตัด
- แผลผ่าตัดติดเชื้อ พบได้น้อยมาก โดยจะมีอาการบวมแดง และปวดอัณฑะ หรืออาจมีหนองไหลจากแผล หากเกิดอาการดังกล่าว ควรรีบพบแพทย์ด่วน
- ก้อนในถุงอัณฑะ เป็นก้อนอสุจิจากการรั่วของแผลผ่าตัดผูกหลอดนำอสุจิ โดยอสุจิจะเกาะอยู่รอบๆปลายหลอด ก่อการอักเสบโดยรอบ และจับตัวกันเป็นก้อนห่อหุ้มปลายหลอด ซึ่งไม่ก่อให้เกิดอาการเจ็บปวด รักษาโดยการพักผ่อนร่างกาย และให้ยาต้านการอักเสบ
- ปวดหน่วงเรื้อรังที่อัณฑะ พบประมาณ 1 ใน 2,000 ราย มีสาเหตุจากความดันที่เพิ่มขึ้นภายในหลอดนำอสุจิด้านที่ติดกับลูกอัณฑะเนื่องจากยังมีการสร้างอสุจิได้อยู่เหมือนเดิม แต่ไม่สามารถถูกปลดปล่อยออกมาได้จากการถูกผ่าตัดหลอดนำอสุจิ อาการปวดหน่วงนี้เป็นไม่มาก และมักเป็นๆหายๆตลอดไป
หลังทำหมันชายมีอาการใดบ้างที่ต้องรีบพบแพทย์?
หลังทำหมันชาย ควรรีบพบแพทย์ก่อนนัด เมื่อ
หลังทำหมันชายควรปฏิบัติตัวอย่างไร?
การปฏิบัติตัวหลังทำหมันชาย คือ
- ห้ามมิให้แผลผ่าตัดถูกน้ำเป็นเวลาอย่างน้อย 3 วัน
- เว้นการยกของหนัก หรือการออกกำลังกายอย่างหนักหลังผ่าตัดอย่างน้อย 24-48 ชม.
- งดการมีเพศสัมพันธ์อย่างน้อย 7 วัน
- เนื่องจากหลังผ่าตัด จะไม่เป็นหมันทันที จึงควรใช้วิธีคุมกำเนิดอื่นร่วมด้วย เช่น ถุงยางอนามัยเป็นเวลาอย่างน้อย 3 เดือน หรือจนกว่าได้รับการตรวจน้ำเชื้อยืนยันว่าไม่พบตัวอสุจิ
โอกาสตั้งครรภ์หลังทำหมันชายมีหรือไม่? อย่างไร?
การทำหมันชายถือเป็นวิธีคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพสูงวิธีหนึ่ง พบมีอัตราความล้มเหลว (ภรรยาตั้งครรภ์หลังสามีทำหมัน) 1 ใน 700-2,000 ราย โดยความล้มเหลวอาจเกิดจากการผิดพลาดจากการผ่าตัด หรือเกิดการเชื่อมต่อใหม่ของหลอดนำอสุจิ
หากต้องการมีบุตรหลังทำหมันชายทำได้หรือไม่? อย่างไร?
หากต้องการมีบุตรหลังผ่าตัดทำหมันชายสามารถทำได้ แต่มีค่าใช้จ่ายสูง ต้องใช้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และผลสำเร็จในการตั้งครรภ์ไม่แน่นอน ทั้งนี้อัตราความ สำเร็จ ขึ้นกับระยะเวลาหลังจากการผ่าตัดทำหมัน ความเชี่ยวชาญของผู้ผ่าตัด อุปกรณ์เครื่องมือที่ใช้แก้ไข อายุและสุขภาพของผู้ทำหมัน และของภรรยา ซึ่งโดยทั่วไปโอกาสแก้ไขได้ผลสำเร็จประมาณ 30-75% ทั้งนี้พบมีอัตราตั้งครรภ์สูงสุดเกิดภายใน 3 ปีหลังผ่าตัดแก้ไขทำหมัน
นอกจากวิธีผ่าตัดแก้ไข ยังสามารถใช้วิธีดูดเก็บเนื้อเยื่อบริเวณอัณฑะ เพื่อหาตัวอสุจิ แล้วนำมาใช้ในเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ เช่น เด็กหลอดแก้ว
ที่มา https://haamor.com/th/ทำหมันชาย/