เมโสเธอราพี (Mesotherapy) นวัตกรรมลดสัดส่วน กำจัดไขมัน เซลลูไลต์


869 ผู้ชม


เมโสเธอราพี (Mesotherapy)

นวัตกรรมลดสัดส่วน กำจัดไขมัน เซลลูไลต์ 

การควบคุมตัวเองไม่ได้ในเรื่องของการกิน ทำให้เกิดผลเสียตามมามากมายค่ะ โดยเฉพาะในรายของสาวๆ ทั้งหลายถ้าคุณเป็นคนชอบกิน และกินของที่ไม่มีประโยชน์ พวกอาหารขยะหรือจั๊งค์ฟูด ชอบกินอาหารรสเค็มจัด หวานจัด ชอบกินของทอดๆ มันๆ แต่ไม่ค่อยชอบออกกำลังกาย ลองก้มลงมองที่ขาของคุณดูซิคะ ว่ามี เซลลูไลท์ หรือลักษณะเหมือนผิวเปลือกส้มบ้างหรือเปล่า  ถ้าหน้าท้องของคุณเริ่มหย่อนห้อย ไม่กระชับ แปลว่า ไขมันส่วนเกิน ของคุณชักจะเริ่มเยอะแล้วล่ะค่ะ

นวัตกรรมกำจัดไขมัน  ด้วย เมโสเธอราพีสาเหตุหลักของการเกิด ไขมันส่วนเกิน ก็มาจากการกินนี่แหละค่ะ เมื่อเรากินอาหารที่มีแป้ง ไขมัน และน้ำตาลเข้าไป และร่างกายเผาผลาญหรือนำไปใช้ไม่หมด ก็จะเก็บสะสมไว้ในรูปของ ไขมัน เมื่อสะสมมากเข้าๆ เซลล์ไขมัน ก็จะอ้วนพองใหญ่และเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้รูปร่างขยายออก หรือใหญ่ขึ้นเฉพาะบางส่วน เช่น พุงเริ่มยื่น ก้นเริ่มห้อย สะโพกใหญ่แขนใหญ่ ขาใหญ่ประดุจโต๊ะสนุ๊ก... สารพัดที่จะทำให้หุ่นเราเบอะ ไม่สวย ทีนี้ถ้าเราอยากกลับไปมีหุ่นเพรียว สวยเหมือนเดิม ก็ต้องลดปริมาณ ไขมันส่วนเกิน ในร่างกายหรือในแต่ละส่วนลง หลายคนก็เลยใจร้อน ใช้วิธีทางลัด ด้วยการไปดูดไขมัน เพราะรู้มาว่าเป็นวิธีที่ทำให้ส่วนเกินหายไปได้ในพริบตาแต่ข้อเสียของการดูดไขมัน (liposuction) ก็คือ เจ็บตัว และคนไข้ต้องพักฟื้น เพราะถือเป็นการผ่าตัด 

วงการแพทย์ก็เลยมุ่งมั่นที่จะหาวิธี กำจัดไขมัน ที่ปลอดภัยกว่ามาแทน วิธีหนึ่งที่ได้รับความนิยมสูงมากเมื่อ 4-5 ปีที่ผ่านมานี้ ก็คือ การฉีดยาละลายไขมัน หรือที่เรียกกันว่า เมโสเธอราพี (Mesotherapy) นั่นเอง

เมโสเธอราพี เป็นวิธีการใช้เข็มส่งยา ละลายไขมัน เข้าไปใน ชั้นไขมัน ใต้ผิวหนัง ตัวยาที่ใช้ฉีดหรือส่งเข้าไปก็สกัดมาจากถั่วเหลือง มีคุณสมบัติย่อยสลายไขมันส่วนเกิน ทำให้ ไขมัน แตกตัว ร่างกายจึงเผาผลาญและขับออกไปได้โดยง่าย เมื่อคนไข้ฉีดยา ละลายไขมัน ไปได้เดือนนึง พบว่าส่วนใหญ่ขนาดของส่วนเกินลดลงไป 2-4 นิ้ว โดยประมาณค่ะเพราะเห็นผลไว แถมกำจัดได้ทั้ง เซลลูไลท์และ ไขมันส่วนเกิน

เมโสเธอราพี จึงได้รับความนิยมจากทั้งหมอและคนไข้ค่ะ นอกจากนี้วิธีนี้ยังปลอดภัย ผลข้างเคียงถ้าจะมีบ้างก็เป็นพวกรอยช้ำที่เกิดจากการฉีดยา ซึ่งรอยนี้จะค่อยๆหายไปเองเหมือนรอยฟกช้ำดำเขียวทั่วไป
ที่มา   https://www.doctorcosmetics.com/read_content.php?id=1889&pagetype=articles

อัพเดทล่าสุด