เลเซอร์ รักษา แผลเป็น
แผลเป็น หลุมสิว รักษาได้ผลแค่ไหน
หลุมแผลเป็น เป็นปัญหาที่สมาชิกให้ความสนใจไม่แพ้สิวเลยนะคะ เนื่องจากเวลาที่มีสิวขึ้นมา ก็มักจะทิ้งร่องรอยไว้ ทั้งรอยแดง รอยดำ และ รอยหลุมแผลเป็น โดยเฉพาะ รอยหลุมแผลเป็น เป็นรอยจารึกที่สร้างความทรมานใจมากกว่ารอยแดง หรือ รอยดำ ก็เพราะว่าเมื่อเป็น รอยหลุมแผลแล้ว ยากที่จะตื้นขึ้นมาได้เองค่ะ นวัตกรรมการรักษา รอยหลุมแผลเป็น ก็มีหลากหลายวิธี แต่ที่สมาชิกให้ความสนใจกันมากในขณะนี้ ก็คือ เลเซอร์รักษาแผลเป็น ทั้ง Fraxel laser ,Fine Scan Laser และ Fractional Co2 Laser ค่ะ คงสงสัยใช่มั๊ยค่ะว่า เลเซอร์ทั้ง 3 ชนิดนี้ แตกต่างกันอย่างไร และ ชนิดใดให้ผลการรักษาดีกว่ากัน ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับชนิดต่างๆของเลเซอร์กันก่อนค่ะ และ ลองดูตารางเปรียบเทียบเลเซอร์ชนิดต่างๆ เป็นแนวทางในการตัดสินใจนะคะ
เราสามารถแยก เลเซอร์ ออกเป็น 5 กลุ่ม เรียงตามความ “รุนแรง” ของแผล(และผลลัพธ์) จาก “มาก” ไปหา “น้อย” ดังนี้ค่ะ
Ablative Resurfacing Laser : CO2 Resurfacing
เหมาะกับ
ริ้วรอยลึกๆ แผลหลุมสิว แผลหลุมจากอีสุกอีใส
หลักการทำงาน
ใช้พลังงานแสงไปเปลี่ยนแปลงเป็นพลังงานความร้อน เพื่อกรอ(ตัด)ผิวหนังส่วนบนออกไปเลย แล้วรอให้ร่างกายสร้างผิวใหม่ขึ้นมาทดแทน เพื่อทำให้ผิวเรียบขึ้น หน้ากระชับขึ้น ริ้วรอยลดน้อยลง แผลหลุมตื้นขึ้น
ทันทีหลังทำ
เกิดแผลลักษณะบวมแดง เจ็บแสบ
ความรู้สึกขณะทำ
เจ็บมาก อาจต้องฉีดยาชาเข้าที่เส้นประสาท หรือต้องดมยาสลบก่อนทำ เพื่อไม่ให้รู้สึกเจ็บปวด
จำนวนครั้ง
1-2 ครั้ง
การพักฟื้น
จะเกิดแผลบวมแดงมากใน 3-4 วันแรก และมีน้ำเหลืองไหลซึมเล็กน้อย เป็นสะเก็ด น้ำเหลืองจะหยุดภายใน 1 อาทิตย์ สะเก็ดจะหลุดภายใน 2 อาทิตย์ แต่ผิวหนังก็จะยังดูเป็นสีแดงอยู่ ซึ่งความแดงจะลดลงเรื่อยๆ ภายใน 3-4 เดือน ความแดงถึงจะหายไป บางรายอาจเกิดผลข้างเคียง คือ รอยแดงจะกลายเป็นรอยคล้ำตามมา
Fractional Ablative Resurfacing Laser :
Fraxel re:pair, Active FX, Fractional Co2 ,Dot Therapy, Total Erbium:YAG Laser Peel, Pearl
เหมาะกับ
ผิวที่มีอายุมากขึ้น มีริ้วรอยปานกลาง แผลหลุมสิว
หลักการทำงาน
ใช้พลังงานแสงที่ทำลายผิวน้อยลงกว่าชนิด Ablative โดยการยิงเป็นแสงลำเล็กๆ ลงไปในผิวหนัง โดยพื้นผิวส่วนที่ถูกแสงมีเพียง 5-10 เปอร์เซ็นต์ ความร้อนที่หนังแท้จะช่วยกระตุ้นให้หนังแท้สร้างคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ โดยที่จุดที่แสงกระทบจะมีการกรอผิวลงไปบ้าง
ทันทีหลังทำ
มีรอยแดงอย่างเห็นได้ชัด บวม ผิวแสบร้อน
ความรู้สึกขณะทำ
เจ็บแบบทนได้ ต้องใช้ยาชาทาก่อน 45-60 นาที ขณะทำจะรู้สิกเหมือนใช้เข็มแท่งเล็กๆ หลายๆ แท่ง แทงเข้าไปที่ผิวหนังแล้วรู้สึกจี๊ดๆ
ผลลัพธ์
การดีขึ้นอย่างชัดเจนของริ้วรอยตื้นๆ แผลหลุมเรียบเนียนขึ้น
จำนวนครั้ง
4-5 ครั้ง ห่างกันเดือนละ 1 ครั้ง
การพักฟื้น
เกิดรอยบวมแดง 2-3 วัน แล้วจะยุบลง เห็นเป็นสะเก็ดเล็กๆ กระจายอยู่บนบริเวณผิวที่ทำ เนื่องจากการยิงลำแสงที่เป็นจุดเล็กๆ ซึ่งสะเก็ดจะหลุดลอกออกไปภายใน 5-7 วัน
Fractional Non-ablative Resurfacing Laser :
Fraxel re:store, Profactional, Mosaic, Fine Scan เหมาะกับ
ริ้วรอยตื้นๆ รอยหลุมสิวที่ไม่ลึกมาก
หลักการทำงาน
เหมือนกับ Fractional Ablative คือใช้การยิงลำแสงให้ตกกระทบผิวเป็นจุดๆ เล็กมากๆ ทำให้ผิวหนังบางส่วนเท่านั้นที่ถูกแสงจะมีผิวหนังดีที่ไม่ถูกแสง เพื่อให้มีผิวหนังส่วนที่เกิดแผลน้อยลง การสมานแผลเร็วขึ้น แต่ต่างกันที่วิธีนี้จะใช้แสงชนิดที่ไม่ทำลายหนังกำพร้าแต่สามารถให้ความร้อนที่หนังแท้ จึงไม่เห็นแผลหลังเลเซอร์
ทันทีหลังทำ
มีรอยแดงอย่างเห็นได้ชัด มีอาการแสบร้อนบ้าง
ความรู้สึกขณะทำ
เจ็บน้อยกว่าสองวิธีแรก อาจต้องใช้ยาชาทาก่อน 45-60 นาที ขณะทำจะรู้สึกเหมือนใช้เข็มแท่งเล็กๆ หลายๆ แท่ง แทงเข้าไปที่ผิวหนังแล้วรู้สึกจี๊ดๆ
ผลลัพธ์
ผิวยืดหยุ่นดีขึ้น ริ้วรอยตื้นขึ้น
จำนวนครั้ง
4-5 ครั้ง ห่างกันเดือนละ 1 ครั้ง
การพักฟื้น
ความบวมแดงน้อยกว่า Fractional Ablative สะเก็ดอาจจะไม่มี หรือมีแต่น้อยกว่า และหลุดเร็วกว่า คือภายใน 3-4 วัน
Non-ablative Resurfacing Laser :
Affirm, Laser Genesis, Cool-Touch, CoolGlide, Intense pulsed light (IPL), Plasma Resurfacing
เหมาะกับ การปรับสภาพผิวให้เรียบเนียนขึ้น สีผิวไม่สม่ำเสมอ
หลักการทำงาน
วิธีนี้คล้ายชนิด Fractional Non-ablative คือใช้แสงเลเซอร์ที่ไม่ทำลายผิวหนังตอนบน แต่ต่างกันตรงที่วิธีนี้จะยิงแสงไปตลอด 100 เปอร์เซ็นต์ของผิว
ทันทีหลังทำ
เห็นผิวเป็นสีชมพูเรื่อๆ เล็กน้อย
ความรู้สึกขณะทำ
เพียงรู้สึกอุ่นๆ ไปจนถึงไม่สบายผิว แต่ไม่จำเป็นต้องให้ยาชา
ผลลัพธ์
ผิวเนียนขึ้น สีผิวสม่ำเสมอขึ้น ริ้วรอยที่ตื้นๆ ดูจางลงเล็กน้อย
จำนวนครั้ง
4-6 ครั้ง ห่างกัน 3-4 สัปดาห์
การพักฟื้น
ไม่ต้องพักฟื้น ทำเสร็จแล้วแต่งหน้าได้เลย
LED (Light-Emitting Diode) :GentleWaves, Omnilux เหมาะกับ
การปรับสภาพผิว รักษาสิว และมักใช้เสริมร่วมกับทรีตเม้นท์อื่นๆ
หลักการทำงาน
ให้พลังงานแสงที่ต่ำมากๆ เพื่อไปกระตุ้นเซลล์บางชนิดในผิวหนัง (ไมโตคอนเดรีย) เพื่อให้เซลล์นั้นทำงานมากขึ้นและดีขึ้น เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนให้มากขึ้น
ทันทีหลังทำ
ไม่มีรอยแดง
ความรู้สึกขณะทำ
ไม่รู้สึกเจ็บปวดเลย อาจรู้สึกอุ่นๆที่ผิว
ผลลัพธ์
ริ้วรอยตื้นๆ จะดีขึ้นเล็กน้อย สีผิวสม่ำเสมอดีขึ้น
จำนวนครั้ง
ทุกสัปดาห์ติดต่อกันเป็นเวลา 3-4 เดือน
การพักฟื้น
ไม่ต้องพักฟื้น ทำเสร็จแล้วแต่งหน้าได้เลย
ข้อเปรียบเทียบระหว่าง Fraxel re:store Laser Fine Scan และ Fractional Co2 Laser
คุณสมบัติ | Fraxel re:store Fine Scan | Fractional Co2 Laser |
ความยาวคลื่น | 1550 nm | 10,600 nm |
ประเภท | Non-Ablative Fractional | Ablative Fractional |
ระยะเวลาเห็นผล | 2-3 ทรีทเมนต์ | 1-2 ทรีทเมนต์ |
จำนวนครั้งการรักษา | 4-6 ทรีทเมนต์ | 3-5 ทรีทเมนต์ |
ระยะเวลาการรักษาซ้ำ | ทุก 2-4 สัปดาห์ | ทุก 1-3 เดือน |
ความรู้สึกขณะทำ | เจ็บน้อยกว่า | เจ็บมากกว่า |
การพักฟื้น | 3-4 วัน | 5-7 วัน |
หวังว่าข้อมูลเหล่านี้ จะเป็นแนวทางในการตัดสินใจเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมกับตัวเรานะคะ ทั้งนี้ระยะเวลาเห็นผล จำนวนครั้งในการรักษา และ ระยะเวลาการรักษาซ้ำ ขึ้นกับสภาพผิว ,ชนิดของรอยหลุมแผลเป็น และ ค่า Parameter ที่ใช้ในการรักษาแต่ละครั้งด้วยค่ะ
ที่มา https://www.doctorcosmetics.com/read_content.php?id=1907&pagetype=articles