เลเซอร์ รักษาสิว
แสงเลเซอร์ ใช้ รักษาสิว ได้จริงหรือ
คำถามที่หมอผิวหนังพบบ่อยขึ้นในปัจจุบัน จากการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี คือ การใช้ เลเซอร์และแสงต่างๆ ในการรักษา สิว จะดีกว่าการรักษาแบบเดิมๆ หรือไม่ ?
คำตอบ คือ จะใช้ในกรณีที่คนไข้เบื่อหน่าย ต่อการทายารักษา สิว ทั้งหลาย และ มีนิสัยชอบลืมกินยา ให้ครบตามกำหนดวันเวลา การใช้ แสงเลเซอร์ หรือ แสงต่างๆ ใน การรักษาสิว จะเป็นทางเลือกที่ดีอีกทางหนึ่ง
แสงที่ใช้ในการรักษาสิวที่ได้ผลในปัจจุบันได้แก่
· Blue light therapy เป็น FDA-approved narrow-band, high intensity blue-light therapy เป็นตัวที่รู้จักกันดีว่าใช้ รักษาสิว blue light ทำงานโดยการฆ่าเชื้อแบคทีเรียสิว ( P.acne) และใช้ รักษาสิวอักเสบ ที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษาชนิดอื่น blue light ในปัจจุบัน จะไม่มี UV light เป็นส่วนประกอบ เนื่องจาก UV light จะทำอันตรายกับผิวหนังได้ และไม่ใช้ รักษาสิวกันแล้ว
โดยทั่วไป จะรักษา 8 ครั้ง ในระยะเวลา 4 อาทิตย์ ใช้เวลา 15 นาทีในแต่ละครั้ง ผลข้างเคียงน้อย อาจจะมีรอยคล้ำเพิ่มขึ้นชั่วคราว บวมบริเวณที่ได้รับการรักษา และผิวแห้ง ได้ผลประมาณ 55%
การรักษานี้ จะใช้ LHE ทำลายเชื้อ P.acne และลดการผลิตไขมัน โดยการไปทำให้ต่อมไขมันหดตัวลง เป็นระบบที่ใช้แสงสีเขียวและความร้อน สำหรับ สิว ที่เป็นน้อยและปานกลาง ซึ่งผ่านการรับรองจาก FDA แล้ว
· ALA and light therapy
การรักษานี้มี 2 ขั้นตอน คือ
ใช้น้ำยา 5-aminolevulinic acid(ALA) ทาบริเวณผิวหนังที่จะใช้รักษา ALA เป็นสารที่จะเพิ่มความไวต่อแสง ใช้ รักษาสิว โดยทาทิ้งไว้บนผิวหนัง 15 ถึง 60 นาที ระยะเวลา ขึ้นกับความรุนแรงของสิว แล้วเช็ดน้ำยา ALA ออก และรักษาด้วยแสง เนื่องจาก ALA ทำให้ผิวหนังไวต่อแสงมากขึ้น คนไข้ควรใช้ ครีมกันแดด เป็นเวลา 48 ชั่วโมงหลังการรักษา จากงานวิจัยพบว่า การรักษาสิว ด้วยแสงสีน้ำเงินหรือสีแดง หลังจากทา ALA มีประสิทธิภาพมาก อย่างไรก็ตาม แสงสีแดง อาจทำให้เกิดผลข้างเคียง ที่ไม่ต้องการดังนี้ ผิวคล้ำลงชั่วคราว หรือ มีรูขุมขนอักเสบ สำหรับการใช้แสงสีน้ำเงินนั้น สรุปได้ว่า เหมาะสมดีกับ การรักษาสิว
· Diode laser
การรักษาสิว ด้วย 1450-nm diode laser ใช้ รักษาสิว ที่หน้าและหลัง มีผลการศึกษาว่า หลังการรักษาไปแล้ว 3 ครั้ง คนไข้มี สิว ลดลง ประมาณ 83% ผลข้างเคียง ได้แก่ รอยแดงและบวมบริเวณที่ทำการรักษา
· Pulsed dye laser
บางรายงานว่าได้ผล บางรายงานว่าไม่ได้ผล
การใช้แสงต่างๆใน การรักษาสิว ยังอยู่ในขั้นตอนการศึกษาติดตามอยู่ คงต้องการงานวิจัยเพิ่มมากขึ้น ไม่ควรใช้เป็นทางเลือกอันดับแรกใน การรักษาสิว ส่วนแสง blue light จะใช้ได้ผลดีในกรณีสิวเกิดจากเชื้อ P.acne ถ้าเป็น สิว จากสาเหตุอื่นๆ จะไม่ได้ผล
ในกรณีที่ตัดสินใจใช้แสงพวกนี้ รักษาสิว ให้คำนึงถึงเรื่องต่างๆต่อไปนี้
1. รู้ว่าการรักษาชนิดใดจะดีที่สุดสำหรับคนไข้ปัจจุบัน เลเซอร์ และ การใช้แสงรักษาจะได้ผลดีในผู้ใหญ่
2. ติดตามผลการรักษาทุกครั้ง
3. ติดตามดูว่ามีผลข้างเคียงในระยะยาวหรือไม่
4. ดูว่า ผลการรักษา จะคงอยู่ได้เป็นระยะเวลานานเท่าไร
5. ที่สำคัญปรึกษาหมอผิวหนังของท่าน ซักถามให้เข้าใจทางเลือกของ การรักษาสิว ให้เหมาะสมกับคนไข้แต่ละคน