สิวเสี้ยน
สิวเสี้ยน รักษายังไงให้หายขาด
สิวเสี้ยน เป็นภาวะที่พบได้บ่อย พบได้กับคนทุกเพศทั้งชายหญิงตั้งแต่ อายุ 17- 60 ปี สิวเสี้ยน ไม่ได้ขึ้นเฉพาะที่ปลายจมูก แก้ม บางรายอาจขึ้นที่หน้าผาก หลัง เนินไหล่ ต้นคอ และต้นแขน ด้วยค่ะ
สิวเสี้ยน มาจากไหนไม่รู้ รู้แต่ว่าผุดขึ้นมาอยู่ปลายจมูก แก้มข้างจมูก และคาง ตั้งแต่เริ่มเป็นสาว ไม่หายไปสักที สิวเสี้ยน มีทั้งหัวดำหัวขาว ชนิดหัวขาว เวลาบีบจะเห็นไขขาวๆ ซึ่งมากจากต่อมไขมันรวมอยู่กับเศษเซลล์ผิวที่ค้างอุดตันอยู่ในรูขุมขน (รูขุมขนจะมีต่อมผลิตไขมันอยู่ข้างๆ) ส่วนที่เห็นเป็นจุดดำก็เนื่องจากมีขนเส้นเล็กๆ รวมอยู่ด้วย
ถ้าส่อง สิวเสี้ยน ด้วยแว่นขยาย จะมีขนเส้นเล็กๆ ตั้งแต่ 5-50 เส้นรวมอยู่บนเซลล์ผิวหนังรอบๆ รูเปิดของต่อมไขมัน สิวเสี้ยน จะเห็นชัดแค่ไหน ขึ้นอยู่กับจำนวนผมเส้นเล็กๆ ที่ไปกระจุกอยู่ในรูขุมขน และ มีเซลล์ผิวหนังที่เรียก ขี้ไคล สะสมอยู่มากหรือน้อย
วิธีรักษาสิวเสี้ยน มีหลากหลายวิธีดังนี้ค่ะ
1. ทายาละลายสิวเสี้ยน
มียา 2-3 ชนิดที่นิยมใช้รักษาสิวเสี้ยน ได้แก่ AHA, BHA และ สารในกลุ่มกรดวิตามินเอ จำพวก ทริตินอล (Tretinol), เรตินเอ (Retin A) หรือสตีวาเอ (Steiva A)
สารเหล่านี้ ช่วยให้การก่อตัวอุดตันของเซลล์ผิวหนังในท่อรูขุมขนเกิดภาวะหลอมตัวและละลายหลุมออกมา ใช้ยาพวกนี้ 3-4 อาทิตย์ สิวเสี้ยน จะค่อยๆหายไป แต่หยุดยาสัก 3-4 สัปดาห์ สิวเสี้ยน ใหม่อาจจะเกิดขึ้นอีก
ยาเหล่านี้เพียงประทังแค่ชั่วคราว สารเหล่านี้อาจจำหน่ายทั้งในของรูปของยา ซึ่งแพทย์ผิวหนังจะเป็นผู้สั่งจ่ายแก่ผู้มีปัญหาสิว หรือ ไม่ก็เป็นส่วนประกอบสำคัญของเครื่องสำอางดูแลผิว ถ้าอยู่ในรูปเครื่องสำอางจะผสมให้ความเข้มข้นต่ำกว่าในรูปยา
ข้อเสียของสารในกลุ่มกรดวิตามินเอ พบว่าอาจก่อให้เกิดการระคายเคืองแก่ผิวได้ สารชนิดนี้อาจทำให้ผิวหน้าลอกได้ อาจต้องทาวันเว้นวัน และ หมอมักแนะนำคนไข้ที่ใช้กรดวิตามินเอว่า ให้ทาตอนผิวแห้งสนิท เนื่องจากมีปฏิกิริยาระหว่างกรดวิตามินเอกับน้ำ ทำให้ชั้นผิวลอกขึ้นมาได้มากขึ้น
2. กด หรือ ดูดสิวเสี้ยน
ตามสถานเสริมความงามจะมีเครื่องดูด สิวเสี้ยน ในรูปจุกแก้ว แพทย์ผิวหนังเองก็อาจจะสั่งให้ใช้ที่กดสิวกด สิวเสี้ยน ออกในบางจุดที่หลวมตัวอ่อนลงหลังจากทายาไปประมาณ 3-4 อาทิตย์แล้ว
3. ขัดผิว
คุณหมอหลายท่านไม่ค่อยแนะนำให้คนไข้ขัดผิว เนื่องจากเม็ดขัดผิวจะขูดผิวให้เป็นแผลเล็กๆ ที่มองไม่เห็น วิธีนี้เป็นการทำลายเซลล์ผิว สิวเสี้ยน อาจจะหลุดออกมาบ้าง แต่ก็ไม่ได้หลุดเกลี้ยงออกมาทั้งหมด
4. แผ่นลอกสิวเสี้ยน
ฮิตมากช่วงหนึ่ง สาวๆ จะลูบน้ำปะจมูกเปียกๆ ก่อนปิดแผ่นลอก สิวเสี้ยน ทิ้งไว้ 10-15 นาที แล้วลอกออก
สารเคมีที่ใช้อาจระคายรูขุมขน ทำปฏิกิริยาให้รูขุมขนอักเสบและเกิดสิวเห่อตามมา กรณีนี้ไม่เกิดขึ้นทุกรายที่ใช้แผ่นลอก สิวเสี้ยน เราพบบ้างประปรายที่หลังจาก สิวเสี้ยน หายแล้ว ก็กลายเป็นสิวอักเสบแทน
สารเคมีที่ใช้อาจระคายรูขุมขน ทำปฏิกิริยาให้รูขุมขนอักเสบและเกิดสิวเห่อตามมา กรณีนี้ไม่เกิดขึ้นทุกรายที่ใช้แผ่นลอก สิวเสี้ยน เราพบบ้างประปรายที่หลังจาก สิวเสี้ยน หายแล้ว ก็กลายเป็นสิวอักเสบแทน
5. เลเซอร์กำจัดสิวเสี้ยน
การใช้เลเซอร์กำจัด สิวเสี้ยน เป็นวิธีค่อนข้างใหม่ ใช้ได้ผลดีกับ สิวเสี้ยน หัวดำ ที่จุดดำๆ เกิดจากขนเส้นเล็กๆ รวมอยู่กับคราบไคลอุดตันอยู่ในรูขุมขน แต่สำหรับกรณี สิวเสี้ยน ที่เป็นเพียงไขมันผสมคราบไคลอุดตันอยู่ กลุ่มนี้เลเซอร์จะไม่ช่วย ควรต้องใช้ทายาประเภท เรติโนอิค แอซิด (กรดวิตามิน)
ข้อดีของวิธีนี้ คือ ไม่เจ็บ ไม่ต้องใช้ยาทา และ ผลข้างเคียงไม่พบเลย ยกเว้นคนที่ผิวคล้ำมากๆ อาจมีสะเก็ดบางๆ พอสัก 3-7 วันก็หายไป
หลังจากยิงเลเซอร์ ขนเส้นเล็กๆ จะหายไป รากขนถูกกำจัดไปด้วย รูขุมขนจะดูเล็กลงด้วยทันที ผิวจึงดูเนียนขึ้นด้วย
จะเห็นว่า วิธีรักษา สิวเสี้ยน ส่วนใหญ่จะเพียงบรรเทาปัญหาให้ สิวเสี้ยน เบาบางลง ไม่ใช้วิธีรักษาให้หายขาดได้ค่ะ
ที่มา https://www.doctorcosmetics.com/read_content.php?id=1951&pagetype=articles
ที่มา https://www.doctorcosmetics.com/read_content.php?id=1951&pagetype=articles