ผิวไหม้แดด
กลับจากไปคลายร้อนที่ทะเลมา สาวๆ อาจต้องประสบปัญหาผิวคล้ำเสียและ ไหม้แดด ที่ไม่ควรละเลย อย่างนี้ต้องรีบเตรียมตัวหาทางรับมือด่วน
ผิวไหม้แดด หรือ Sun Burn เกิดจากการอยู่ท่ามกลางแสงแดดเป็นเวลานาน โดยอาการ ไหม้แดด จะเกิดเร็วหรือช้าขึ้นอยู่กับสีผิวของแต่ละคน ถ้ายิ่งขาวมากเท่าไร ผิวจะยิ่งไหม้เร็วเท่านั้น
ปกติระดับการไหม้มีตั้งแต่ 1-6 (ตัวเลขยิ่งน้อยหมายถึงผิวขาวมากและจะยิ่งไหม้เร็ว) ผิวสาวไทยทั่วไปจะอยู่ที่ระดับ 4-5 แต่ถ้าเป็นลูกครึ่งหรือเชื้อสายจีนที่ขาวมากๆ จะอยู่ที่ระดับ 3 ประมาณว่าโดนแดดอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ 15 นาทีไปจนถึงหนึ่งชั่วโมงครึ่งก็เริ่มไหม้แล้ว
ภาวะผิวไหม้แดด แบ่งได้ตามระดับอาการ ดังนี้ค่ะ
ระดับ 1 อักเสบเล็กน้อย คัน แสบแดง
วิธีแก้ไข : ให้รีบหลบเข้าที่ร่ม ดื่มน้ำมากๆ แล้วเติม ครีมกันแดด ในกรณีที่ต้องการอยู่กลางแดดต่อ จากนั้นทาอาฟเตอร์ซัน ที่มีส่วนผสมหลักของว่านหางจระเข้ หรือ จะใช้เป็นเจลว่านห่างจระเข้เลยก็ได้ เพื่อช่วยสมานผิวที่ถูกทำลายและช่วยฆ่าเชื้ออย่างอ่อนๆ ทาประมาณ 2 – 3 วัน อาการก็จะดีขึ้น
ระดับ 2 ปวดแสบปวดร้อนตามผิว บวมแดง
วิธีแก้ไข : หลังจากทำตามวิธีของระดับ 1 เพื่อบรรเทาอาการเบื้องต้น 5 – 7 วันต่อมา อาจมีอาการผิวลอกเป็นขุย แนะนำให้ใช้ออยล์ หรือ ผลิตภัณฑ์เพิ่มความชุ่มชื้น เช่น น้ำมันงา น้ำมันมะกอก ต่อเนื่องประมาณ 1 – 2 สัปดาห์ แต่ถ้ารู้สึกว่าเป็นมาก แนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อรับยาแก้แพ้ประเภทแอนตี้ฮีสตามีนมาทานควบคู่กับการดูแลผิวด้วย
ระดับ 3 พุพองเหมือนโดนน้ำร้อนลวก
วิธีแก้ไข : รีบปรึกษาแพทย์ เพราะอาจเกิดอันตรายได้ทุกเมื่อ ยิ่งถ้าแผลแตก (หนังกำพร้ากับหนังแท้แยกตัว) จะทำให้ติดเชื้อและเกิดอาการอักเสบที่ผิวหนัง ถ้าดูแลไม่ดีอาจมีแผลเป็นหมดสวยได้ ยิ่งกว่านั้นบางรายอาจเกิดอาการเสียน้ำมากจนต้องให้น้ำเกลือและยาปฏิชีวนะเพื่อป้องกันการติดเชื้อด้วย โดยผิวจะหายเป็นปกติได้ใน 1 เดือน โชคดีหน่อยที่อาการในระดับนี้ส่วนใหญ่มักพบในคนที่ขาวมากอย่างชาวตะวันตกที่ชอบอาบแดดเป็นเวลานานๆ
เคล็ดลับ
1. ถ้าไม่มีผลิตภัณฑ์อาฟเตอร์ซัน เบื้องต้นอาจใช้น้ำมันมะพร้าว หรือ แตงกวาที่ปอกเปลือก ล้างยางให้หมดมาบดละเอียด แล้วพอกลงบนผิวสัก 5 – 10 นาที หรือจะให้ง่ายกว่านั้น ลองทานมสด น้ำมันพืช หรือเนย เพื่อให้เคลือบผิวให้ชุ่มชื้นสักเล็กน้อยก่อนก็ยังดี
2. การอาบน้ำเย็นหลังจากโดนแดด ก็ช่วยให้เลือดฝอยหดตัวลงบ้าง จึงรู้สึกสบายผิวและแสบน้อยลง
3. รับประทานวิตามินซีวันละ 2,000-3,000 มิลลิกรัม และวิตามินอี จะช่วยซ่อมแซมผิวได้ดียิ่งขึ้น
ข้อควรระวัง
1. ผิวที่โดนแดดมาจะมีอาการขาดน้ำ จึงควรงดชา กาแฟ หรือเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนและแอลกอฮอล์ เพราะเป็นการขับปัสสาวะทำให้ผิวขาดน้ำยิ่งขึ้น
2. ห้าม สครับหรือขัดผิวโดยเด็ดขาด เพราะผิวจะยิ่งถูกทำร้ายมากขึ้น แนะนำให้ใช้สบู่เหลวที่มีมอยส์เจอร์สูงจะดีกว่า
กันดีกว่าแก้
1. ถึงแม้จะไม่ได้อยู่กลางแจ้งก็อย่าลืมทา ครีมกันแดด เพราะรังสียูวียังคงสะท้อนจากพื้นน้ำ ดิน และปูนซีเมนต์มาทำลายผิวให้หมองคล้ำอยู่ดี
2. ควรทา ครีมกันแดด ตั้งแต่เวลา 9.00 น. – 16.00 น. จะดีกว่าทาแค่ช่วงแดดจัด เพราะรังสี UVA สามารถทำลายผิวได้ตั้งแต่พระอาทิตย์ขึ้นจนกระทั่งพระอาทิตย์ตก เป็นตัวการสำคัญทำให้ผิวหนังเหี่ยวย่นก่อนวัย
3. ครีมกันแดด ที่ดีควรมีค่า SPF ตั้งแต่ 30 ขึ้นไป และเมื่ออยู่ท่ามกลางแสงแดดควรทาซ้ำทุกๆ 2 ชั่วโมง เพราะประสิทธิภาพของครีมจะค่อยๆ ลดลง สาวๆ ยอมเสียค่าครีมกันแดดอีกสักหน่อย ดีกว่าเสียค่าทำเลเซอร์ตั้งเยอะ