ลมพิษ...ดูแลอย่างไร?


1,002 ผู้ชม


"ลมพิษ...ดูแลอย่างไร?"

    ลมพิษ (Hives หรือ Urticaria หรือ Welts) คืออาการผิวหนังหรือเนื้อเยื่อบวมแดงชั่วคราว อาจมีรูปร่างและขนาดแตกต่างกัน แต่

จะมองเห็นได้อย่างชัดเจน เพราะตรงกลางนูนและสีซีดกว่า บริเวณขอบจะเป็นสีแดงๆ มักมีอาการคัน ลูกน้อยของคุณอาจเป็นลมพิษและหายเองได้ในไม่กี่นาทีหรือไม่กี่ชั่วโมง แต่ก็จะไปขึ้นใหม่อีกที่บริเวณอื่นๆ ในแต่ละครั้งที่เขาเป็นลมพิษ รอยบวมแดงเหล่านี้อาจปรากฏเพียงไม่กี่ชั่วโมงจนถึงไม่กี่วัน หรืออาจจะเป็นอยู่นานหลายเดือนเลยก็ได้นะคะ อย่างไรก็ตาม ลมพิษเป็นอาการที่พบได้ทั่วไปและไม่ใช่โรคติดต่อค่ะ

สาเหตุที่ทำให้เกิดลมพิษมีอะไรบ้าง ?
ลมพิษเกิดขึ้นเมื่อร่างกายหลั่งสารเคมีที่เรียกว่า ฮีสตามีน (Histamine) ออกมา ลมพิษเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุจนอาจทำให้คุณหาต้นเหตุได้ยาก แต่ส่วนใหญ่แล้วมักเกิดจาก

แมลงกัดหรือต่อย เช่น ถ้าลูกแพ้ผึ้งหรือมดคันไฟ เขาอาจมีอาการลมพิษเมื่อถูกผึ้งต่อยหรือมดกัด

อาหาร ลูกน้อยอาจเป็นลมพิษจากอาหารที่เขาทาน หรืออาจมีปฏิกิริยาต่ออาหารที่คุณแม่รับประทานหากเขายังดื่มนมแม่อยู่ อาหารที่มักทำให้เป็นลมพิษได้แก่ พืชยืนต้นตระกูลถั่ว (Tree nut) ถั่วลิสง ไข่ สัตว์ทะเลที่มีเปลือกหุ้ม ช็อคโกแลต ปลา นม ลูกเบอร์รี่สดหรือแช่แข็ง มะเขือเทศ และสารปรุงแต่งอาหารหรือสารถนอมอาหารบางชนิด (อาหารบางอย่าง เช่น นมวัว ไม่เหมาะสำหรับทารก แต่เขาอาจมีปฏิกิริยาต่อนมวัวได้หากได้รับผ่านทางนมแม่ค่ะ) ลูกน้อยอาจเป็นลมพิษเห่อขึ้นมาเพราะแพ้โปรตีนในอาหาร หรือเพราะร่างกายของเขาเกิดปฏิกริยาต่อสารเคมีในอาหาร จึงปล่อยสารที่ทำให้เกิดอาการแพ้หรือฮีสตามีนออกมา เด็กบางคนอาจเป็นลมพิษได้เพียงแค่สัมผัสถูกอาหารบางอย่าง เช่น เมื่อน้ำสตรอเบอรี่หยดโดนผิว (ซึ่งเขาอาจกินสตรอเบอรี่โดยไม่มีปฎิกิริยาอะไรเลยก็ได้ค่ะ)

สารก่อภูมิแพ้ เด็กที่แพ้ขนแมวอาจเป็นลมพิษเห่อขึ้นมาเมื่อจับตัวลูกแมวเหมียว หรือบางคนอาจเป็นลมพิษเพราะได้รับสารก่อภูมิแพ้ที่อยู่ในอากาศ เช่น ละอองเกสรดอกไม้ ก็เป็นได้นะคะ

การเจ็บป่วย ลูกของคุณอาจเป็นลมพิษเมื่อมีไข้หรือติดเชื้อไวรัส บางกรณีลมพิษก็อาจเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียได้เช่นกัน แต่พบไม่บ่อยนัก

อุณหภูมิ บางครั้งอากาศเย็นก็ทำให้เป็นลมพิษได้ รวมไปถึงอุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เช่น เมื่อผิวของลูกน้อยอุ่นขึ้นทันทีหลังจากถูกอากาศเย็นมาก่อนหน้านั้น

ยา ยาปฏิชีวนะและยาบางชนิดอาจทำให้เกิดลมพิษได้เช่นกันค่ะ

ควรรักษาอาการลมพิษของลูกยังไงดีคะ ?

ถ้าคุณคิดว่าลูกเป็นลมพิษเพราะแพ้ขนสัตว์เลี้ยงหรือละอองเกสรดอกไม้ ให้พาเขาไปอาบน้ำล้างสารก่อภูมิแพ้ออกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ค่ะ บางครั้งการประคบเย็นหรืออาบน้ำเย็นก็ช่วยให้อาการทุเลาลงได้ หรือคุณแม่อาจใช้ก้อนสำลีชุบคาลาไมน์ทาผื่นลมพิษก็ได้นะคะ พยายามหาชุดที่ลูกใส่แล้วไม่ปกปิดส่วนที่เป็นลมพิษ และถ้าคุณแม่ทราบว่าอะไรคือสาเหตุของลมพิษแล้ว ก็ควรช่วยให้เขาหลีกเลี่ยงไม่สัมผัสหรือได้รับสิ่งนั้นอีกในอนาคตค่ะ

เมื่อไหร่ถึงควรจะพาลูกไปหาคุณหมอคะ ?

โทรติดต่อสายด่วนฉุกเฉินทันทีถ้าลูกน้อยมีอาการเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ เช่น หายใจดังเสียงวี้ดๆ หอบหรือหายใจไม่ออก ใบหน้าหรือลิ้นบวม หรือเป็นลม อาการเหล่านี้ รวมทั้งลมพิษ อาจบ่งบอกว่า เขากำลังอยู่ในภาวะช็อคที่เกิดจากการแพ้ยาหรือสารต่างๆ อย่างฉับพลัน (แอนาฟีแล็คติคช็อค Anaphylactic shock) ซึ่งเป็นปฏิกิริยาของอาการแพ้ที่อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ คุณแม่ควรต้องระวังให้ดีนะคะเพราะช่องทางเดินหายใจของลูกน้อยยังมีขนาดเล็กมาก แม้แต่การบวมเพียงเล็กน้อยก็ทำให้เขาหายใจลำบากแล้วค่ะ

ถ้าลูกน้อยรู้สึกไม่สบายตัว คุณแม่อาจลองปรึกษาคุณหมอขอรับยาต้านฮีสตามีนชนิดรับประทาน (เช่น Benadryl ซึ่งมีจำหน่ายทั่วไป) เพื่อลดอาการคันและบวมได้นะคะ

แม้ในกรณีที่อาการลมพิษดูจะไม่เป็นปัญหาสำหรับลูกน้อย แต่ถ้าเขามีอาการลมพิษนานกว่า 1 สัปดาห์ คุณแม่ก็ควรพาไปหาคุณหมอดีกว่านะคะ
ที่มา   https://www.widemagazine.com/content_detail.php?cont_id=113

อัพเดทล่าสุด