"โรคที่มากับเครื่องปรับอากาศ ทำร้ายเจ้าตัวน้อย"
เครื่องปรับอากาศหรือที่ติดปากกันว่า แอร์ นอกจากจะใหความเย็นสดชื่นแล้วบางครั้งยังแฝงเอาชื่อโรคที่เรามองไมเห็นมาทำร้ายเราและยิ่งลูกน้อยด้วยแล้วเป็นเรื่องใหญ่เลยละคะ
ศ.นพ.สุชัย เจริญรัตนกุล ศาสตราจารย์อายุรศาสตร์โรคทรวงอก และเป็นผู้เชี่ยวชาญโรคระบบทางเดินหายใจ จากศิริราชพยาบาล กล่าวว่า เครื่องปรับอากาศตามบ้านที่ใช้กันอยู่นี้หากไม่ได้มีการตรวจสอบสภาพ และดูแลความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ มีโอกาสที่จะทำให้เชื้อโรคร้ายต่างๆ โดยเฉพาะเชื้อไวรัส เชื้อรา และเชื้อแบคทีเรียเติบโตและแพร่พันธุ์โรคต่างๆมาสู่ทุกคนในครอบครัว ไม่เว้นแม้แต่เจ้าตัวเล็กที่ดูจะเป็นผู้บอบบางที่สุดค่ะ
*โรคที่เกิดจากเชื้อโรคซึ่งปะปนมากับเครื่องปรับอากาศมีอะไรบ้างคะ
ปกติ โรคที่มากับเครื่องปรับอากาศแบ่งใหญ่ๆได้ 2 กลุ่ม กลุ่มแรกคือ โรคภูมิแพ้ เกิดจากเชื้อราซึ่งจะอยู๋ในเครื่องกรองอากาศ ลองสังเกตดูว่าปกติแล้วเครื่องกรองอากาศในแอร์จะมีแผ่นกรองอยู่ ถ้าไม่ทำความสะอาดก็จะเกิดเชื้อรา เพราะฉะนั้นถ้าบ้านไหนมีใครที่แพ้เชื้อรา เมื่อสูดอากาศที่มีสปอร์ของเชื้อราปะปนอยู่เข้าไปก็จะเกิดอาการลักษณะคล้ายๆ ภูมิแพ้ คือมีอาการของหลอดลมอุดตันได้ ซึ่งโรคในกลุ่มนี้เป็นโรคที่พบได้บ่อยๆอยู่แล้ว
แต่มีอีกชนิดหนึ่งก็คือ โรคที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียที่ชื่อว่า ลีเจียนแนร์ ดีซีส(Legionaire" disease) หรือโรคปอดอักเสบที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย
ใน ต่างประเทศมักมีการระบาดในชุมชนที่ใช้เครื่องปรับอากาศเป็นท่อรวม เช่น โรงแรมขนาดใหญ่ ในแคมป์ทหาร ในโรงเรียนที่ใช้เครื่องปรับอากาศที่เป็นท่อรวม เพราะ เชื้อนี้จะออกมาจากท่อพักน้ำด้านบนของตึก(COOLING TOWER)ซึ่งก็คือ หอคอนโทรลความเย็นสำหรับตึกใหญ่ๆ จะมีน้ำไหลวนอยู่ในนี้ตลอดเวลา เชื้อแบคทีเรียจึงมีโอกาสเจือปนอยู่ได้ และลักษณะการแพร่กระจายของโรคก็จะเป็นการ "ระบาด" เช่น ถ้ามีผู้ป่วยที่พักในโรงแรมที่มีเชื้อตัวนี้ระบาดอยู่ ในเวลาไล่เลี่ยกันก็จะมีผู้ป่วยที่มาจากโรงแรมเดียวกัน มารักษาด้วยอาการเดียวกัน
โรคนี้ในบ้านเราถือเป็นโรคใหม่ที่ยังไม่ค่อย พบเท่าไหร่ เนื่องจากเรามีห้องวิเคราะห์เชื้อตัวนี้ไม่ทั่วถึง แต่ก็มีงานวิจัยออกมามากมายว่าประเทศไทยของเรามีการติด เชื้อนี้มากพอสมควร และมีแนวมีแนวโน้มจะพบมากขึ้นครับ
*อาการของโรคมีลักษณะอย่างไร ที่พ่อแม่พอจะสังเกตได้เอง
คุณ พ่อคุณแม่ก็คงต้องสังเกตดูว่าถ้าลูกมีอาการ ไอแห้งๆ หรือบางทีก็ไอแบบมีเสมหะ มีไข้ หอบ ก็อาจเป็นลักษณะของปอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย หรือลีเจียแนร์ ดีซีส คนไข้ที่มีอาการรุนแรงก็มักจะมีน้ำท่วมปอด ต้องมีการใช้เครื่องช่วยหายใจ
*การรักษาโรค ลีเจียแนร์ ดีซีส นี้มีขั้นตอนรักษายังไงบ้างคะ
ก็ เริ่มจากการซักประวัติดูว่า คนไข้อาจมีอาการไอ หอบ พอตรวจร่างกายก็จะมีเสียงครืด ครืด พอเอกซเรย์ดูก็จะมีปื้นเหมือนหลอดลมอักเสบ การวินิจฉัยก็จะต้องมาจากการวิเคราะห์หาแอนตี้บอดี้ในเลือด ก็คือภูมิต้านทานในเลือด รวมทั้งการเพาะเชื้อดูก็สามารถทราบได้
การให้ ยา แพทย์ต้องให้ยาที่เหมาะสม และเลือกยาที่มีปฏิกริยาพอที่จะต่อสู้กับเชื้อตัวนี้ได้แต่ก็นับว่าโชคดีนะ ครับเพราะเชื้อโรคตัวนี้มักจะตอบสนองต่อยาปฏิชีวนะที่มีราคาไม่แพง และไม่ค่อยมีลักษณะดื้อยา
*โรคลีเจียแนร์ ดีซีส นี้มีแนวโน้มจะพัฒนาไปเป็นโรคเรื้อรังมั้ยคะ
ก็ พบได้ในกรณีที่มีการสัมผัสต่อเนื่องนานๆ ปอดก็อาจเป็นพังผืดได้ แต่โอกาสที่จะเกิดลักษณะนี้ไม่ได้มีบ่อยนะครับ เพราะต้องเป็นการสัมผัสที่ใช้เวลายาวนานมากๆ แต่กรณีที่สัมผัสกับเชื้อโรคเพียงชั่วครั้งชั่วคราว ก็จะมีแค่ปฏิกิริยาภูมิแพ้เท่านั้นเอง
*เด็กเล็กๆ มีโอกาสติดเชื้อลีเจียแนร์ ดีซีสนี้จากเครื่องปรับอากาศได้มากกว่าผู้ใหญ่มั้ยคะ
ถ้า อยู่ในบ้านเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ก็มีสิทธิติดเชื้อได้เท่าเทียมกัน แต่ที่ผมพูดอย่างนี้ไม่ได้ต้องการให้พ่อแม่ตื่นตระหนกนะครับ แน่นอนเครื่องปรับอากาศมีผลดี ทำให้เย็นสบาย ไม่ร้อนอบอ้าว แต่ขณะเดียวกันก็ย่อมจะมีผลข้างเคียงด้วย เช่น อากาศเย็นเกินไปก็จะทำให้ปอดติดเชื้อได้ง่าย แน่นอนว่าคนเราถ้าร่างกายอยู่ในอากาศที่หนาว เย็นเกินไปก็จะมีการติดเชื้อ หรือมีการฟุ้งกระจายของฝุ่นละอองที่ออกมาจากเครื่องปรับอากาศ แต่จริงๆแล้วถ้ารู้จักใช้ให้ถูกวิธีก็สามารถหลีกเลี่ยงหรือลดอัตราเสี่ยงต่อ การเจ็บ ป่วยไปได้ครับ
*ดูๆไปแล้ว การแพร่กระจายของโรคนี้มีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นมากน้อยแค่ไหน
เราไม่มีตัวเลขชัดเจนนะครับ แต่มีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆเพราะบรรยากาศมีมลภาวะเป็นพิษมากขึ้น
*แล้วการที่เด็กอยู่ในห้องแอร์มากๆ ละคะ
จริงๆ มันก็มีทั้งข้อดีข้อเสียนั่นแหละครับ คือแอร์ก็ทำให้อากาศเย็นสบาย ไม่ร้อนอบอ้าว แต่อากาศที่ออกมาจากเครื่องปรับอากาศก็ย่อมมีฝุ่นละออง บ้านไหนที่ไม่เคยเอาตู้ แอร์ออกมาล้างนานๆ ลองไปรื้อดู พอดึงออกมาจะเป็นฝุ่นเป็นคราบ แล้วอากาศก็จะหมุนฟุ้งกระจายอยู่ในห้อง พอใครเข้าไปอยู่ในนั้นนานๆ สูดอากาศเข้าไปก็สูดเชื้อโรคเข้าไปด้วย
ข้อ ที่ต้องตระหนักอีกอย่างคือ อากาศที่เย็นเกินไปก็ทำให้ภูมิต้านทานของร่างกายลดลง เกิดการติดเชื้อได้ง่าย และถ้าเป็นเด็กเล็กก็อาจมีอาการปอดบวมได้
*ขอคำแนะนำสำหรับพ่อแม่ที่จะป้องกันลูกๆให้ปลอดภัยจากการติดเชื้อเหล่านี้ด้วยค่ะ
ก็ไม่มีอะไรมาก ผมว่าใช้หลักธรรมดาๆ นี่แหละครับ คือปรับอุณหภูมิให้เหมาะสมกับบรรยากาศภายนอกไม่ให้เย็นจนเกินไป ไม่ร้อนจนเกินไป ให้อยู่ที่ความพอดี
ส่วน ตู้แอร์ก็ควรที่จะเอาไส้กรองมาทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ ด้วยการดูดฝุ่นหรือปัดทำความสะอาดเพื่อหลีกเลี่ยงฝุ่นละอองไม่ให้กลับเข้ามา ฟุ้งละอองในห้อง ที่สำคัญ การทำความสะอาดจะช่วยลดอัตราเสี่ยงของการสูดเอาสปอร์ของเชื้อราเข้าไป
ถ้าจะให้ดียังไงก็หมั่นพาเจ้าตัวน้อยออกไปสูดอากาศบริสุทธิ์นอกบ้าน พาไปเดินเล่นตามสวนสาธารณะบ้าง ไปต่างจังหวัดบ้าง ไม่ปล่อยให้อยู่แต่ในห้องแอร์ ตลอดเวลา ที่สำคัญขยันล้างทำความสะอาด แอร์บ่อยๆ แค่นี้เจ้าตัวน้อยก็จะปลอดภัยจากเชื้อโรคที่มากับเครื่อบปรับอากาศแล้วละคะ
ที่มา https://www.widemagazine.com/content_detail.php?cont_id=1350