"สะดือ..หนู ดูแลไม่ยาก"
สะดือ ของเด็กแรกเกิดเป็นสิ่งที่ต้องดูแลอย่างพิถีพิถัน เพราะถ้าหากคุณแม่ทำความสะอาดสะดือไม่ดี หรือมัวกังวลว่าลูกจะเจ็บจนทำความสะอาดไม่ทั่วถึง
"สะดือ" ของเด็กแรกเกิดเป็นสิ่งที่ต้องดูแลอย่างพิถีพิถัน เพราะถ้าหากคุณแม่ทำความสะอาดสะดือไม่ดี หรือมัวกังวลว่าลูกจะเจ็บจนทำความสะอาดไม่ทั่วถึง อาจทำให้สะดือเด็กสกปรก และอาจทำให้ทารกติดเชื้อได้ ดังนั้นคุณแม่ต้องหมั่นสังเกตทุกวัน และถ้ามีอาการเหล่านี้ ควรพาไปพบคุณหมอ
สะดือแฉะ สะดือไม่แห้งหรือมีน้ำหยดจากสะดือ เวลาทารกร้องหรือเบ่งเป็นน้ำสีเหลืองหรือเขียวและอาจมีเลือดออกซิบ ๆ
สะดืออักเสบ บริเวณรอบ ๆ ขั้วสะดือบวมแดงและร้อน ลูกร้องกวน เมื่อดมดูจะได้กลิ่นเหม็นผิดปกติ
เลือดออกทางสะดือ เมื่อเอาสำลีซับจะมีเลือดติดออกมา อาจจะมีก้อนเนื้อแดงเรื่อขนาดเท่าถั่วแดงอยู่ในสะดือ
สะดือโป่ง สะดือจุ่น เด็กบางคนเมื่ออายุใกล้จะ 1 เดือน สะดือจะโป่งออกมา โดยเฉพาะเด็กร้องเก่ง การร้องจะเป็นตัวเร่ง ทำให้สะดือโป่งมากขึ้น ถ้าขนาดที่โป่งออกมาไม่ใหญ่จนเกินไปอาการนี้จะหายไปเองตามธรรมชาติ ตามปกติสะดือจะยุบไปเองภายใน 2-3 เดือน แต่บางคนอาจถึง 1 ปี
ก่อนที่ลูกน้อยจะมีสะดือ อย่างที่กล่าวมาแล้ว คุณแม่ควรดูแลสะดือลูกน้อยดังนี้ค่ะ
คุณแม่หรือคนที่ดูแลควรตัดเล็บให้สั้น ล้างมือให้สะอาดก่อนการทำความสะอาดสะดือลูก
เช็ดทำความสะอาดสะดือให้หมดทุกส่วน โดยเฉพาะบริเวณรอยต่อระหว่างสายสะดือกับบริเวณผิวหนัง ควรทำทุกครั้งหลังอาบน้ำหรืออย่างน้อยวันละสองครั้ง
เมื่ออาบน้ำเสร็จแล้วทำความสะอาดด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ ได้แก่ แอลกอฮอล์ 70% เบตาดีน หรือตามที่โรงพยาบาลจัดให้
การเช็ดทำความสะอาดให้เช็ดวนรอบสะดือของลูกเพียงรอบเดียว ถ้าเห็นว่าสะดือยังไม่สะอาด ควรเปลี่ยนสำลีก้อนใหม่
ถ้าสังเกตพบว่าสะดือมีกลิ่นเหม็น และผิวหนังรอบสะดือบวมแดง หรือสะดือยังแฉะอยู่หลายวัน หลังจากสะดือหลุดแล้วควรพาลูกมาพบคุณหมอ
สิ่งที่ไม่ควรทำกับสะดือ
กลัวการเช็ดสะดือลูก เพราะการเช็ดไม่ทำให้เกิดความเจ็บปวดใด ๆ ทั้งสิ้น
เมื่อสะดือใกล้จะหลุดอาจมีน้ำเหลืองหรือเลือดออก ห้ามใช้แป้งและยาโรยสะดือ
ห้ามใช้ยาโรยสะดือทุกชนิด เพราะจะทำให้ดูเหมือนสะดือแห้งดี ส่วนรอยต่อระหว่างสะดือกับผิวหนังหน้าท้อง ยังแฉะอยู่ซึ่งเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค อาจส่งผลให้เกิดการติดเชื้อ โดยเฉพาะการติดเชื้อที่กระแสเลือด ซึ่งเป็นภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง ทำให้ลูกมีความเสี่ยงที่จะถึงแก่ชีวิตได้
อย่าปล่อยให้ลูกใส่เสื้อผ้าที่ไม่สะอาดหรือนอนแช่ปัสสาวะ
ห่อหรือพันผ้าที่สายสะดือ เพราะถ้าผ้าสกปรกจะเกิดการอักเสบติดเชื้อได้มากขึ้น
เคยสังเกตไหมคะว่า สะดือแต่ละคนมีลักษณะไม่เหมือนกัน ความช่างคิด ช่างสังเกต ก็ทำให้มีการแปลลักษณะสะดือต่าง ๆ ออกเป็นลักษณะนิสัย จะเรียกว่าเป็นความเชื่อก็ได้นะคะ ดังนั้นไม่ยืนยันว่า ใครที่มีลักษณะสะดือดังกล่าวจะเป็นตามคำโบราณนี้หรือไม่ เรียกว่าหาข้อมูลมาให้คุณแม่อ่านเพลิน ๆ แล้วกันค่ะ
สะดือกว้างและลึก : เป็นเด็กมีวาสนา กล้าแสดงออก ใจคออาจหาญ
สะดือใหญ่ : เป็นเด็กใจกว้าง ชอบแบ่งปัน
สะดือเล็ก : เป็นเด็กเรียบร้อย สุขภาพดี
สะดือโปน : เป็นเด็กกินเก่ง มักมีปัญหาเกี่ยวกับท้อง
สะดือมีไฝดำ : เป็นเด็กโอบอ้อมอารี เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่
สะดือโตและกว้าง : เป็นเด็กอารมณ์ดี ชอบเล่นสนุกแถมมีเสน่ห์ล้นเหลือ
สะดือจุ่น สะดือสูง หรือต่ำกว่าเอว : เป็นเด็กอารมณ์ร้อน มีความเป็นตัวของตัวเองสูง
สะดือเล็ก เป็นเหลี่ยมตรง มีเนื้อมาก : เป็นเด็กฉลาด มีความเป็นผู้นำสูง
สะดือหงาย รูสะดือเชิดขึ้น : เป็นเด็กที่กระตือรือร้น มีความมุ่งมั่น
สะดือคว่ำ : เป็นเด็กขี้เล่น อารมณ์ดี มีความอดทนดี