พัฒนาการไม่สมวัย จะรู้ได้ไง


807 ผู้ชม


"พัฒนาการไม่สมวัย จะรู้ได้ไง"

    พ่อแม่ก็สามารถสังเกตลูกน้อยของตัวเองในระดับเบื้องต้นได้ ว่าพัฒนาการของลูกมีปัญหาหรือเปล่า เพราะความผิดปกติบางอย่างก็อาจบอกได้จากพัฒนาการเหมือนกัน

หม่ำๆ ร้องๆ 0-3 เดือน

อย่างนี้สิปกติ

- หันหน้าไปหาเสียงพูดหรือเสียงเพลง

- มองและหันหน้าตามของที่เคลื่อนไหว

- แสดงอารมณ์ทางสีหน้าเมื่อเจอคนที่คุ้นเคย

- มองและหันตามของเล่นที่เคลื่อนไหว

- เริ่มตีสิ่งของและคว้าเข้ามาหาตัว

- ส่งเสียงอืออา ตอบรับเสียงที่ได้ยิน

- ตาสามารถเคลื่อนไหวไปมาได้

- มีความสนใจต่อสิ่งต่างๆ ได้นานระดับหนึ่ง

 

มีแนวโน้มผิดปกติ

* ไม่สะดุ้งหรือตกใจเมื่อเกิดเสียงดัง

* ไม่มองตามมือตนเองเลย

* ไม่ยิ้มหรือมีปฏิกิริยาตอบสนองเมื่อคุยเล่นด้วยหลังอายุ 2 เดือน

* ไม่มองตามของเล่นเลยเมื่ออายุ 2-3 เดือน

* ไม่ยอมจับหรือถือของเล่นเมื่ออายุ 3- เดือน

* ไม่ทำเสียงครางเมื่ออายุ 3- เดือน

* ตาเขตลอดเวลา (อาการตาเขบางครั้งยังถือว่าปกติ)

* ไม่สนใจคนแปลกหน้าหรือสิ่งแวดล้อมใหม่ๆ เลย

* เล่นเสริมพัฒนาการ โมบายล์ปลาตะเพียนที่มีสีสันสดใส เปิดกล่องเพลงหรือร้องเพลงให้ลูกฟัง

 

อ้อแอ้ไขว่คว้า -7 เดือน

อย่างนี้สิปกติ

* ยันตัวเริ่มคลาน อาจจับสิ่งของเพื่อดึงตัวเองขึ้น

* นั่งได้นานแม้ไม่พยุง และเริ่มหยิบจับของเล่น

* ถือของได้ข้างละอัน อาจจับมากระทบกัน

* ชอบดูดนิ้วและเริ่มหยิบอาหารเข้าปาก

* พลิกคว่ำได้คล่องแคล่ว

* ตามองตามสิ่งของไปในทางเดียวกัน

* ชอบของเล่นมีเสียง

* มีอารมณ์คึกคักบ่อยขึ้น

* แสดงความต้องการเป็นคนหนึ่งในสังคม

 

มีแนวโน้มผิดปกติ

* เคลื่อนไหวขาไม่คล่อง กล้ามเนื้อแข็งและเกร็ง

* เวลาจับอยู่ในท่านั่ง ตัวอ่อนปวก- เปียก ศีรษะตกไปอยู่ด้านหลัง

* ใช้มือได้ข้างเดียว

* เอาของใส่ปากลำบาก

* ไม่พลิกตัวเองเมื่ออายุ 5 เดือน

* ตาข้างหนึ่งหรือทั้งสองข้างเบนออกข้างนอกหรือเข้าข้างใน

* ไม่หันตามเสียง

* ไม่หัวเราะเสียงดังเมื่ออายุ 6 เดือน

* ไม่เล่นจ๊ะเอ๋หรือตอบสนองคนรอบข้าง

* เล่นเสริมพัฒนาการ ลูกบอลนิ่มๆ สีสดใส เล่นแล้ว

เกิดเสียง ของเล่นที่มีลูกปัดข้างใน เขย่าแล้วเกิดเสียงหนังสือเด็กรูปสัตว์สามมิติ

 

ต้วมเตื้ยม เตาะแตะ -12 เดือน

อย่างนี้สิปกติ

* ยืนได้ด้วยตัวเองตามลำพัง อาจโยกตัวเล่นไปมา

* ค้นหาของที่เอาไปซ่อนต่อหน้าได้สำเร็จ

* พูดได้มากกว่าคำว่า พ่อ แม่ ชอบพูดงึมงำคนเดียว

* รู้สัญลักษณ์ของวัตถุ เช่น พูดคำว่าหมาก็ทำเสียงคำรามตาม

* ชี้ของผ่านกระจกใสได้

 

มีแนวโน้มผิดปกติ

* ยังไม่คลานและไม่ยอมยืนเมื่อจับให้ยืน

* ไม่ค้นหาของที่ซ่อน แม้เด็กจะเห็นว่าซ่อนที่ไหน

* ไม่เรียกพ่อแม่หรือคำง่ายๆ เมื่ออายุ 1 ปี

* ไม่เรียนรู้ท่าทางเช่น บ๊ายบาย สั่นศีรษะ

* ไม่ชี้ที่รูปหรือสิ่งของ

* เล่นเสริมพัฒนาการ หัดดื่มน้ำจากถ้วย หัดเล่นกับพี่น้อง หรือเพื่อน หนังสือสีสดที่มีตัวสัตว์และตัวหนังสือหรือตัวเลข

 

พัฒนาการดีหรือไม่ มาจาก

สุขภาพเด็ก แน่นอนค่ะ หากเด็กที่มีสุขภาพดีจะมีพัฒนาการที่เร็วและสมบูรณ์กว่าเด็กที่อ่อนแอ เพราะกำลังในการเคลื่อนไหว ของเด็กที่อ่อนแอจะมีน้อยกว่านั่นเอง

 

ความสุข เด็กที่มีความสุข ความสบายใจ อยู่ในครอบครัวที่อบอุ่น จะมีพัฒนาการที่รวดเร็วกว่าในครอบครัวที่หย่าร้างหรือให้ความอบอุ่นกับเด็กไม่เพียง-พอ เพราะภาวะเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อจิตใจ ทำให้เด็กเกิดความเครียดและรู้สึกเศร้าหมองได้

ความแกร่ง เด็กที่มีความแกร่งนั้นเกิดมาจากความรักความอบอุ่นของพ่อแม่ที่ให้เขาอย่างเพียงพอ จนทำให้เขามีความมั่นใจ รู้สึกปลอดภัย กล้าที่จะเรียนรู้ ต่อสู้กับปัญหาเฉพาะหน้าได้ในอนาคต

 

สมองผิดปกติ

พัฒนาการที่ผิดปกติและอันตรายที่สุดคงจะหลีกหนีความผิดปกติของสมองไม่ได้ เพราะความผิดปกติของสมองเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนและรักษาได้ลำบาก ซึ่งความผิดปกตินี้สังเกตได้จากพัฒนาการตั้งแต่เล็กเช่น การไม่สนใจสิ่งแวดล้อมหรือสิ่งรอบข้างทั้งๆ ที่ถึงวัยที่สมควรแล้ว คลานหรือเดินงุ่นง่านอยู่คนเดียว น้ำลายยังไหลมุม ปากแม้อายุเกิน 1 ขวบแล้ว จับโน่นนี่ไร้เป้าหมาย ซึ่งเรา อาจต้องช่วยลูกในการฝึกกิจกรรมพัฒนาสมอง เล่นเกม พูดคุยกับลูกบ่อยๆ เพื่อให้ลูกได้พัฒนาให้มากที่สุด

 

การได้ยินผิดปกติ

หากลูกเราไม่มีอาการตกใจเวลาเสียงดังหรือเรียกแล้วไม่หันตามเสียง แกอาจมีปัญหาการได้ยินก็เป็นได้ ลองสังเกตดูและรีบตัดสินใจพาลูกไปปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางเพื่อให้การดูแลรักษาได้ทันท่วงที

 

เห็นแบบนี้พ่อแม่อย่าเพิ่งตกใจหรือกังวลจนมากเกินไป เพราะพัฒนาการของเด็กแต่ละคนไม่เหมือนกัน อาจช้าหรือเร็วไปจากเกณฑ์มาตรฐานทั่วๆ ไป หรืออาจเกิดจากองค์ประกอบอื่นๆ

ตัวอย่างเช่น การที่เด็กใช้มือข้างเดียวหยิบจับของบ่อยๆ อาจจะเป็นเพราะเด็กมีความถนัดในมือข้างใดข้างหนึ่งมากเกินไป หากสังเกตอีกระยะหนึ่งเด็กก็ยังไม่ใช้มืออีกข้างก็ควรจับมือเด็กข้างนั้นให้จับหรือถือของเล่น เพื่อช่วยเด็กในการพัฒนากล้ามเนื้อค่ะ แต่ขณะเดียวกันถ้ามือเด็กดูไม่มีแรง หยิบจับของไม่ได้เลย เห็นทีควรปรึกษาแพทย์จะดีกว่าและอยากฝากไว้สักนิดค่ะว่า ข้อมูลทั้งหมดนี้เป็นเพียงเกณฑ์เปรียบเทียบคร่าวๆ ไม่ใช่มาตรฐานตายตัว เพียงแต่ถ้าคุณพ่อคุณแม่รู้จักสังเกตลูกและพบสิ่งผิดปกติได้ไวก็จะได้แก้ไขได้ทันท่วงทีค่ะ
ที่มา   https://www.widemagazine.com/content_detail.php?cont_id=132

อัพเดทล่าสุด