"บทบาทพ่อ...เริ่มแต่วันแรกที่(แม่)ตั้งครรภ์"
ขณะที่คุณร้องออกมาอย่างยินดีว่า “ฉันกำลังจะเป็นแม่คนแล้ว” คุณคิดไหมว่าคนข้างๆ กำลังคิดว่าเขากำลังจะเป็นพ่อคนด้วยหรือเปล่า
สิ่งหนึ่งที่ต้องยอมรับคือผู้ชายไม่ได้คิดเรื่องนี้เช่นเดียวกับผู้หญิง อีกฝ่ายอาจกำลังงงว่าความรับผิดชอบตกมาถึงเราแล้วหรือนี่ ดังนั้นคุณแม่ควรปฏิบัติให้เขารู้สึกได้อยู่ในที และไม่ขัดเขินที่จะต้องเตรียมตัวเป็นพ่อตั้งแต่ลูกยังไม่เกิด
รู้ตัวว่าตั้งครรภ์
รีบบอกกับคุณสามีเลยว่าคุณกำลังตั้งครรภ์ลูกของเราอยู่ และเราอยากให้การตั้งครรภ์ครั้งนี้ผ่านสำเร็จไปด้วยดี ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้เลยว่า คนเป็นแม่ต้องผ่านช่วงเวลานี้ไปคนเดียว ดังนั้นเราอยากให้คุณช่วยไม่ว่าเรื่องอะไรก็แล้วแต่ เช่น การหาข้อมูลโภชนาการ เตรียมเรื่องค่าใช้จ่าย อ่านลิสต์โรงพยาบาล รวมทั้งบอกข่าวดีนี้กับญาติๆ และเพื่อนๆ ทุกคนด้วย
ไปฝากครรภ์กันเถอะ
ใครว่าหน้าห้องฝากครรภ์ไม่ใช่ที่สำหรับผู้ชาย จริงอยู่ว่าคุณจะต้องทำงานหาเลี้ยงครอบครัวแต่ว่าคลินิกฝากครรภ์นอกเวลาทำการและวันเสาร์-อาทิตย์ก็มีเยอะแยะ อย่าปฏิเสธตั้งแต่ไม่ได้เริ่มทำแล้วกัน
แล้วคุณรู้ไหมว่าการเข้าไปพบหมอด้วยกันทุกครั้ง คุณจะได้ซักถามข้อมูลที่คุณสงสัยหรือแม้แต่ที่ตัวแม่เองก็คิดไม่ถึง หรือบางครั้งที่คุณเถียงกันเรื่องข้อมูลอาจจะให้คุณหมอเป็นผู้ฟันธง
อีกทั้งคุณจะได้เห็นพัฒนาการของลูกน้อยที่อยู่ในครรภ์ ได้ยินเสียงหัวใจของลูก ดีกว่าเอาผลอัลตร้าซาวนด์ที่คล้ายกระดาษซีรอกซ์มาดู แล้วคุณก็ทิ้งไว้ในรถอย่างนั้น
เข้าคอร์สพ่อแม่มือใหม่ดีกว่า
จริงอยู่ที่เราจะไปเสียเงินเสียทองกันทำไมกับเรื่องธรรมชาติที่ผู้หญิงจะต้องเจอกันทุกคน แต่คุณรู้ไหมว่าแม่เองก็ประหม่าเหมือนกัน เพราะความเจ็บปวดที่ไม่เคยเจอนั้น มันอาจจะทำให้ตกใจและกังวลเรื่องการคลอดได้มากมายนัก
ส่วนเรื่องคำแนะนำของญาติผู้ใหญ่บางครั้งมันก็เป็นความเชื่อที่ไม่ถูกหลักการแพทย์สักเท่าไร แม่อยากได้ความมั่นใจและอยากให้คนรักที่อยู่ด้วยกันพร้อมกับทำความเข้าใจไปด้วย และมันคงไม่ดีแน่ ถ้าฉันจะเอาแต่อ่านหนังสือหรือดูซีดีอยู่ที่บ้าน ในขณะที่คุณอ่านหนังสือพิมพ์โดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับการคลอด อาการที่เกิดขึ้นระหว่างตั้งครรภ์ หรือความเจ็บปวดที่แม่จะต้องเจอเลย
ให้ลูกรู้ว่าพ่อรัก
ทางตะวันตกเรียกความอบอุ่นและความรักนี้ว่า Bonding คนที่เริ่มเป็นพ่อหลายคนคิดว่าลูกยังไม่สามารถรับรู้ความรู้สึกของพ่อได้ หรือแม้แต่พ่อเองก็ไม่รู้สึกต้องใกล้ชิดกับลูกเท่าที่ควร (ก็แน่สิ ก็หนูยังอยู่ในท้องแม่นิ)
แต่คุณรู้ไหมว่าพ่อสามารถสร้างความใกล้ชิดและทำความรู้จักกับลูกได้ โดยไม่รู้สึกว่าลูกคือคนแปลกหน้าหรือรอให้คลอดก่อนแล้วค่อยทำความสนิทสนมด้วย สิ่งที่พ่อทำได้คือการเอาใจใส่ลูกโดยการเล่านิทาน พูดคุยถึงเรื่องต่างๆ ที่ผ่านมาระหว่างวัน เพื่อให้ลูกได้คุ้นชินกับเสียงโทนต่ำๆ ของพ่อ หรือแม้แต่การลูบท้องแม่เพื่อสัมผัสลูกว่าเจ้าตัวน้อยชอบถีบท้องแม่ตอนไหน และสิ่งที่พ่อได้ก็คือคำง่ายๆ ที่เรียกว่าความสัมพันธ์
เจ้าหนูคลอดแล้ว...คุณคือคุณพ่อตัวจริง
9 เดือนผ่านไปไวเหมือนโกหก เจ้าหนูที่เราเฝ้าถนอมคลอดออกมาให้คุณเรียกตัวเองว่าพ่อได้เต็มตัว ต่อเป็นคือเรื่องจริงและทุกสิ่งอาจจะไม่ได้เป็นตามตำรา คุณพ่อมีหน้าที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์ที่จะรับมือลูกน้อยได้อย่างไร เมื่อยามที่ภรรยาเจ็บแผลในการคลอดลูกอยู่ ซึ่งคุณจะสามารถทำได้คล่องแคล่วและรู้ว่าลูกต้องการอะไรได้ไม่ยาก ถ้าคุณผ่านเรื่องการเข้าคอร์สหรือซักซ้อมกับลูกๆ ของคนอื่นมาบ้างแล้ว ต่อให้เรื่องเปลี่ยนผ้าอ้อม ให้นม หรือแม้แต่อาบน้ำ ก็ไม่ทำให้คุณหวั่นเกรงกับคำว่าพ่อมือใหม่ได้
บางครั้งผู้ชายก็มักจะคิดถึงเรื่องเหตุว่า ถ้าทำแบบนั้นแบบนี้กับลูก แล้วลูกจะได้อะไรบ้าง หรือจะเกิดประโยชน์กับลูกแค่ไหน สู้เอาเวลาไปทำมาหากินหรือทำอย่างอื่นไม่ดีกว่าเหรอ เรื่องแบบนี้มันอยู่ที่ความคิดส่วนตัว แต่เราสามารถบอกได้แค่เพียงว่า เวลามันย้อนกลับมาไม่ได้นะคะ
สวัสดี…