ลดความอ้วน ด้วย แอปเปิล


1,368 ผู้ชม


"ลดความอ้วน ด้วย แอปเปิล"

    หลายๆคนอาจมีวิธีลดความอ้วนได้หลายแบบต่างๆกันแล้วแต่ว่าจะได้รับข้อมูลมาแบบไหน และเชื่อว่าหลายๆคนคงรู้ว่า แอปเปิล นั้นช่วยลดความอ้วนได้ด้วย จริงหรือไม่นั้น ไปดูกันคะ

ผลไม้ลูกไม่เล็กไม่ใหญ่ สีสรรค์สวยงาม เห็นแล้วอยากกัด อยากกิน อย่างแอปเปิล ไม่ได้มีแค่ความหวานความอร่อย ความกรอบเท่านั้นนะคะ มันยังอุดมไปด้วยประโยชน์มากมายหลายอย่าง ที่สำคัญที่เราจะเอามาเล่ากันในวันนี้ก็คือมันสามารถช่วยสาวๆเราลดน้ำหนักได้ด้วย สุดย่อยเลยใช่ไหมละคะ

บทความทางการแพทย์ในวารสารการแพทย์สหรัฐอเมริกาเคยยกย่องว่า แอปเปิล เป็นยาที่ให้ผลทางการรักษาภาวะเลือดเป็นกรด ไขข้อรูมาติก เก๊าม์ ดีซ่าน และอื่นๆ โดยในผลแอปเปิ้ลมีสารสำคัญบางตัวอย่าง เบต้า แคโรทีน วิตามินซี และเส้นใยไฟเบอร์ชนิดละลายน้ำหรือเพคติน และยังมีกรดอีก 2 ชนิด คือ กรดมาลิค (Malic) และกรดทาร์ทาริก (Tartaric) ซึ่งช่วยในการย่อยอาหารจำพวกโปรตีนและไขมัน

สำหรับสารสำคัญอย่าง เพคติน ที่มีอยู่มากในแอปเปิล ถือเป็นสิ่งที่น่าสนใจมากสำหรับคุณผู้หญิง เพราะมีส่วนในการลดความอยากอาหาร ลดน้ำหนัก และการลดคอเรสเตอรอล ซึ่งอีแมกกาซีนจะพาทุกท่านไปพบกับความพิเศษเช่นนี้

แอปเปิล ลดความอ้วน

ถ้าหิวจนแทบจะล้มวัวได้ทั้งคอก แต่ยังไม่ถึงเวลาอาหาร การรับประทานแอปเปิลเข้าไปสักลูกจะช่วยลดความหิวได้ดี เพราะแอปเปิลมีแป้งและน้ำตาลในรูปของน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยวถึงร้อยละ 75 จึงทำให้ร่างกายสามารถดูดซึมน้ำตาลพิเศษชนิดนี้ได้รวดเร็ว และนำไปใช้ประโยชน์ได้ในเวลาไม่เกิน 10นาที ดังนั้น ความอยากอาหารจึงลดลง ทำให้คุณไม่รู้สึกหงุดหงิด อ่อนเพลียระหว่างก่อนเวลารับประทานอาหารมื้อใหญ่ๆ

จากการทดลอง พบว่า แอปเปิลสดเท่านั้น ที่มีฤทธิ์ดังกล่าว โดยการดื่มน้ำแอปเปิลจะไม่สามารถทำให้คุณหายหิวแถมยังอาจทำให้คุณมีน้ำหนักเพิ่มอีก 

แอปเปิ้ลขนาดกลางๆ กำลังดี เพียงหนึ่งผลล้างน้ำให้สะอาดไม่ต้องปอกเปลือกจะมีคุณค่าทางโภชนาการดังนี้

- พลังงาน 80 แคลอรี

- มิตามิน บี 6 0.1 กรัม

- วิตามิน ซี 7.9 มิลลิกรัม

- เหล็ก 0.2 มิลลิกรัม

- ทองแดง 0.1 มิลลิกรัม

- โปตัสเซียม158.7 มิลลิกรัม

นอกจากนี้ สำหรับผู้ที่ต้องไปงานเลี้ยงบ่อยๆ ให้ลองใช้เทคนิคลดน้ำหนักง่ายๆ ด้วยการเน้นทานผลไม้ โดยเมื่อเริ่มตักอาหาร ให้เลือกตักผลไม้ก่อนเป็นอันดับแรก อาจจะหยิบแอปเปิ้ล ส้ม หรือผลไม้ที่มีกากใยอาหารเยอะๆ มารับประทานรองท้องแทนออเดิร์ฟอย่าง ข้าวเกรียบ หรือขนมขบเคี้ยวต่างๆ เพราะในเวลาไม่เกิน 10 นาที น้ำตาลผลไม้โมเลกุลเดี่ยวจะถูกดูดซึม ทำให้ความอยากอาหารของคุณลดลง คุณจึงรับประทานของคาวได้น้อยลง แต่รู้สึกอิ่มโดยไม่ทุรนทุราย แอปเปิ้ลช่วยทำให้คุณไม่รู้สึกอยากอาหาร แต่ช่วยให้อิ่มเร็วได้ดีกว่าอาหารจำพวกแป้งหรือน้ำตาอื่นๆ

บำรุงหัวใจแข็งแรง ลดคอเลสเตอรอล

การรับประทานแอปเปิ้ล 2-3 ผลต่อวัน ช่วยลดปริมารคอเลสเตอรอลในกระแสเลือดได้ แต่ทั้งนี้จะผลมากหรือน้อยนั้นก็ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล คือ ผลที่ได้ไม่เท่ากัน แต่ก็มีรายงานว่า แอปเปิ้ลสามารถลดคอเลสเตอรอลในผู้หญิงได้ดีกว่าผู้ชาย โดยนักวิทยาศาสตร์จากหลายประเทศได้ผลการวิจัยตรงกันว่า แอปเปิลมีส่วนช่วยลดคอเลสเตอรอลได้จริง ซึ่งคณะวิจัยจากมหาวิทยาลัยพอลซาบาทิเอร์ พบว่า แอปเปิลช่วยลดคอเลสเตอรอลได้ในหนูทดลอง ต่อมาได้มีการทดลองในอาสาสมัครวัยกลางคน ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย 30 คน โดยให้ทานอาหารเหมือนเดิมทุกประการ แต่รับประทานแอปเปิลร่วมด้วยวันละ 3 ผล ทุกวันเป็นเวลาหนึ่งเดือน พบว่า อาสาสมัครจำนวน 24 คน มีปริมาณคอเลสเตอรอลในเลือดลดลง บางคนลดมากกว่าร้อยละ 10 โดยแอปเปิลมีสารเพคตินซึ่งเป็นไฟเบอร์ที่ละลายน้ำได้ การวิจัยบ่งชี้ว่า เมื่อกรดในทางเดินอาหารย่อยสลายไขมัน แยกคอเลสเตอรอลออกมาเสร็จสิ้นแล้วแพคตินจากแอปเปิ้ลจะไปคอยดักจับคอเลสเตอรอลเหล่านั้น และพาไปทิ้งทันท่วงทีก่อนที่ร่างกายจะดูดกลับเข้าร่างกาย

แอปเปิลลดน้ำตาลในเลือด

แอปเปิลถือว่าเป็นผลไม้ที่เหมาะกับผู้ป่วยโรคเบาหวาน และผู้ที่ต้องคุมน้ำตาลในเลือด เพราะเมื่อรับประทานอาหารเข้าไป อาหารแต่ละชนิดจะถูกย่อยสลายและดูดซึมผ่านผนังกระเพาะลำไส้เข้าสู่กระแสเลือด แต่ว่าระดับน้ำตาลในกระแสเลือดจะเพิ่มช้าหรือเร็วก็ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติของอาหารนั้นๆ เช่น ทานน้ำผึ้ง น้ำตาลในเลือดจะขึ้นสูงทันที แต่สำหรับถ้าเป็นแอปเปิลที่แม้จะมีน้ำตาลธรรมชาติ แต่เจ้าผลไม้มากประโยชน์ชนิดนี้ก็ไม่ทำให้น้ำตาลในเลือดเพิ่มอย่างรวดเร็วคล้ายกับอาหารจำพวกถั่ว ซึ่งมีรายงานว่า ผู้ที่บริโภคอาหารไฟเบอร์มากจะมีโอกาสเกิดเบาหวานต่ำกว่าคนที่รับประทานไฟเบอร์น้อย และสำหรับคนที่เป็นเบาหวานอยู่แล้ว ไฟเบอร์จะช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้อีกด้วย

ไม่น่าเชื่อใช่ไหมละคะว่าจะมีประโยชน์มากมายได้ขนาดนี้ สำหรับ แอปเปิล แล้วก็หลังจากที่อ่านบทความนี้แล้วก็อย่าลืมหามาติดตูเย็นไว้อย่าให้ขาดนะคะ รับรองได้สวยเพรียวกันละคราวนี้กินก่อนกินอาหารสัก 10-20 นาที ทุกมืออาจช่วยลดการกินอาหารของเราได้ไม่น้องเลยนะคะเนี้ย

ลิขสิทธิ์บทความของ e-magazine.info ติดตามบทความ สุขภาพ หรืออ่าน แมกกาซีน
ที่มา     https://www.widemagazine.com/content_detail.php?cont_id=1547

อัพเดทล่าสุด