"ป้องกันแสงแดดให้ได้ผล"
ทุกๆครั้งเวลาที่สาวๆเราจะออกแดดจ้า แม้ว่าจะทากันแดดแล้วจะรู้ได้อย่างไรละว่ามันป้องกันแสงแดดให้เราแล้วหรือยัง วันนี widemagazine มีวิธีป้องกันแสงแดดให้ได้ผลดีมาฝากกันคะ
1. สำหรับการทาครีมกันแดดหรือโลชั่นกันแดดทั้งหลาย ต้องทาล่วงหน้าอย่างน้อย 30 นาทีก่อนจะออกแดด ถ้าหากทาแล้วออกแดดเลยก็รับรองว่าโดนเผาจนผิวเกรียมแน่นอนคะกว่า ครีมกันแดดจะทำงาน
2. การทากันแดด ต้องทาซ้ำทุกๆ 2 ชั่วโมง และถ้าหากว่าเราลงเล่นน้ำหลังจากเล่นน้ำแล้วถ้ายังต้องโดนแดดอยู่ก็ต้องทาซ้ำอีกทีนะคะ
3. ก่อนซื้อครีมกันแดด ให้หาคำว่า Water Proof (ที่จะกันแดดได้นาน 80 นาที) และ Water Resistant (จะกันแดดได้นาน 40 นาที) ก่อนทุกครั้งนะคะ
4. การทาครีมกันแดดควรทาทั้งคอและแขนด้วยนะคะ ไม่ใช่ว่าทาเฉพาะใบหน้า ระวังจะสวยแต่หน้า แต่ว่าคอและแขนดำนะคะ
5. ระหว่างวันควรมีการเติมกันแดดให้ผิวด้วยนะคะ และก่อนทาก็ควรซับหน้าให้หายมันซะก่อน ไม่งั้นเยิ้มแน่นอนคะ
6. หากต้องตากแดดนาน ก็ควรดื่มน้ำให้มากๆด้วยนะคะ เพื่อไม่ให้ร่างกายของเราขาดน้ำ และควรที่จะทา After Sun หลังจากการตากแดดเป็นเวลานอนด้วยคะเพราะจะช่วยให้บรรเทาอาการแสบร้อน เลือกที่มีส่วนผสมของวิตามินอีและว่านหางจระเข้ และไม่ควรโดนแดดแรงๆ อีกสักพักค๊า
7. การใช้ครีมกันแดดหรือโลชั่นกันแดดควรแยกใช้ระหว่างหน้าและ ผิวการนะคะ เพราะความบางของผิวไม่เท่ากัน เดี๋ยวจะทำให้เกิดอาการระคายเคือง หรือ บางครั้งครีมกันแดดอาจจะใช้ไม่ได้ผลเท่าที่ควรคะ
8. หากเกิดอาการปวดแสบปวดร้อนหลังการตากแดด ก็ให้ประคบด้วยน้ำเย็นผสมนมสด และไม่ควรใช้น้ำแข็งประคบนะคะเดี๋ยวจะทำให้ผิวไหม้ไปกันใหญ่ กลังจากนั้นควรทาโลชั่นที่มีส่วนผสมของอโลเวราและไม่ควรใช้สบู่หรือครีมอาบน้ำถูโดยเด็ดขาด
9. แต่ถ้าผิวเป็นสีแดงจัด เป็นรอยย่นจนเห็นได้ชัด ควรอาบน้ำและชโลมผิวเหมือนข้อแรก ทานยาแอสไพรินทุกๆ 4 ชั่วโมง จากนั้นให้ไปพบแพทย์ แต่ถ้าพบว่ามีผิวเป็นสีแดง มีตุ่มน้ำใสๆ มีไข้ หนาวสั่น ให้ทานยาแอสไพรินแล้วรีบไปพบแพทย์ทันที
10. การใส่เสื้อผ้าหนาๆในเวลาที่อยู่กลางแดดก็เป็นอีกวิธีที่จะปกป้องผิวจากแสงแดดได้เหมือนกันนะคะ และอีกอย่างที่ไม่ควรขาดก็คือแว่นกันแดดคุณภาพดีๆไว้ใช้ด้วยก็วิเศษเลยคะ
แสงแดดอันร้อยระอุนอกจากจะเป็นอันตรายกับผิวสวยแล้ว ยังเป็นสาเหตุของมะเร็งผิวหนังซึ่งอาจจะเกิดขึ้นบริเวณหนังตาที่บอบบางและไวต่อแสงเป็นพิเศษ รวมทั้งถุงมือที่ช่วยป้องกันบริเวณหลังมือที่มักเป็นตำแหน่งที่เกิดมะเร็งผิวหนังมากที่สุดเช่นกันคะ
ที่มา https://www.widemagazine.com/content_detail.php?cont_id=1756