"ผิวสวยสู้แดด"
หน้าร้อนอย่างนี้ เตรียมตัวสู้กับแดด ลุยทะเลหน้าร้อนกันเลยดีไหมคะ?.
ปัญหาร่วงโรยก่อนวัยมีสาเหตุมาจากแสงแดดถึง70% สิ่งที่ผู้หญิงไทยห่วงนักห่วงหนาอีกหนึ่งก็คือ กลัวผิวจะดำคล้ำ เนื่องจากรับรังสียูวีมากเกินไป เพราะเมื่อผิวเรารับรังสีแล้ว จะผลิตเมลานินเพื่อดูดซับยูวี เป็นการปกป้องผิวไม่ให้ถูกทำลาย
ซึ่งจริง ๆ แล้ว เป็น การสร้างสารกันแดดตามธรรมชาติของร่างกายเราเอง และสีคล้ำจะค่อยๆจางไป เพราะกระบวนการผลัดผิวเก่าทิ้งไป ให้ผิวใหม่ที่ขาวกว่าขึ้นมาแทนที่ แต่ถ้าสะสมเมลานินไว้มากๆ ผิวก็จะดำคล้ำอยู่เช่นนั้น ไม่จางขาวเท่ากับความขาวเดิมอีก
สำหรับคนที่ผิวขาวกว่า หรือผิวประเภทแพ้ง่าย จะถูกทำร้ายมากกว่าคนที่มีผิวคล้ำ จึงจำ เป็นต้องปกป้องผิวมากกว่า และคนที่ขาวจัดๆและไม่ดำ แต่ผิวจะแดงเมื่อโดนแดดจัด หรือโดนแดดนานหน่อยแล้วผิวไหม้ จะต้องใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูงกว่าคนผิวคล้ำเพราะฉะนั้น สาวฝรั่งผิวขาวตาน้ำข้าวจึงต้องใช้ชนิดที่มีค่า SPF สูงกว่าเรา
สำหรับคนไทย ที่ผิวส่วนใหญ่ค่อนข้างเข้มและไม่ไหม้เกรียมง่ายๆ สามารถใช้ครีมกันแดดตั้งแต่ 6-8 ขึ้นไป ก็เพียงพอจะอยู่กลางแดดได้ตลอดวัน โดยไม่ไหม้เกรียม และอย่าลืมทาซ้ำ เมื่อถึงเวลาที่ต้องทาใหม่
สู้ไม่ได้ก็ต้องหลบ
เมื่อผิวของเราไม่ได้มีสารเมลานินติดแน่นและหนาจนดำเป็นเหนี่ยง ก็ควรจะหลบแดดละค่ะ เพราะป้องกันตัวเองไม่ได้เต็มร้อยกับแสงแดดอันแรงกล้า ช่วงเวลาตั้งแต่ 8 โมงเช้าถึงราวๆ 5 โมงเย็น (ขึ้นอยู่กับฤดูกาล) เป็นช่วงที่แดดจัดมาก ควรจะต้องหลีกเลี่ยง ไม่อยู่กลางแดดโดยตรงอยู่นานๆ หาร่ม หมวก สวมเสื้อผ้าที่มิดชิด หรือถ้าจำเป็นก็ควรใช้ครีมกันแดดทากันไว้
ดูแลผิวยามไปทะเล
เมื่อสบโอกาสไปท่องเที่ยวในวันหยุด เพลิดเพลินกับท้องทะเล หาดทรายและสายลมแล้ว อย่าลืมดูแลผิวให้อยู่ดีมีสุขด้วย พยายามอยู่ในร่มเงาหน่อย และถึงแม้ว่าจะนอนอ่านหนังสือริมหาดยามเที่ยงวันใต้ร่มไม้ รังสี UVA หรือ UVB ก็ตามมาทำร้ายได้อีก เพราะพื้นทรายก็สามารถสะท้อนรังสีได้ถึง 25% นี่คือเหตุผลที่ชอบบ่นกันว่าเราหลบอยู่ใต้ร่มแท้ๆทำไมยังดำไปตั้งเยอะ
ดูแลผิวแล้วต้องดูแลดวงตาด้วยค่ะ ปกป้องสายตาด้วยแว่นตาที่ฉาบสารปกป้องรังสี UV เพราะหากปล่อยปละละเลยบ่อย ๆ อาจจะทำให้เกิดโรคต้อกระจกได้ด้วย
ใช้ครีมกันแดด
ก่อนออกไปสู้รบกับแสงแดด ควรทาครีมกันแดดก่อนสัก 15-30 นาที ก่อนทาครีมกันแดดบนใบหน้า ดูก่อนว่าครีมชนิดนั้นใช้ทาบนใบหน้าได้หรือไม่ เพราะผิวหน้านั้นบอบบาง แพ้ได้ง่าย หรือหากจะว่ายน้ำเล่น ควรทาครีมกันแดดชนิดกันน้ำ เมื่อขึ้นจากน้ำก็ควรทาซ้ำ หรือทาครีมอย่างน้อยๆทุก 2 ชั่วโมง เพื่อปกป้องผิวได้ตลอดวัน
ค่า SPF เป็นตัวแสดงว่าครีมกันแดดสามารถกันแดดได้กี่เท่าตัว เช่น SPF 15 ก็แปลว่า เมื่อทาครีมนี้แล้ว เราจะอยู่ภายใต้แสงแดดได้นานขึ้นถึง 15 เท่า ของความทนทานของผิวเราเอง ความทนทานของผิวต่อแสงแดดในแต่ละคนจะไม่เท่ากัน ถ้าทนแดดได้นานครึ่งชั่วโมง เมื่อทาครีมที่มี SPF 15 แล้วจะทนแดดเพิ่มขึ้นเป็น 7 ชั่วโมงครึ่ง
ถนอมผิวหลังผจญแดด
หลังจากนอนเล่นริมหาด หรือ ว่ายน้ำกลางแดดอย่างสนุกสุดเหวี่ยงจนลืมเวลาอาจรู้สึกแสบร้อนที่ผิวเพราะถูก แดดเผา และผิวจะแห้งลงเพราะสูญเสียความชื้นไปกับแสงแดด ลม การว่ายน้ำทั้งในทะเล และในสระน้ำที่ผสมคลอรีนอยู่ด้วย
เพื่อเรียกความสดชื่นของผิวพรรณคืนมา รวมทั้งลดอาการปวดแสบปวดร้อนตามเนื้อตัว อาบน้ำหลังจากเลิกว่ายน้ำหรือนั่งรับลมริมทะเลแล้ว ด้วยครีมอาบน้ำที่มีสูตรอ่อนละมุน เพื่อชำระล้างทรายและเกลือออกจากผิว หรือเลือกชนิดแอนตี้คลอรีน ถ้าไปว่ายน้ำสระมา
หลังอาบน้ำ ขณะที่ผิวยังชื้นอยู่ ใช้มอยส์เจอไรเซอร์เพื่อเรียกความชุ่มชื้นของผิวหน้ากลับคืนมา หรืออาจใช้แบบ อาฟเตอร์ซัน (aftersun) เพื่อให้ความเย็นกับผิว ส่วนผสม อย่าง วิตามิน E จะช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและช่วยป้องกันผิวลอก และอย่าลืมบำรุงผิวที่ใต้ดวงตาและปากด้วยเพราะผิวบริเวณนี้ก็ถูกแดดพอๆกับ บริเวณอื่นๆเช่นกัน
ที่มา https://www.widemagazine.com/content_detail.php?cont_id=684