ลูกแพ้อาหารทำอย่างไรดี


1,140 ผู้ชม


"ลูกแพ้อาหารทำอย่างไรดี"

    ต้องทำอย่างไรบ้าง หากลูกน้อยมีอาการแพ้อาหาร แล้วรักษาอย่างไรดี..


เรื่อง : อ.อมราภรณ์ วงษ์ฟัก มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต

เด็ก ๆ ที่บ้านคุณมีอาการเช่นนี้บ้างหรือเปล่า "แพ้อาหาร (Food Allergy)" ซึ่งเป็นโรคภูมิแพ้ชนิดหนึ่ง พบได้ในเด็กบ่อยกว่าผู้ใหญ่ และเด็กเล็กบ่อยกว่าเด็กโต โดยในผู้ใหญ่พบประมาณร้อยละ 2 ในเด็กพบได้ร้อยละ 6 และเด็กเล็กที่มีอายุน้อยกว่า 3 ปี พบได้มากถึงร้อยละ 8 การที่เด็กเล็กมีโอกาสที่จะเกิดได้บ่อยกว่ากลุ่มอายุอื่น อันเนื่องมาจากการที่ ระบบทางเดินอาหารในเด็กเล็กยังไม่มีการพัฒนาการที่สมบูรณ์


          ทั้งในแง่ของระบบภูมิคุ้มกัน การย่อย และการดูดซึมอาหาร ทำให้สารอาหารโดยเฉพาะโปรตีนถูกย่อยได้ไม่สมบูรณ์ และถูกดูดซึมเข้าไปทำให้เป็นแอนติเจนแปลกปลอมขนาดใหญ่ ที่สามารถกระตุ้นให้เกิดการแพ้ได้ อาการแพ้อาหารจะมีอาการภายในเวลาไม่กี่นาที หรือเพียงไม่กี่วินาทีดังนี้ ไอ คอแห้ง คันคอและลิ้น คันตามผิวหนังและร่างกาย คลื่นไส้และท้องอืด ท้องเสียหรืออาเจียน หายใจหอบถี่ ริมฝีปากและคอบวม น้ำมูกไหลหรือคัดจมูก ปวดตา ตาแดงและคัน บางรายอาการรุนแรงอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้
          อาหารใดบ้างล่ะที่เด็กมักจะแพ้ เช่น ไข่ นมวัว และผลิตภัณฑ์จากนม อาหารทะเล ปลา ปู กุ้ง ผลไม้เปลือกแข็ง ถั่วลิสง ถั่วเหลือง ธัญพืชที่มีโปรตีนกลูเต็น (ข้าวสาลี ข้าวไรย์ ข้าวโอ๊ต และข้าวบาร์เล่ย์) ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (สารกันบูดที่ใช้ในอาหารและเครื่องดื่มบางชนิด) เป็นต้น
          ต้องทำอย่างไรบ้าง หากลูกน้อยมีอาการแพ้อาหาร ควรสังเกตอาการดังกล่าวหลังกินอาหารชนิดใดชนิดหนึ่งซ้ำ ๆ ว่าแพ้อาหารชนิดนั้น ๆ แต่ในบางรายที่สงสัยว่าแพ้อาหารหลายชนิด หรือไม่แน่ใจว่าแพ้อาหารชนิดใด ควรพาลูกไปพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยปัญหา และให้คำแนะนำที่ถูกต้องว่าควรจะจัดการดูแลอย่างไร 
          แล้วรักษาอย่างไรดี การรักษาที่ดีที่สุดและได้ผลคือการงดอาหารที่แพ้ โดยต้องงดอาหารทุกชนิดที่มีส่วนประกอบของสารอาหารที่แพ้ เช่น แพ้นมวัว ก็งดอาหารที่มีนมเป็นส่วนประกอบ เช่น ไอศกรีม คุกกี้ และให้กินนมถั่วเหลือง หรือนมสูตรพิเศษสำหรับผู้ที่แพ้นมวัวแทน การรักษาด้วยยาเป็นการรักษาตามอาการ เช่น ยารักษาอาการผื่นคัน ยาลดน้ำมูก ยาแก้อาการหอบ แน่นหน้าอก เป็นต้น
          อย่าลืมนะคะ การจะให้เด็กกินอะไรเป็นครั้งแรก ควรสังเกตอาการด้วยว่าเด็กแพ้อาหารชนิดนั้นหรือไม่ และควรให้กินเพียงเล็กน้อยก่อน เพื่อความปลอดภัยของเด็ก ๆ ค่ะ

ปีกไก่ย่างสอดไส้
 ส่วนผสม
          ปีกไก่ 5 ปีก
          กระเทียม, รากผักชี, พริกไทยโขลกละเอียด 2 ช้อนโต๊ะ
          ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
          น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
 ส่วนผสมใส้
          วุ้นเส้น ตราหงส์ ½ ถ้วยตวง (แช่น้ำให้นิ่มหั่นท่อนสั้น ๆ)
          หมูบด 1 ½ ถ้วยตวง
          กระเทียมสับละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ
          รากผักชีสับละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ
          น้ำตาลทราย ½ ช้อนชา
          ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
          น้ำจิ้มตามชอบ, ไม้จิ้มฟัน
          ผักสลัดสำหรับตกแต่ง
 วิธีทำ
         เลาะกระดูกไก่ออกให้เหลือกระดูกส่วนปลาย
         หมักปีกไก่กับรากผักชี กระเทียม พริกไทยโขลกละเอียดซีอิ๊วขาว น้ำตาลทราย คลุกเคล้าให้เข้ากัน พักไว้ในตู้เย็น ประมาณ 1 ชั่วโมง
         ผสมหมูบด กระเทียมสับ รากผักชีสับ น้ำตาลทราย ซีอิ๊วขาว ใส่วุ้นเส้น ตราหงส์ นวดให้เข้ากัน พักไว้ในตู้เย็นประมาณ 1 ชั่วโมง
         บรรจุส่วนผสมไส้ใส่ในปีกไก่พอเต็ม กลัดด้วยไม้จิ้มฟัน และใช้ไม้จิ้มฟันจิ้มให้รอบปีกไก่เพื่อเวลาย่างจะได้ไม่แตก
         ย่างปีกไก่ด้วยไฟอ่อนให้สุกเหลืองดึงไม้จิ้มฟันออก จัดใส่จานตกแต่งด้วยผักสลัด จัดเสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มตามชอบ

ปลาข้าวสารพัดซีอิ๊วญี่ปุ่น
 ส่วนผสม
          ปลาข้าวสาร 1 ½ ถ้วยตวง
          โชยุ (ซีอิ๊วญี่ปุ่น) ½ -1    ช้อนโต๊ะ
          น้ำตาลทราย 3 ช้อนโต๊ะ
          งาขาวคั่ว 2 ช้อนโต๊ะ
          น้ำมันพืช
          ต้นหอมหั่นเฉียงสำหรับตกแต่ง
 วิธีทำ
         ล้างปลาข้าวสารให้สะอาดชิมดูให้หายเค็มแล้วผึ่งให้แห้ง
         ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืชเล็กน้อยโดยใช้ไฟปานกลาง พอน้ำมันร้อนนำปลาลงคั่วให้เหลืองทั่ว ตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำมัน
         ตักน้ำมันพืชออกจากกระทะเร่งไฟ นำปลาข้าวสารลงผัดปรุงรสด้วยโชยุและน้ำตาลทรายผัดให้ทั่วจึงปิดไฟ โรยงาขาว
         ตักใส่จาน โรยหน้าด้วยต้นหอม เสิร์ฟกับข้าวสวยร้อน ๆ
ที่มา    https://www.widemagazine.com/content_detail.php?cont_id=1084

อัพเดทล่าสุด