ผลตรวจมะเร็งปากมดลูกผิดปกติ ทำไงดี?


860 ผู้ชม


"ผลตรวจมะเร็งปากมดลูกผิดปกติ ทำไงดี?"

    โปรดจำไว้ว่าผลการตรวจมะเร็งปากมดลูกผิดปกติไม่ได้หมายความว่าจะเป็นมะเร็ง นั่นเพราะความผิดปกติของปากมดลูก เกิดได้จากหลายสาเหตุ คือ..

อย่าตกใจกับผลของการตรวจมะเร็งปากมดลูก และโปรดจำไว้ว่าผลการตรวจมะเร็งปากมดลูกผิดปกติไม่ได้หมายความว่าจะเป็นมะเร็ง นั่นเพราะความผิดปกติของปากมดลูก เกิดได้จากหลายสาเหตุ คือ
           1. การติดเชื้อ : อาจจะติดเชื้อรา แบคทีเรีย หรือเชื้อพยาธิ
           2. เชื้อไวรัส (HPV) : การติดเชื้อไวรัสชนิดนี้พบได้บ่อย แต่มักไม่มีอาการแต่จะตรวจพบเมื่อตรวจเช็คมะเร็งปากมดลูก (Pap smear) ในบางรายไวรัสตัวนี้อาจจะทำให้เกิดหูดหงอนไก่ หรือในบางรายเชื้อตัวนี้อาจจะกระตุ้นเซลล์เยื่อบุที่หุ้มปากมดลูกให้มีการแบ่งตัวผิดปกติ และกลายเป็นมะเร็งได้
           3.เซลล์ผิดปกติ : เซลล์ผิดปกติเหล่านี้ (HSIL, LSIL) ไม่ได้เป็นเซลล์มะเร็งแต่ถ้าปล่อยทิ้งไว้จะกลายเป็นมะเร็งได้
           4.การขาดฮอร์โมนเพศ : เอสโตรเจน (ESTROGEN) จะกระตุ้นให้เซลล์เยื่อบุปากมดลูกมีความสมบูรณ์มาก  ดังนั้นถ้าขาดฮอร์โมนตัวนี้จะทำให้ผนังเยื่อบุปากมดลูกบางลง
ทำอย่างไรเมื่อผลตรวจผิดปกติ
           1.หากเกิดการติดเชื้อ : หมออาจจะตรวจอย่างอื่นเพิ่มเติมว่าเป็นเชื้ออะไร ก่อนที่จะรักษาต่อไป หลังจากนั้นแพทย์อาจจะตรวจมะเร็งปากมดลูกซ้ำใหม่อีกครั้ง
           2.เชื้อไวรัส (HPV) : ถ้ามีติดเชื้อไวรัสนี้อย่างเดียวโดยที่ไม่พบหูดหงอนไก่ ก็ไม่จำเป็นจะต้องรักษา แต่ต้องตรวจมะเร็งปากมดลูกบ่อยขึ้น คือ ทุก 6 เดือน จนกระทั่งเชื้อไวรัสนั้นหายไป ซึ่งอาจจะใช้เวลาประมาณ 1 ปี แต่ถ้าพบทั้งเชื้อไวรัส และมีเซลล์ผิดปกติ ก็ต้องรักษาต่อไป
            3.ถ้าพบเซลล์ผิดปกติ : จำเป็นต้องตรวจอย่างอื่นเพิ่มเติม เช่น ตรวจด้วยกล้องขยายเฉพาะที่เรียกว่า Coposcope เพื่อดูที่ผิวของเยื่อบุปากมดลูก บางครั้งอาจต้องตัดชิ้นเนื้อบริเวณปากมดลูกที่ผิดปกติออกไปเล็กน้อย ขนาดเท่าเม็ดถั่วเขียว และส่งไปตรวจที่ห้องทดลอง ผลของชิ้นเนื้อที่ตัดออกไปจะทราบผลประมาณ 1-3 สัปดาห์
  
          นอกจากนี้ยังมีการตรวจด้วย Endocervical Curettage (ECC) เป็นการตรวจช่องด้านในของปากมดลูกซึ่งไม่สามารถมองเห็นได้จากการทำ Colposcopy โดยแพทย์จะใช้เครื่องมือที่มีลักษณะคล้ายช้อนขนาดเล็ก เข้าไปขูดเอาเนื้อเยื่อภายในช่องของปากมดลูก อาจทำให้มีอาการปวดท้องน้อยคล้ายกับการปวดประจำเดือน และมีเลือดออกเล็กน้อย ภายหลังทำแพทย์จะให้ยาบรรเทาอาการดังกล่าว
          ในผู้ป่วยบางราย  แพทย์อาจไม่แน่ใจว่าความผิดปกติที่ตรวจพบเกิดจากสาเหตุที่ปากมดลูก หรือภายในเยื่อบุโพรงมดลูกกันแน่ กรณีเช่นนี้แพทย์จะใช้วิธีทำ Dilatation and Curettage (D&C) โดยจะฉีดยาชาบล็อกปลายประสาท หรือดมยาสลบ และใช้เครื่องมือขยายปากมดลูก ก่อนจะใช้เครื่องมือที่มีลักษณะคล้ายช้อนขนาดเล็ก เข้าไปขูดเอาเนื้อเยื่อภายในโพรงมดลูกและปากมดลูกมาตรวจ
           จากทั้งหมดที่กล่าวมานี้ หากคุณสาว ๆ ได้รับผลตรวจว่าพบความผิดปกติในปากมดลูก ก็อย่าเพิ่งวิตกไป เพราะจริง ๆ แล้ว อาจจะไม่ได้ถึง "มะเร็งปากมดลูก" ที่คุณสาว ๆ กลัวกันก็ได้นะคะ
ที่มา   https://www.widemagazine.com/content_detail.php?cont_id=943

อัพเดทล่าสุด