"สะบัดเครียด...จากหัวจรดเท้า!"
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเงิน เรื่องงาน หรือความรัก ก็อาจสร้างความเครียดและบั่นทอนสุขภาพของสาว ๆ ได้ แต่เราจะมีวิธีจัดการกับอาการเหล่านั้นได้อย่างไร มาลองดูกันค่ะ
ปวดศีรษะ
เสียเวลาเพียง 10 นาที ลองสูดหายใจลึก ๆ หรือนั่งสมาธิ จะช่วยให้กล้ามเนื้อที่เป็นสาเหตุของอาการปวดศีรษะผ่อนคลายลง ลองนั่งในที่เงียบ ๆ หลับตา สูดหายใจลึก ๆ ลงไปถึงท้อง กลั้นไว้ประมาณ 5 วินาที และผ่อนลมหายใจออก การวิจัยชี้ว่า การสูดลมหายใจง่าย ๆ เช่นนี้จะสามารถลดความดันโลหิต และทำให้รู้สึกอิ่มเอิบ
ปวดไหล่
มาผ่อนคลายไหล่และขยายทรวงอกด้วยการยืดตัวแบบโยคะคลาสสิก โดยยืนขึ้นและยกแขนขวาเหนือศีรษะ งอแขนลงมาให้ข้อศอกชี้ขึ้นบน และห้อยมือขวาลงมาหลังศีรษะ พร้อมกับยืดแขนซ้ายออกด้านข้าง แล้วงอแขนมาด้านหลัง ให้มือซ้ายเอื้อมขึ้นไปด้านหลังศีรษะ พยายามให้นิ้วมือทั้งสองข้างสัมผัสกันให้ได้ และสลับตำแหน่งบน-ล่าง โดยให้แขนซ้ายอยู่บน อ่านแล้วอย่าลืมลองทำดูนะคะ
เพิ่มความคิดสร้างสรรค์
นอกจากจะทำให้ความคิดดี ๆ โลดแล่นอยู่ในหัวแล้ว ฝันกลางวันยังช่วยจัดระเบียบความคิด และเผยแง่มุมใหม่ ๆ เพราะไม่ว่าฝันกลางวันนั้นจะหลุดโลกแค่ไหน คุณก็อาจจะหยิบเอาบางส่วนไปประยุกต์ใช้ได้
อิดโรย
ความเครียดอาจทำให้นอนไม่หลับ ผลก็คือจะง่วงและเหนื่อยล้าในระหว่างวัน ให้ลองฝึก "หยุดความคิด" โดยการนึกภาพสัญญาณ "หยุด" ขึ้นมาจริง ๆ เวลาที่รู้สึกว่าฟุ้งซ่าน หรือลอง "การผ่อนคลายกล้ามเนื้อตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า" ซึ่งเป็นเทคนิครักษาอาการนอนไม่หลับ โดยเริ่มจากเกร็งกล้ามเนื้อบริเวณนิ้วเท้าประมาณ 5 วินาทีแล้วปล่อย จากนั้น ให้เกร็งกล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ ไล่ขึ้นมาเรื่อย ๆ โดยหายใจอย่างผ่อนคลายตลอดเวลา
สิวเห่อ
ตำรับจีนให้ดื่มน้ำอุ่นกับมะนาวจะช่วยล้างพิษให้แก่ผิว นี่เป็นคำแนะนำจากซูซาน ซิมิเนลลิ ผู้ก่อตั้ง Susan Clminelli Day Spa ในนิวยอร์ก นอกจากนี้ ให้ลองใช้ใยบวบแห้ง โดยเริ่มจากถูช้า ๆ ที่ข้อเท้าและไล่ขึ้นมาเรื่อย ๆ จะช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือด แถมยังทำให้รู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่าอีกด้วยนะ
คอแข็ง
เราขอแนะนำให้นวด ไม่ว่าจะเป็นวิธีนวดหินร้อน หรือกดจุดก็สามารถบรรเทาอาการตึงบริเวณกล้ามเนื้อคอ หรือหลังส่วนบนได้ หรืออาจทำวารีบำบัดด้วย Kneipp Hydrotherapy โดยการแช่น้ำที่เย็นที่สุดเท่าที่คุณจะทนไหว แล้วอุ่นให้น้ำร้อนขึ้นในขณะที่แช่อยู่ ให้เปลี่ยนอุณหภูมิระหว่างเย็น-ร้อนสลับกัน 3-4 รอบ หรือใช้ฝักบัว หรือราดน้ำลงบนกล้ามเนื้อที่เมื่อยล้าประมาณ 10-60 วินาที การเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิอย่างกะทันหัน จะทำให้หลอดเลือดหดและขยายตัว ชะล้างสารพิษอย่างกรดแล็กติก และช่วยในการลำเลียงเลือดและน้ำเหลืองเป็นอย่างดี
น้ำหนักเพิ่ม
เครียด...เดินเร็ว ๆ สิ เพราะการศึกษาชี้ว่า การออกกำลังกายจะช่วยลดความเครียดและเผาผลาญแคลอรี่ได้ และเลิกทานขนมที่มีไขมันสูง เพราะอาหารที่มีประโยชน์สามารถช่วยบรรเทาความเครียดได้ โดยอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตสูงอย่างแยม จะเพิ่มปริมาณสารเซโรโทนินในสมอง ทำให้รู้สึกมีความสุข เช่นเดียวกับอาหารธัญพืช กล้วย อโวคาโด ผักโขม และบร็อกโคลี่ ล้วนอุดมไปด้วยวิตามินบี ซึ่งทั้งดีและไม่อ้วนด้วยนะ
ท้องอืด
วางถุงน้ำร้อนบนท้องน้อย จะช่วยผ่อนคลายเนื้อเยื่อกล้ามเนื้อเรียบของลำไส้ และลดอาการปวด ท้องตึง หรือท้องอืดได้ นอกจากนี้ ควรทานอาหารที่มีกากใยสูงอย่างอัลมอนด์ ถั่วเหลือง ถั่วลิสง หรือลองทานอาร์ติโชกนึ่งและเหยาะน้ำสลัดใสก็อร่อย และมีประโยชน์ไปอีกแบบค่ะ
ปวดเท้า
การวิจัยชี้ว่า การนวดฝ่าเท้าอย่างถูกวิธีโดยนักกดจุดบำบัด จะช่วยรักษาอาการต่าง ๆ ที่เกิดจากความเครียดได้ ไม่ว่าจะเป็นไมเกรน หรืออาการปวดหลัง โดยนวดบริเวณโคนนิ้วเท้าเพื่อลดอาการปวดศีรษะ นวดบริเวณอุ้งเท้าเพื่อผ่อนคลายหน้าอก และนวดกลางฝ่าเท้าเพื่อบรรเทาอาการปวดบริเวณหน้าท้อง
ที่มา https://www.widemagazine.com/content_detail.php?cont_id=744