"โรบอต นวัตกรรมใหม่ ตรวจมะเร็งปากมดลูก"
สถาบันมะเร็งแห่งชาติ เปิดตัวโรบอตเทคโนโลยีสุดล้ำ ระบบการตรวจมะเร็งปากมดลูกอัตโนมัติที่สมบูรณ์แบบ (ThinPrep Imager system) เป็นเครื่องแรกในประเทศไทย และให้ผลแม่นยำในการตรวจถึง 100%
มะเร็งปากมดลูกเป็นโรคมะเร็งที่มีอัตราผู้ป่วยสูงเป็นอันดับ 2 ของกลุ่มมะเร็งที่เกิดกับผู้หญิง สำหรับในประเทศไทย แต่ละปีจะมีผู้ป่วยรายใหม่เกิดขึ้นราว 5,500 คน และมีอัตราเสียชีวิตเฉลี่ยถึงวันละ 15 คน สาเหตุสำคัญของมะเร็งปากมดลูกเกิดจากการติดเชื้อไวรัสเอชพีวี (Human Papilloma Virus) โดยมีปัจจัยส่งเสริมมาจากการมีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุยังน้อย การเปลี่ยนคู่นอนบ่อย ๆ การมีบุตรมาก การสูบบุหรี่ รวมถึงการได้รับเชื้อ HIV
นพ.ธีรวุฒิ คูหะเปรมะ ผู้อำนวยการสถาบันมะเร็งแห่งชาติ กล่าวว่า มะเร็งปากมดลูกเป็นมะเร็งที่พบมากในกลุ่มผู้หญิงอายุ 35-50 ปี โดยมีอัตราเสียชีวิตสูงถึง 1 ใน 2 ของจำนวนผู้ป่วยทั้งหมด เนื่องจากมะเร็งปากมดลูกจะไม่แสดงอาการในระยะเริ่มแรก ประกอบกับการเกิดมะเร็งชนิดนี้มีสาเหตุหลักจากการมีเพศสัมพันธ์ ทำให้ผู้อยู่ในกลุ่มเสี่ยงมักกลัว หรืออายที่จะไปพบแพทย์ เพื่อตรวจคัดกรองหาเชื้อมะเร็ง ดังนั้น ส่วนใหญ่เมื่อร่างกายแสดงอาการผิดปกติขึ้น ก็มักจะอยู่ในระยะที่ความรุนแรงของโรคลุกลามไปมากแล้ว
สำหรับอาการที่บ่งบอกว่าผู้ป่วยอาจเป็นมะเร็งปากมดลูก ดังที่กล่าวไว้ว่า โดยทั่วไปในระยะแรกมะเร็งปากมดลูกจะไม่ปรากฏอาการใด ๆ จนถึงระยะต่อมาผู้ป่วยจึงเริ่มมีอาการตกขาว มีเลือดออกแบบผิดปกติทางช่องคลอด และตรวจพบแผลหรือก้อนที่ปากมดลูก โดยอาการตกเลือดทางช่องคลอดเป็นอาการที่พบมากที่สุดราวร้อยละ 80-90 ของผู้ป่วย ลักษณะของเลือดที่ออกจะกะปริบกะปรอยระหว่างรอบเดือน มีตกขาวผิดปกติ กลิ่นเหม็น มีเลือดปน หรือมีเลือดออกขณะมีเพศสัมพันธ์ และเมื่อเชื้อมะเร็งลุกลามไปยังส่วนอื่น ๆ ของร่างกายก็จะมีอาการแทรกซ้อนตามมา เช่น ปวดหลัง ขาบวม ปวดก้นกบ ปัสสาวะหรืออุจจาระเป็นเลือด ฯลฯ
หลังจากเล็งเห็นถึงความความสำคัญของการรักษาโรคมะเร็งปากมดลูก สถาบันมะเร็งแห่งชาติจึงได้คิดค้น และพัฒนาวิธีการตรวจมะเร็งปากมดลูกสมบูรณ์แบบ ด้วย ThinPrep Imager systemโดยเปิดตัวนวัตกรรม "โรบอตเทคโนโลยี" เทคโนโลยีอัตโนมัติเพื่อใช้ในการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก เครื่องแรกในประเทศไทย โดยการตรวจคัดกรองด้วยเครื่อง ThinPrep Imager system นั้น สามารถลดข้อจำกัดของการตรวจแป็ปสเมียร์ในแบบเดิม ๆ ซึ่งในบางครั้งอาจเกิดผลลบลวงขึ้นได้ ในระหว่างขั้นตอนการเก็บเซลล์จากปากมดลูก หรือในขั้นตอนการอ่านและการแปลผล และที่สำคัญยืนยันผลการตรวจได้ถึง 100%
ปัจจุบันเทคโนโลยีการตรวจมะเร็งปากมดลูกก้าวหน้าไปมาก การตรวจทางเซลล์วิทยาได้เปลี่ยนแปลงไปเป็น Liquid based cytology ที่ช่วยลดข้อจำกัดของการตรวจแป็ปสเมียร์แบบเดิมด้วยความไวที่สูงกว่า
ดังนั้น ThinPrep System จึงเป็นระบบสมบูรณ์แบบที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ และประสิทธิผลในการตรวจคัด กรองมะเร็งปากมดลูก ทั้งในขั้นตอนการเตรียมเซลล์ให้เป็นแผ่นบางบนแผ่นกระจกแก้ว (Slide) โดยใช้เครื่อง ThinPrep 2000 และ ThinPrep 5000 และในขั้นตอนการอ่านผลแบบ Dual review ด้วย ThinPrep Imaging system ซึ่งจะทำให้การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกสามารถหวังผลได้ถึง 100%
สำหรับประเทศไทยเราพบว่าในช่วงปี ค.ศ. 2001-2003 มีอัตราการเสียชีวิตของผู้หญิงที่เป็นมะเร็งปากมดลูกมากเป็นอันดับ 1 แต่ในอนาคต เมื่อ ThinPrep Imager System เริ่มมีบทบาทมากขึ้น และด้วยนโยบายการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกที่ทำอย่างต่อเนื่อง จะทำให้อุบัติการณ์ของมะเร็งปากมดลูกลดลงได้ ขณะนี้สถาบันมะเร็งแห่งชาติ ซึ่งเป็นสถาบันชั้นนำในการตรวจหามะเร็งปากมดลูก พร้อมแล้วในการนำนวัตกรรมที่สมบูรณ์แบบ "โรบอตเทคโนโลยี" นี้มาใช้ เพื่อการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นอีกก้าวหนึ่งของการเพิ่มความรวดเร็วและความแม่นยำ ในการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกตามมาตรฐานสากล
ที่มา https://www.widemagazine.com/content_detail.php?cont_id=640