5 วิธีสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกาย "ให้แข็งแรง


741 ผู้ชม


"5 วิธีสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกาย "ให้แข็งแรง""

    จะปีใหม่แล้วเราต้องรักษาสุขภาพให้แข็งแรงนะค่ะ เพราะไม่งั้นอดเที่ยวไม่รู้ด้วยนะ วันนี้เราจึงหา 5 วิธีสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกายมาฝากคุณผู้หญิงทั้งหลายด้วยล่ะค่ะ

ด้วย 5 วิธีสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกาย นี้จะช่วยให้คุณผู้หญิงและคุณผู้ชายทั้งหลายได้มีสุขภาพที่ดีขึ้นและแข็งแรงขึ้นโรคภัยไม่ถามหา ยิ่งปีใหม่นี้ก็ยังคงตรงกับอากาศหนาว ๆ อยู่ ฉะนั้นเราต้องมาดูแลตัวเองไม่ให้เจ็บไข้ได้ป่วยง่าย ๆ นะค่ะ ไม่งั้นเห็นคนอื่น ๆ เค้าฉลองปีใหม่ส่วนเราต้องมานอนซมคงไม่ดีแน่ นั้นมาเริ่ม 5 วิธีสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกาย ไปกับเราเพื่อปีใหม่นี้จะได้สนุกได้อย่างเต็มที่นะค่ะ

5 วิธีสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกาย


1.กินผักผลไม้เยอะ ๆ
ดร.ซาร์ลส์ สตีเวนสัน จาก University of California บอกว่า วิตามิน (โดยเฉพาะวิตามินเอและซี) และไฟโตเคมิคอลที่ทำให้ผลไม้มีสีสันสวยงามนั้น มีหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระและเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน เขาเสริมว่า "สารอาหารเหล่านี้จะช่วยในการผลิตและกระจายเม็ดเลือดขาวไปทั่วร่างกายเพื่อต่อต้านไวรัส แถมยังช่วยให้ Neutrophils และเซลล์ Macrophage ทำหน้าที่ผ่านแบคทีเรียแปลกปลอมได้อย่างมีประสิทธิภาพ"
Check List : ในแต่ละวันให้กินผักผลไม้ 5-9 ส่วน โดยเลือกผักผลไม้สีต่าง ๆ กันออกไปทุกมื้อเพื่อเพิ่มความหลากหลายของวิตามิน แร่ธาตุ และสารต้านอนุมูลอิสระ
2.อย่าลืมโปรตีนนะจ๊ะ
ร่างกายของคนเราประกอบไปด้วยเซลล์นับไม่ถ้วนและส่วนประกอบที่สำคัญของเซลล์เหล่านี้ก็คือกรดอะมิโนนี่เอง ดังนั้น หากเราไม่บริโภคโปรตีนให้เพียงพอร่างกายจะไม่สามารถผลิตเม็ดเลือดขาวเพื่อมาต่อสู้กับแอนติเจน (สิ่งแปลกปลอมนอกร่างกาย เมื่อเข้าสู่ร่างกายแล้วจะทำให้เกิดการตอบสนองทางภูมิคุ้มกันได้) ดร.ซีมิน นิคบิน เมดานี ผช.ผอ.ของ Jean Mayer Human Nutrition Research Center on Aging ที่ Tufts University ในเมืองบอสตัน รัฐแมสซาซูเซตส์ กล่าวว่า "วิธีหนึ่งที่เซลล์ภูมิคุ้มกันต่อสู้กับเชื้อโรคคือการเพิ่มจำนวนเซลล์มากขึ้น ดังนั้น การเพิ่มจำนวนเซลล์ โปรตีน และกรดอะมิโนจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก"
Check List : หลีกเลี่ยงไขมันอิ่มตัวจากเนื้อสัตว์โดยเลือกโปรตีนไม่ติดมันอย่างเนื้อปลา อาหารทะเล เป็ด ไก่ (ไม่ติดหนัง) ไข่ Lentils ถั่ว และผลิตภัณฑ์ถั่วเหลือง

3.กินไขมันซะบ้าง
ประเภทของไขมันที่รับประทานสำคัญพอ ๆ กับปริมาณ หากบริโภคไขมันแปรรูป (พบมากในมาร์การีนและสินค้าเบเกอร์ที่วางขายทั่วไป) จะทำให้เกิดการอักเสบเรื้อรัง ระบบภูมิคุ้มกันของเราจึงง่วนอยู่กับการเสียหายของเซลล์และเนื้อเยื่อที่อักเสบในจุดนั้น ๆ มากกว่าจะต่อสู้กับเชื้อโรค
Check List : จำกัดปริมาณแคลอรีที่ได้รับจากไขมันให้อยู่แค่ร้อยละ 30 เท่านั้น เป็นไขมันอิ่มตัวร้อยละ 5-10 ส่วนร้อยละ 20-25 ที่เหลือเป็นไขมันไม่อิ่มตัวจากน้ำมันมะกอก ถั่ว อะโวคาโด และเมล็ดพืชต่าง ๆ พร้อมกับกินกรดไขมันโอเมก้า -3 จากปลาไขมันสูงอย่างแซลมอน ปลาฮาลิบัต และปลาซาร์ดีน จะช่วยลดอาการอักเสบค่ะ
4.กินอย่างพอดี
ปริมาณแคลอรีต้องไม่มากเกินไปและไม่น้อยเกินไปเพราะมีหลักฐานชี้ให้เห็นว่าการอดอาหาร โรคอะนอเร็กเชีย หรือการขาดสารอาหารทำให้ระบบภูมิคุ้มกันเสื่อมลงและทำให้เราติดเชื้อต่าง ๆ ได้ง่าย แต่การได้รับแคลอรีมากไปจะส่งผลต่อการสร้างเซลล์ในระบบภูมิคุ้มกัน นี่อาจเป็นเพราะว่าเมื่อเราได้รับแคลอรีมากเกินไปร่างกายจะผลิตสารชนิดหนึ่งชื่อว่า Prostaglandin ซึ่งกดกระบวนการผลิต T-Cell และเมื่อ T-Cell ลดน้อยลง ก็จะเพิ่มโอกาสให้สิ่งแปลกปลอมเข้ามายืดครองได้ง่ายขึ้น
Check List : ปกติแล้วน้ำหนักตัว 1 กก. จะต้องการประมาณ 35 แคลอรี ถ้าคุณหนัก 60 กก. ก็หมายความว่าคุณควรจะได้รับแคลอรีวันละ 2,100 แคลอรี นั่นเองค่ะ
5.ออกกำลังกายกันเถอะ
จำไว้ให้ขึ้นใจว่าระบบภูมิคุ้มกันจะทำงานได้ไม่เต็มที่หากเราน้ำหนักเกินหรือมีระดับคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์สูงเกินไป การออกกำลังกายนี่เองคือหัวใจสำคัญของการเอาน้ำหนักส่วนเกินออกไป นอกจากนี้การวิจัยจาก University of South Carolina ยังชี้ให้เห็นว่าคนที่ออกกำลังกายเป็นประจำมีโอกาสเป็นไข้หวัดน้อยกว่าคนที่ไม่ออกกำลังกายเลย ถึงร้อยละ 25 ทั้ง ๆ ที่การออกกำลังกายเป็นแค่การเดินก้าวเร็ว ๆ เท่านั้น แต่การออกกำลังกายมากเกินไปจะทำให้ร่างกายหลั่งอะดรีนาลีนและคอร์ติซอลซึ่งเป็นฮอร์โมนที่จะยับยั้งการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันชั่วคราว
Tip อาหารว่างแบบคนรักสุขภาพ
ยามบ่ายคลายเครียดแทนที่จะดื่มกาแฟเปลี่ยนมาดื่มชาเขียวดีกว่า ใจเย็น ๆ แล้วแช่ถุงชาไว้สัก 3 นาที จะดึงเอาสารต้านอนุมูลอิสระชื่อว่า Catechin ออกมาได้มากที่สุด ถ้าไม่ชอบชาเราขอแนะนำโยเกิร์ตหรือนมเปรียวที่อุดมไปด้วยจุลินทรีย์ที่มีชีวิตจะช่วยเร่งการผลิต T-Cell และชะล้างลำไส้ค่ะ
ที่มา    https://www.widemagazine.com/content_detail.php?cont_id=252

อัพเดทล่าสุด