นอนไม่พอก็อ้วนได้ (อย่างมาก)


817 ผู้ชม


"นอนไม่พอก็อ้วนได้ (อย่างมาก)"

    คุณเคยรู้สึกเหนื่อยจากการนอนไม่พอรึเปล่า? หลาย ๆ ครั้งคุณอาจรู้สึกง่วงนอนจากการนอนหลับไม่สนิท หรือนอนไม่เพียงพอ

ทำให้ระหว่างวันรู้สึกหิวบ่อย และอยากกินตลอดเวลา เพราะร่างกายต้องการพลังงานเพิ่มเติม หลายครั้งความรู้สึกอยากกินที่เกิดขึ้นกับคุณ คุณเองก็ไม่ได้รู้สึกหิวด้วยซ้ำ แต่มันเป็นความอยากมากกว่าย และเป็นไปได้สูงว่าคุณจะไม่ได้กินอาหารเพื่อสุขภาพแน่ ๆย หรือที่แย่ไปกว่านั้นบางคนเลือกกินอาหาร junk food เพื่อชดเชยพลังงานที่ร่างกายกำลังขาด ทำให้เสียสุขภาพ และอ้วนขึ้นได้ทันตาเห็น

จากการศึกษาวิจัยพบว่ามีความสัมพันธ์กันระหว่าการการนอนไม่พอกับการกินมากเกินไป ในกรณีที่แย่ที่สุดคนที่นอนน้อยกว่า 4 ชั่วโมงจะบริโภคอาหารมากกว่าคนที่นอนวันละ 8 ชั่วโมงได้มากถึง 550 แคลอรี่!ย นั่นเท่ากับในหนึ่งสัปดาห์คุณอาจมีน้ำหนักเพิ่มได้ถึง 52 ปอน์ด หรือประมาณ 23.6 กก. ในกรณีที่เลวร้าวสุด ๆ

นอกจากนี้งานวิจัยทำให้เรารู้ว่าการอดนอนเป็นผลกระทบโดยตรงกับฮอร์โมนทำให้เรารู้สึกหิวมากกว่าเดิม และบางครั้งอาจถึงขั้นผิดปกติ ฮอร์โมน leptin ซึ่งเป็นตัวที่จะบอกสมองของคุณให้หยุดกินหรือส่งสัญญาว่า อิ่มแล้ว จะทำงานผิดปกติ และฮอร์โมนที่ชื่อว่า ghrelin ซึ่งเป็นตัวบอกสมองคุณว่า ฉันต้องกิน จะถูกหลั่งออกมาแทน ทำให้คุณกินมากขึ้นทันตาเห็นหรือไม่ก็รู้สึกโหยมากมีอาการอยากกินอย่างรุนแรง นอกจากนี้การอดนอนยังมีผลกระทบต่อฮอร์โมนต่าง ๆ ในร่างกายทำให้ร่างกายทำงานไม่เป็นปกติเช่น insulin, growth hormone, และ cortisol เป็นต้น

ดังนั้นเพื่อที่จะป้องกันการกินอย่างบ้าคลั่งเกินความจำเป็น ที่เป็นผลจากการนอนไม่พอเรามาดูวิธีแก้ไขกันดีกว่า

1. กำจัดความเครียด เมื่อคุณเครียดน้อยลงจะทำให้คุณนอนหลับสบายขึ้น ฮอร์โมนที่ชื่อว่า Cortisol ซึ่งเป็นฮอร์นที่เกี่ยวข้องกับความเครียดจะเพิ่มเมื่อคุณรู้สึกเครียด ร่างกายคุณจะต้องมีระดับ Cortisol ที่ต่ำในระดับหนึ่งร่างกายคุณจึงจะสามารถพักผ่อนนอนหลับได้อย่างดี ดังนั้นพยายามจำกัดความเครียดทุกรูปแบบที่อาจเกิดขึ้นก่อนนอน เพื่อให้ระดับ Cortisol ลดลง ไม่ควรดูภาพยนตร์เครียด ๆ ก่อนนอน หรือดูข่าวรอบดึกก่อนนอน เพราะจะทำให้เครียดมากขึ้นไปอีก ข่าวส่วนใหญ่มักจะเป็นข่าวร้าย ถ้าคุณอยากรู้ข่าวจริง ๆ พรุ่งนี้เช้าค่อยตื่นมาดูข่าวรอบเช้าก็ได้ แต่ก่อนนอนขอให้ทำจิตใจให้ผ่อนคลายและไม่เครียด จะเป็นผลดีต่อตัวคุณมากที่สุด นอกจากนี้ยังรวมถึงการอ่านนวนิยายที่ทำให้เครียด หรือมีอารมณ์รุนแรง การฟังเพลงร๊อก เพลงรุนแรงก่อนนอน สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงเช่นเดียวกัน

2. กำหนดเวลานอนที่ชัดเจน ร่างกายของคุณถูกสร้างขึ้นมาให้ชอบอะไรที่เป็นกิจวัตร หรือทำเป็นประจำจนเกิดความเคยชิน รวมทั้งการเข้านอนและตื่นนอนด้วย ซึ่งช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเข้านอนคือตั้งแต่สามทุ่มครึ่ง ถึงสี่ทุ่มครึ่งอย่างไรก็ตามการนอนเร็วกว่านี้ไม่ใช่ปัญหา และคุณไม่ควรกินอาหารก่อนนอนอย่างน้อยประมาณ 2 ชั่วโมง เพื่อให้ร่างกายไม่ต้องทำงานหนักจากการย่อยอาหารเวลานอน หากคุณกินก่อนนอนร่างกายของคุณจะไม่สามารถพักผ่อนได้อย่างเต็มที่

3. ควบคุมอาหารและเครื่องดื่มก่อนเข้านอน คุณหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์กก่อนเข้านอนอย่างน้อย 2 ชั่วโมง ควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนทุกชนิด รวมถึงน้ำอัดลมด้วยเช่นกัน หลีกเลี่ยงอาหารที่มีส่วนผสมของน้ำตาลเพราะจะทำให้ระดับ insulin เพิ่มขึ้นและทำให้ร่างกายของคุณต้องเผาผลาญพลังงานที่เกิดขึ้นจากน้ำตาลที่กินเข้าไป ทำให้ร่างกายไม่สามารถพักผ่อนได้เต็มที่ ถ้าก่อนนอนคุณรู้สึกหิวมากคุณควรเลือกที่จะรับประทานโยเกิตแบบไขมันต่ำเพื่อสุขภาพ หรือกินอาหารที่เป็นส่วนประกอบของธัญพืชที่ปราศจากน้ำตาล อาหารที่จะไม่รบกวนการนอนคือนมถั่วเหลือง, โฮลเกรน, เมล็ดทานตะวัน และ ฮาเซลนัท เป็นต้น อย่างไรก็ตามไม่ควรรับประทานแล้วเข้านอนในทันที

4. คำนวณชั่วโมงการนอนให้เหมาะสม จากการวิจัยเราได้ข้อสรุปว่าผู้ใหญ่ควรนอนอย่างน้อย 7-8 ชั่วโมง ในขณะที่เด็กและวัยรุ่นควรนอน 9-9.5 ชั่วโมง และการนอนน้อยกว่าหกชั่วโมงมีความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุทางรถยนตร์เพิ่มขึ้น เนื่องจากคุณจะมีสมาธิในการขับขี่ลดลง และคุณไม่ควร เก็บไว้รอวันหยุด หรืออดหลับอดนอนมาทั้งอาทิตย์ แล้วมาหลับยาวทีเดียวช่วงหยุดสุดสัปดาห์ การทำแบบนี้ทำให้เสียสุขภาพและฮอร์โมนในร่างกายจะทำงานบกพร่อง ไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพอย่างแน่นอน
ที่มา   https://www.widemagazine.com/content_detail.php?cont_id=151

อัพเดทล่าสุด