หน้าที่ 1 - ผู้ป่วยธาลัสซีเมีย...
“ถ้าเป็นโรคธารัสซีเมียหรือเป็นพาหะธาลัสซีเมียสามารถมีลูกได้ไหมคะ”
คำถามนี้กลายเป็นคำถามยอดฮิตของคู่สามีภรรยาที่มีปัญหาในเรื่องเป็นพาหนะธารัสซีเมีย หรือเป็นโรคนี้โดยตรง ซึ่งถ้าพิจารณาจากปัญหาภาวะโรคซีดของหญิงตั้งครรภ์ในประเทศต่างๆ แล้ว ส่วนใหญ่จะมาจากอาการขาดธาตุเหล็กเป็นอันดับหนึ่ง แต่สำหรับประเทศไทยจะเกิดจากการเป็นโรคหรือเป็นพาหะธาลัสซีเมียมากกว่า
โรคธาลัสซีเมีย จัดเป็นโรคโลหิตจางที่ถ่ายทอดผ่านทางพันธุกรรม ผู้ป่วยเป็นโรคนี้เม็ดเลือดแดงจะมีรูปร่างผิดปกติทำให้แตกตัวได้ง่าย ฮีโมโกลบินและธาตุเหล็กซึ่งเป็นส่วนสำคัญของเม็ดเลือดก็จะละลายออกมาในน้ำเลือด ซึ่งธาตุเหล็กนั้นไม่สามารถถูกกำจัดออกจากร่างกายได้ ทำให้เกิดภาวะเหล็กเกิน และสะสมตามอวัยวะต่างๆ เช่น ตับ ม้าม ผิวหนัง และต่อมไร้ท่อ อาจมีผลให้การพัฒนาทางร่างกายช้าลง เช่น ไม่มีประจำเดือน หรือประจำเดือนผิดปกติ
สำหรับผู้ป่วยที่เป็นพาหนะธาลัสซีเมียหรือเป็นธาลัสซีเมียที่มีความรุนแรงไม่มากสามารถมีลูกได้ตามปกติ ซึ่งลูกของคุณก็จะเป็นแค่พาหนะ และไม่มีอาการผิดปกติใดๆ แค่ที่สำคัญคือคู่สมรสของคุณต้องไม่เป็นพาหะธาลัสซีเมียเหมือนกัน
และถ้าคนที่เป็นโรคธาลัสซีเมียตั้งครรภ์ จะมีวิธีการดูแลตัวเองอย่างไรบ้าง?
อย่างแรก ต้องตรวจว่าตัวเองมีภาวะธาตุเหล็กเกินหรือไม่ ถ้าพบภาวะธาตุเหล็กเกิน ต้องไม่กินยาบำรุงเลือดที่เป็นธาตุเหล็กเพราะในกระแสเลือดมีธาตุเล็หมากอยู้แล้ว หากมีมากเกินกว่าที่ร่างกายต้องการอาจจะเกิดอันตรายได้
อย่างที่สอง คือ ผู้ป่วยที่ต้องทานหรือฉีดยาขับธาตุเหล็กจำเป็นที่จะต้องหยุดยาตัวนั้นทันที เพราะอาจส่งผลกระทบต่อทารกในครรภ์
ส่วนคู่สามีภรรยาที่มีความเสี่ยงสูงที่ลูกจะเป็นธาลัสซีเมียขั้นรุนแรงนั้น จะต้องมีการตรวจตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์ โดยใช้วิธีการดูดรกมาตรวจ การตรวจน้ำคร่ำ หรือใช้กล้องส่องเข้าไปเพื่อเจาะเลือดจากรก ซึ่งการเลือกใช้วิธีใดนั้นต้องขึ้นอยู่กับดุลพินิจของแพทย์ โดยแต่ละวิธีก็จะมีความเสี่ยงแตกต่างกันไป
แต่อย่างไรก็ตาม มีผู้เป็นพาหะอยู่มาก แต่ส่วนใหญ่ไม่เคยรู้มาก่อน ดังนั้น คู่สมรสทุกคู่จึงควรเข้ารับการตรวจเลือดว่าตัวเองมีพาหะธาลัสซีเมียอยู่หรือไม่ เพื่อหาทางป้องกันไว้ก่อนที่ปัญหานั้นจะเกิดกับลูกน้อยและตัวคุณเองนะคะ