ซาวองส์ อัจฉริยะ ออทิสติก


903 ผู้ชม


หน้าที่ 1 - ความสามารถที่โดดเด่นเป็นพิเศษของอัจฉริยะเฉพาะทาง

John Von Neuman นักคณิตศาสตร์ ผู้เลื่องชื่อ ซึ่งได้รับการขนานนามว่า “บิดาแห่งทฤษฎีเกม” เป็นผู้ที่มีความสามารถในการคิดคำนวณอันซับซ้อนได้อย่างรวดเร็ว แต่เชื่อหรือไม่ว่าคุณสมบัติพิเศษเฉพาะตัวเช่นนี้เป็นสิ่งที่คนอีกกลุ่มหนึ่ง สามารถทำได้เช่นเดียวกัน และคนกลุ่มที่ว่านี้คือ Autistic Savant หรือเรียกสั้นๆว่า “ซาวองส์” ซึ่งเป็นคำที่มาจากภาษาฝรั่งเศส แปลความหมายอย่างตรงตัวว่า “ผู้ที่มีความรู้หรือนักปราชญ์ 
[[51582]]
ส่วนผู้ที่บัญญัติคำนี้ขึ้น เพื่อใช้เรียกลักษณะอาการของอัจฉริยะออทิสติกนี้ คือ นายแพทย์ จอห์น แลงดอน ดาว (John Landon Down) และเหตุที่ต้องเรียกเช่นนี้เป็นเพราะ ซาวองนั้นมีความสามารถเฉพาะทางที่พิเศษจนเรียกได้ว่าเข้าขั้นอัจฉริยะแล้ว แต่ถึงกระนั้นพวกเขาก็มีความบกพร่องทางพัฒนาการความผิดปกติเกี่ยวกับสมอง หรือมีภาวะออทิสติกร่วมด้วยเช่นกัน และ ภาวะออทิสติกนี้เองที่ทำให้ซาวองส์ขาดความสามารถพื้นฐานในการดำเนินชีวิต เช่น หัดเดินได้ช้า ติดกระดุมเสื้อหรือผูกเชือกรองเท้าและทานอาหารเองไม่เป็น และนอกจากนั้น ซาวองส่วนใหญ่ยังมีไอคิวอยู่ในช่วง 40-70 ซึ่งถึอว่าต่ำจากไอคิวเฉลี่ยของคนปกติที่อยู่ระหว่าง 90-110 และด้วยเหตุนี้จึงเป็นที่มาของคำว่า “อัจฉริยะออทิสติก” ในปัจจุบันยังไม่มีทฤษฎีใดที่สามารถอธิบายถึงลักษณะพิเศษและขอบเขตความสามารถของซาวองส์ได้อย่างครบถ้วน และครอบคลุม แต่ก็มีทฤษฎีหนึ่งที่ได้รับการสนับสนุนด้วยหลักฐานเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ คือ ทฤษฎีที่บอกว่า ซาวองส์เกิดจากการที่สมองซีกซ้ายได้รับความเสียหาย สมองซีกขวาจึงเข้ามาทำหน้าที่ทดแทน โดยจะสังเกตได้จากการที่ทักษะและความสามารถของซาวองส์ส่วนใหญ่นั้นมักเกี่ยวข้องกับสมองซีกขวา ซึ่งควบคุมในเรื่องของจินตนาการที่มีความหลากหลายเชื่อมต่อหลายมุม และไม่มีมิติสัมพันธ์ เช่น ศิลปะและดนตรี ส่วนทักษะที่ไม่ค่อยพบในกลุ่มคนที่เป็นซาวองส์นั้นจะเกี่ยวข้องกับสมองซีกซ้าย เช่น เรื่องความคิดในเชิงตรรกะและความคิดเชิงนามธรรม ในกลุ่มคนที่เป็นออทิสติกอาจมีซาวองส์อยู่ประมาณ 1 ใน 10 คน ส่วนกลุ่มคนที่มีปัญหาความผิดปกติทางพัฒนาการ เช่น ปัญญาอ่อน หรือ สมองพิการ ก็จะพบซาวองส์ 1 คน ใน 2,000 คน แต่เนื่องจากกลุ่มคนที่เป็นออทิสติกมีน้อยกว่ากลุ่มคนที่มีปัญหาด้านพัฒนาการและปัญหาความพิการของสมองอยู่มาก ดังนั้นหากสุ่มคนที่เป็นซาวองส์มาจำนวนหนึ่ง ก็จะพบว่ามีคนที่เป็นโรคออทิสติกถึงครึ่งหนึ่ง นอกเหนือจากนี้ยังมีข้อมูลอื่นๆที่สอดคล้องกับแนวคิดนี้โดยการทดลองด้วย Computer Tomography (CT)และ Magnetic Resonance Imaging (MRI) ซึ่งเป็นเครื่องมือสำหรับสร้างภาพด้วยรังสี และ สนามแม่เหล็ก ทำให้พบข้อบกพร่องในสมองซีกซ้ายของคนที่เป็นซาวองส์จำนวนหนึ่ง ซึ่งอาจเกิดจากความบกพร่องด้านพัฒนาการทางสมองของทารกขณะอยู่ในครรภ์มารดา เนื่องจากสมองซีกซ้ายนั้นมีการพัฒนาช้ากว่าสมองซีกขวา ดังนั้นสมองซีกซ้ายจึงมีความเสี่ยงต่อการถูกทำลายได้มากกว่า ส่วนในกรณีที่มักพบอาการซาวองส์ในเพศชายมากกว่าเพศหญิง อาจมีสาเหตุมาจากการทีมีฮอร์โมนเพศชายหรือเทสโทสเทอโรนในระดับสูงมากจนเป็นพิษต่อประสาทและทำให้เซลล์ประสาทเกิดความเสียหายได้ 
[[51583]] 
ลักษณะความสามารถที่โดดเด่นเป็นพิเศษของอัจฉริยะเฉพาะทางนี้ อาจแบ่งได้เป็น 5 ประเภทหลักๆ คือ ความสามารถทางศิลปะ คือ มีทักษะในการสร้างสรรค์ภาพขึ้นมาจากความทรงจำ แม้จะเป็นการเห็นภาพเพียงแค่ครั้งเดียว เด็กหญิงที่เป็นซาวองส์ผู้หนึ่งสามารถวาดภาพคนขี่ม้าขึ้นได้จากความทรงจำในวัย 3 ขวบ และ ภาพที่วาดออกมานั้นมีสัดส่วนและกล้ามเนื้อ ถูกต้องตามหลักสรีรวิทยา ซึ่งต่างจากภาพวาดของเด็กทั่วๆไป ความสามารถทางดนตรี คือ มีความสามารถในการเล่นดนตรีได้เหมือนต้นฉบับ แม้จะเป็นการเล่นที่เกิดจากการฟังเพลงนั้นเป็นครั้งแรก และ ครั้งเดียว เช่น เลสลี่ เลมเก้ (Leslie Lemke ) วัย 14 ปี สามารถเล่นเปียโนเพลงคอนแชร์โต หมายเลข 1 ของไชคอฟสกี ได้อย่างไพเราะ และที่น่าประหลาดใจยิ่งกว่านั้นคือ เลสลี่ตาบอด และเป็นอัมพาตที่สมอง การคำนวณวันจากปฎิทิน คือ ความสามารถในการคำนวณเพื่อบอกวันที่ล่วงหน้าหรือย้อนหลังได้ เพียงแค่ระบุวันที่ต้องการทราบ คำตอบที่ได้มีความแม่นยำ และ แน่นอนว่าเป็นการคิดในใจ ไม่ต้องพึ่งพาเครื่องคิดเลขใดๆ แม้ปีนั้นจะเป็นปีอธิกสุรทินก็ตาม ความสามารถนี้มักจะมีอยู่ในตัวซาวองส์แทบทุกคน นอกจากนั้นบางคนยังสามารถบอกได้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไรแล้ว โดยการคาดคะเนจากความรู้สึกซึ่งมักได้ผลที่แม่นยำเสมอ ความสามารถทางการคิดคำนวณ ซาวองส์บางคนสามารถคำนวณได้รวดเร็วมาก ตัวอย่างในกรณีนี้มาจากบันทึกตั้งแต่ปี ค.ศ. 1789 ของนายแพทย์เบนจามิน รัช (Benjamin Rush) “บิดาแห่งจิตเวชศาสตร์ของอเมริกา” โดยคุณหมอได้บันทึกไว้ว่า โทมัส ฟูลเลอร์ (Thomas Fuller) ซึ่งเป็นซาวองส์ที่มีความรู้ทางคณิตศาสตร์ เพียงแค่การนับเลขแต่กลับสามารถตอบคำถามยากๆที่ว่า “หากชายคนหนึ่งมีอายุ 70ปี 17 วัน กับอีก 12 ชั่วโมง ถามว่าชายคนนี้มีอายุกี่วินาที” ได้อย่างถูกต้องในเวลาเพียง 1 นาทีครึ่ง โดยที่เขาไม่ต้องใช้เครื่องมือใดๆช่วยในการคิดคำนวณเลย สุดท้ายคือ ทักษะด้านเครื่องยนต์กลไก และ ความรู้เกี่ยวกับระยะทาง ซาวองส์บางคนมีความสามารถในการประกอบหรือซ่อมเครื่องจักรกลที่มีชิ้นส่วนซับซ้อนได้บางคนก็มี


หน้าที่ 2 - SAVANT: A N A U T I S T I C G E N I U S
If someone asks a question about calculation like “If a man was born on April 25, 1980 how many minutes old is he now?”, with the condition that you have only one minute to answer this question and you have to calculate his age in your mind, the response of many people might be exactly the same : shaking their faces as their answers. It is impossible to find out the answer within one minute although with the aid of calculator. But if we accidentally meet someone who can answer this question, it is not a big surprise. This person might have personality different from other people since he is a special genius or autistic genius. John Von Neuman, the famous mathematician dubbed as “the Father of Game Theory”, has special competence to quickly calculate any complicated mathematics. Believe it or not that this intrinsic talent can be seen in the other group of people known as Autistic Savant or Savant, a French word meaning “learned man or sage”. 
[[51586]]

Dr. John Landon Down who coins this new word uses it to explain an exeptionality of Autistic Genius who has a very special expertise virtually like an ingenious person. However, savant people also have developmental problems, brain abnormality, or autism. With the problem of autism, savants are not able to develop the basic activities in their daily lives. They are slow at walking. They are unable to put the buttons on, tie their shoes, and eat food on their own. Besides, most of the savants have IQ between 40-70, lower than an average IQ of a normal person which can be ranged at about 90-110; hence, this is the reason for the term “Autistic Genius” comes from. Momentarily, there is no complete and thorough theory explaining the exceptionality and competence of savants. But there is one theory that is supported by more and more evidences. This theory explains that savant symptoms are the result of the damaged brain on the left side so the right brain has to work in place of the dysfunctional part. Obviously, savant’s skills and potentials are related with the right part of the brain which controls the imaginative power that is rather diverse, sophisticated, and lacking of relation dimension which can be seen in the music and art. Skills that are rarely found in savants are always connected with the left side of the brain like the logic and abstract thinking. Of ten autistic people, one savant can be found. Of 2,000 people with mentally retarded problem or brain disorder, one savant will be found. But the number of autistic people is less than that of the people with mentally retarded problem and brain disorder. Through the random sample of savant people we find that the number of autistic people is about a half. In addition, other details relevant to this concept can be experimented though the Computer Tomography (CT) and Magnetic Resonance Imaging (MRI) which is an equipment used for creating images with the aid of radiation and magnetic field. The experiment shows the disorder of the left brain which may result from the defect of brain development during the unborn infant period. Since the left brain is developed slower than the right part so it is more susceptible to the damage. Furthermore, savant can be found more in the male population which may caused by too excessive level of testosterone which can be detrimental to the nerve and it can cause damage to the nerve cells. The outstanding competence of savants can be categorized into four main types including : Artistic competence : the savants have special talent to create images from their past memories although they see them only once. One savant girl can draw a picture of a man on a horse as she saw him when she was at three years old. Her picture shows the correct
หน้าที่ 3 - Kim Peek ชายชาวอเมริกัน

ความสามารถในการจดจำรายละเอียดของแผนที่เส้นทางต่างๆ หรือ สามารถกะระยะทางได้อย่างแม่นยำโดยใช้แค่เพียงการมองเท่านั้น นอกเหนือจากความสามารถทั้ง 5 กลุ่มที่กล่าวไปแล้วนั้น ยังมีซาวองส์บางคนที่มีทักษาที่แตกต่างออกไป เช่น มีประสาทสัมผัสที่ไวเป็นพิเศษ หรือบางคนเป็น synesthesia คือ ภาวะที่เห็นตัวเลขเป็นสี หรือฟังดนตรีแล้วเห็นภาพ หรือรู้สึกถึงรสชาติ เป็นต้น นอกจากกลุ่มนักวิจัยที่พยายามค้นคว้า หาคำตอบเกี่ยวกับสาเหตุและขอบเขตความสามารถของซาวองส์แล้ว ยังมีนักวิจัยบางกลุ่มได้พยายามทดลองและสังเกต เพื่อหาลักษณะร่วมและแบ่งแยกลักษณะของซาวองส์ จนทำให้ทราบว่าความสามารถของซาวองส์นั้นมีลักษณะร่วมกันคือ การมีความจำที่เป็นเลิศ เช่น ซาวองส์ที่มีทักษะด้านดนตรี ก็เป็นเพราะมีความสามารถในการจดจำรายละเอียดของเพลงทั้งหมดได้แม้จะเป็นการฟังเพียงครั้งเดียว 
[[51585]] 
สำหรับซาวองส์ที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จัก คือ Kim Peek ชายชาวอเมริกันวัย 56 ปี ผู้เป็นแรงบันดาลใจที่ทำให้เกิดตัวละครชื่อ Raymond Babbitt ในภาพยนตร์รางวัลออสการ์ในปี ค.ศ. 1988 เรื่อง Rain Man ซึ่งนำแสดงโดย Tom Cruise และ Dustin Hoffman โดยฝ่ายหลังรับบทเป็นน้องชายที่อยู่ในภาวะซาวองส์ มีความสามารถในการจดจำและคิดเลยได้อย่างรวดเร็ว เพราะการแสดงที่ดีของ Dustin Hoffman จึงทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับรางวัลและมีส่วนสำคัญที่ทำให้โลกได้รับรู้และเข้าใจ ลักษณะของคนที่เป็นซาวองส์มากยิ่งขึ้น Kim Peek เป็นซาวองส์ที่มีทักษะด้านความจำและ การคิดคำนวณ พรสวรรค์นี้เกิดขึ้นตั้งแต่เขาอายุประมาณ 16-20 เดือน ในวัยเด็กพ่อแม่มักจะอ่านหนังสือให้เขาฟังพร้อมๆกับการจับนิ้วของเขาเลื่อนไปตามคำ ที่อ่านนั้น ทำให้เขาจำข้อความในหนังสือเหล่านั้นได้แม้จะเป็นการอ่านเพียงครั้งเดียวเขาสามารถจดจำเนื้อหาได้กว่า 98 % ความจำของเขาครอบคลุมไปถึงเรื่อง ประวัติศาสตร์ ภูมิศาสตร์ กีฬา วรรณกรรม ดนตรีไปจนถึงประวัติของผู้มีชื่อเสียงด้านต่างๆ รวมไปถึงความสามารถในการคำนวณปฎิทิน ทุกวันนี้นอกจาก Peek จะใช้เวลาไปกับการอ่านและท่องจำหนังสือแล้ว เขายังเดินทางไปทั่วโลก เพื่อเผยแพร่ เรื่องราวของซาวองส์ให้คนทั่วไปได้รู้จักและเข้าใจ รวมทั้งมีทัศนคติ ที่ถูกต้องต่อพวกเขาและประกาศให้โลกได้รู้ว่าบางครั้งคำว่า “ไม่ปกติ” ก็ไม่อาจหยุดยั้งความเป็นอัจฉริยะของคนเราได้ ดังนั้นหากคนใกล้ตัวคุณมีใครสักคนอยู่ในภาวะออทิสติก อย่างเพิ่งท้อใจที่จะดูแลเขา ลองเปิดใจให้กว้างไม่แน่ว่าคนใกล้ตัวคุณ อาจเป็นอัจฉริยะออทิสติกก็ได้


หน้าที่ 4 - Calculating competence
anatomy of a man and a horse which is completely different from the pictures drawn by other kids. Musical competence : the savants can play a music like an original version although they firstly listen to that song. Take Leslie Lemke, a 14-year-old savant as an example. She can play a Concerto I, composed by famous pianist Peter Tchaikovsky, melodiously. 
[[51587]]

More surprisingly, Leslie is blind and has a brain paralysis. A competence to count dates from calendar : through calculating competence the savants can tell dates before and after the exact date we want to know although such dates belong to a leap year. The answer is accurate and certainly is calculated in the mind, no need of calculator. This calculating ability is an intrinsic talent of all savants. Besides, some savants can tell how long the time flies by estimating from his inner feeling and again the answer is always correct. Calculating competence : some savants can calculate so quickly. The record in 1789 of Dr. Benjamin Rush, the Father of Psychiatry of America, said that Thomas Fuller, a savant who had basic mathematic knowledge on counting numbers, was able to answer the difficult question like this one “If one man is 70 years, 17 days, and 12 hours old how many minutes old is he?” Fuller could answer this question correctly within one minute and a halfwithout the aid of calculator. Mechanic competence and knowledge on distance : some savants are capable of assembling or fixing any sophisticated machines. Others have ability to remember details on map and routes or estimate the distance accurately by simply using their eyes. Apart from the above-mentioned competences, some savants also have different skills like having quick senses. A few have Synesthesia, a state when they see numbers as the colors or listen to the music and then visualize pictures or feel the taste. In addition to a group of researchers who are trying hard to find out the answer concerning about the real cause and scope of competence of savants, some other groups of researchers have tried to experiment and observe the common and different traits of savant people. The experiment reveals that savants share the same competences. They have an excellent memory which can be seen in the case of those savants who have musical skills. They have high potential to remember all details of the song even they listen to it only one time. Famous savant Kim Peek, a 56-year-old American man, is the inspiration of the birth of a character, Raymong Babbitt, in the Oscar-Awarded Film Rain Man in which Tom Cruise and Dustin Hoffman are the leading actors. Hoffman acted as a savant who has capability in recognizing things and calculating competence. Due to Hoffman’s good performances, this well-known film won the Oscar Award and helped the whole world know and understand more about the personalities and nature of the savants. Kim Peek is a savant who has a good memory and calculating skill. This special talent is blessed to him when he was only 16-20 months old. During his childhood, his parents always read him many books and meanwhile move his fingers along each word while they are reading, making him remember 98% of messages in the book although it was his first reading. He also has a good memory on the topics concerning about history, geography, sports, literature, music, and autobiography of many famous persons. He is also good at calculating dates on calendar. Nowadays, apart from spending his time on reading and memorizing things, Peek still travels around the world in an attempt to publicize the stories of savants to the public so they will know and understand these special persons better and also have positive attitude towards them. He wants to make the whole world realize that sometimes the “abnormality” has no effect on people’s genius. So if someone close to you is an autistic don’t be discouraged when you have to take care of him. Try to open your heart. He might be an autistic genius!
ที่มา   https://vcharkarn.com/varticle/32420

อัพเดทล่าสุด