ลดพุงลดโรคเพื่อสุขภาพ ด้วยน้ำผักปั่นอาหารดีมีประโยชน์ช่วยรักษาโรคฯ


1,579 ผู้ชม


ลดพุงลดโรค รักษาโรค ฯด้วยน้ำผักปั่นเพื่อสุขภาพ

   ช่วงนี้เวลานี้ หลายๆสื่อ เราคงได้ฟังคุ้นหู และได้อ่านคุ้นตากันบ้างแล้ว "ลดพุงลดโรค " การเปลี่ยนพฤติกรรมการเลือกซื้อเลือกทำ เลือกกิน เลือกเวลา หรือเลือกร้านอาหารปรุงเสร็จโดยไม่ได้ทำเองตามร้านอาหาร  ฯลฯ ก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้พุงลด ลดโรคได้ คนไทยเราส่วนใหญ่แล้วเมื่อเย็นค่ำ กลายเป็นมื้ออาหารที่สำคัญ รวมญาติ รวมเพื่อน มีเวลาว่าง หรือการจัดงานเลี้ยงก็จะจัดมื้อเย็นค่ำ ร้านอาหารก็เปิดช่วงเย็นกลางคืนทั้งนั้น ผู้ชื่นชอบอาหารนอกบ้านนานปีนานวัน พุงก็โตโดยไม่รู้ตัวพอมาเจ็บป่วยก็สายเสียแล้ว  

ลดพุงลดโรค คุ้นตาบ่อยๆจากการดูรายการโทรทัศน์ ก็นึกว่า เราควรเขียนอาหารอะไรช่วยลดพุงลดโรค เพิ่มอีกได้บ้าง จริงๆแล้วสำหรับประสบการณ์ที่เคยบอกและปฏิบัติด้วยตนเองนั้น อาหารมื้อเย็นค่ำก่อนนอน นั้นคือ มื้ออาหารที่จะทำให้อ้วนหรือไม่อ้วนได้ 

อย่างไรก็แล้วแต่การเรียนรู้เรื่องอาหาร 5 หมู่ของเราก็เป็นสิ่งจำเป็นมาก แต่มีสักกี่คนที่เรียนตอนเด็กแล้วนำมาใช้ให้ถูกต้องบ้าง และตามชนบทท้องถิ่นต่างๆที่ไม่ได้เรียนรู้หลักอาหาร 5 หมู่นั้นมีใครเข้าสอนบอกกล่าวได้ทั่วถึงชัดเจนบ้าง มีสถิติผู้ป่วยมากขึ้นทุกปี การป่วยเป็นโรค เบาหวาน (กินหวาน) ไตวาย (กินเค็ม) เส้นเลือดอุดตัน (กินไขมัน) ฯลฯ ถึงแม้ไม่มีพุงแต่เป็นโรค จากการกินอาหารไม่ถูกต้อง โดยไม่ทราบว่ากินมากแล้วเกิดโรคได้โดยไม่รู้ตัว เมื่อเป็นโรคก็ต้องหาหมอ หมอจัดยา ก็ต้องกินยา แล้วการกินยา กินไม่ถูกต้อง ยาแรง กินมากไป ก็เป็นโรคเพิ่มขึ้นมาอีก  ดูเหมือนว่าจะไม่พ้นคำว่า "โรค "เลย

การลดพุงลดโรค เมื่อมีโรคมีพุงแล้วควรทำอย่างไรดี  พุงไม่ใหญ่มากขึ้น หรือไม่เป็นโรคมากขึ้นกว่าเดิม การควบคุมอาหารพร้อมออกกำลังกายจะได้ผลเร็วทุกคนทราบดี เราจึงควรชวนกันปฏิบัติสม่ำเสมอ พอดีได้เขียนบันทึกบอกกล่าวสูตรอาหารที่ช่วย "ลดพุงลดโรค "ได้ไว้บ้างแล้ว เมื่อได้เห็นคำว่า ลดพุงลดโรคทุกวันในตอนนี้จึงขอนำมาขึ้นบันทึกบอกกล่าวอีกครั้ง ได้ผลจริงๆ ขอเพียงให้ขยันทำเท่านั้น นั่นก็คือ น้ำผักปั่น 

น้ำผักปั่นเพื่อสุขภาพ

 

น้ำผักปั่น

https://www.gotoknow.org/posts/441361

 

น้ำผักปั่นพลังเอนไซม์

https://www.gotoknow.org/posts/301278

 

น้ำผักปั่นช่วยฟื้นฟู การทำงานของร่างกาย 5 ระบบ

1. ระบบดูดซึม
2. ระบบทางเดินหายใจ
3. ระบบหมุนเวียนโลหิต
4. ระบบภูมิคุ้มกัน
5. ระบบต่อมไร้ท่อ


ดื่มสด ๆ เป็นประจำทุกวัน

ต้านโรค เพิ่มพลัง เพื่มสมรรถภาพทางเพศ

ลดไขมันส่วนเกิน ผิวสวย หน้าใส ดูอ่อนวัย ดีกับผู้ป่วยทุกโรค



คุณสมบัติเด่น

1. ในน้ำผักมีสภาพเป็นกรดอ่อน ๆที่มีคลอโรฟิลด์สารสีเขียวในพืชมีวิตามินเอ วิตามินซี ธาตุเหล็ก โปรแตสเซียม แมกนีเซียม และฟอสฟอรัส จะเกิดการแลกเปลี่ยนการใช้สารอาหารได้สูงสุด ณ จุดที่ร่างกายสามารถนำของเสียทิ้งได้หมด และทำให้ร่างกายสร้างพลังงานในแต่ละเซลล์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

2. ซึ่งส่งผลให้เกิดการสร้างเซลล์ใหม่ทดแทนเซลล์เก่าที่ตายในแต่ละวันได้ เต็มที่ลักษณะนี้คือ ปัจจัยสูงสุดที่ร่างกายจะไม่เกิดความอ่อนแอทุกอวัยวะเมื่อไปอยู่ในประเทศไหนก็ตาม ถ้าได้สัดส่วนของสารอาหารออกมาเป็นกรดอ่อน มีคลอโรฟิลล์ มีวิตามินเอ วิตามินซี  นี่คือที่มาของการทำให้ร่างกายสามารถมีอาหารได้เต็มที่ในแต่ละเซลล์ 

3.  ถ้าทุกเซลล์แข็งแรงไม่มีเซลล์ตายก็จะไม่เก่ ถ้า pH เป็นกรดเกินไปการใช้แคลเซียมก็จะยาก กรดอ่อนทำให้เกิดการใช้ไขมัน ไขมันถูกย่อยสลายได้เร็ว ถ้าเป็นด่างเกินไปการย่อยสลายไขมันก็ทำได้น้อย 

4. ไขมันคือของแข็งที่มีปริมาณถึง 60% ของของแข็งทั้งหมดในร่างกายเป็นตัวที่จะไปเปลี่ยนเป็นน้ำหล่อเลี้ยงเป็นน้ำ เมือกที่ไปหล่อเลี้ยงตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกายน้ำไขข้อเป็นไขกระดูกเป็นกล้ามเนื้อ เป็นกระดูกเส้นเอ็นไขมันหล่อเลี้ยงน้ำเมือกที่ไปหล่อเลี้ยงเส้นผมเป็นลำดับ pH ของน้ำผักที่เหมาะสมกับคนไทยอยู่ที่ pH 4 - 6 

5. คนอ้วนมากให้น้ำผักที่ pH 4 เลยเนื่องจากคนอ้วนมีไขมันค้างอยู่ในลำไส้มาก น้ำผักจะไปเปลี่ยนไขมันเป็นโคเลสเตอรอล ไปเป็นไตรกลีเซอร์ไรด์ และเป็นกลีเซอร์ไรด์ในที่สุด ซึ่งร่างกายนำไปใช้ได้การดื่มน้ำผัก คือการเติมสารอาหารประเภทวิตามิน เกลือแร่จำเป็น และที่สำคัญที่สุด คือ คลอโรฟิลล์ เมื่อดื่มแล้วถูกดูดซึมไปฟื้นฟูตับทำให้น้ำตับและน้ำตับอ่อนหลั่งการย่อย คาร์โบไฮเดรต ไขมัน เกลือแร่ และวิตามินมีมากขึ้น 

6. ขณะที่น้ำผักไปย่อยไขมันส่วนที่เก่าส่วนหนึ่งแล้ว เปลี่ยนรูปเป็นพลังงานดังนั้น ร่างกายก็ได้พลังงานมาสนับสนุนให้อวัยวะทำงานได้มากกว่าเดิม น้ำผัก จึงช่วยล้างสิ่งปฏิกูลในร่างกายตลอดจนสารพิษต่าง ๆ อย่างรวดเร็ว

7. ซึ่งปรากฏการที่สังเกตุได้คือ ลดอาการปวดต่าง ๆ จากอาการท้องเสีย หรือมีของเสียค้างอยู่ในระบบเลือดมาก จนปวดตามกล้ามเนื้อ อาการปวดหลัง ดังกล่าวจะลดลง ลดอาการปวดศรีษะ ลดไข้ ลดความอ่อนเพลีย ลดอาการนอนหลับยาก ลดอาการนอนกรน

8. ซึ่งอาหารที่ดีขึ้นคือ ขบวนการที่ร่างกายชะล้างของเสียออกได้ดีขึ้น ซึ่งอาการดังกล่าวไม่ควรเก็บกด ด้วยการใช้ยาระงับปวด ซึ่งเป็นการไปหยุดความสามารถในการชะล้างของร่างกาย ทำให้เกิดสารพิษมากขึ้นใน ทุกระบบของร่างกาย และแพร่กระจายสะสมจนก่อเกิดเซลล์มะเร็ง

9. การกินน้ำผักก่อนอาหารเป็นการเตรียมร่างกาย 

ในการย่อยสารอาหารที่เรากินลงไปได้ดีกว่าเดิมนั่นคือ เกิดสภาวะดีกับร่างกายทั้งระบบ


สรุปน้ำผักปั่นทำหน้าที่ 2 อย่างในเวลาเดียวกัน

  1. ให้สารอาหารที่ร่างกายนำไปฟื้นฟูตับกับตับอ่อน
  2. กระตุ้นให้ร่างกายพร้อมในการย่อยไขมันที่เหลือค้างอยู่เปลี่ยนรูปไปเป็น 

     พลังงานทำให้ร่างกายเตรียมพร้อมที่จะย่อยสารอาหารที่รับประทานเข้าไปในมื้อ ต่อไป


ส่วนประกอบสำคัญ

 

 1. ผักกาดหอม 6-8 ใบ ช่วยฟื้นฟูเซลล์ โดยเฉพาะระบบประสาทและเซลล์ในปอด 

   ช่วยชะล้างของเสียในระบบเลือด ทำให้ร่างกายมีความสามารถใช้แคลเซียม

  ได้อย่างมีประสิทธิภาพช่วยลดอาการเจ็บปวดของระบบข้อเสื่อมต่าง ๆ 

2. มะเขือเทศ (ท้อหรือสีดา) 1-2 ลูก  ช่วยทำให้เม็ดเลือดแดง แข็งแรงช่วยทำให้ผิวพรรณดี 

  เพิ่มภูมิต้านทานมีสารช่วยย่อยอาหาร ทำให้เยื่อบุกระเพาะอาหาร และลำไส้ทำงานเป็นปกติ

3. หอมใหญ่ 1/4 ลูก  ช่วยทำให้หัวใจแข็งแรง

4. เนื้อเสาวรสสดหรือน้ำมะนาว 1 - 2 ลูก ช่วยฟื้นฟูภูมิคุ้มกัน

5. คื่นฉ่าย 2 ก้าน ลดความดันโลหิต

6. แอปเปิ้ล หรือกล้วยน้ำว้าสุกงอม 1 ลูก ( หรือผลไม้ อื่น ๆ ให้เลือกใส่เพิ่มได้

   เช่น ชมพู่ องุ่น สาลี่ ส้ม ส้มโอ ลองกอง สับปะรด เชอร์รี่ อื่น ๆ) ช่วยเสริมระบบขับถ่ายของเสีย

8. น้ำผึ้ง ความชื้นต่ำ 2 - 4 ช้อนโต๊ะ (ห้ามใช้น้ำผึ้งค้ัางหลายปี หรือน้ำเชื่อม )

   ช่วยบำรุงผิวพรรณฟื้นฟูเซลล์ที่เสื่อมสภาพ เป็นเบาหวานก็สามารถทานได้

9. เอนไซม์ ( Multi fruit Enzyme )  1 - 2 ช้อนโต๊ะ ช่วยปรับสมดุล ช่วยย่อย ไขมัน โปรตีน 

  คาร์โบไฮเดรต ให้เปลี่ยนรูปเป็นพลังงาน ช่วยคลายกล้ามเนื้อ ช่วยเปลี่ยนสารพิษให้เป็นสารอาหาร

10. น้ำสะอาด (น้ำดื่ม ไม่แช่เย็น 2 - 4 แก้ว ทยอยใส่โถเวลาปั่น (ขนาด 1.5 ลิตร)

ปั่นรวมกันให้ละเอียดไม่แยกกาก เม็ดเสาวรสมีสารอาหารบำรุงสมองกินได้


การดื่มเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

-  ทยอยดื่มทันทีที่ปั่นเสร็จ ครั้งละ 1 ลิตร 3 ครั้งต่อวัน

- ควรดื่มทุกคน ทุกวัน ทุกวัย เวลาที่ดีที่สุดคือก่อนอาหารเช้า

- หญิงตั้งครรภ์ควรดื่มเพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกันคลอดง่าย ทารกในครรภ์ได้รับสารอาหาร

- ในการเจริญเติบโตจากเลือดแม่ ทำให้แข็งแรงทั้งแม่และทารก



ขอแนะนำให้ใช้เอนไซม์แช่ผัก

ก่อนล้างควรเด็ดผักออกเป็นใบ ๆ ล้างน้ำให้สะอาดทั้งผลไม้ด้วย สำหรับผักนำไปแช่เอนไซม์ 1 ช้อนโต๊ะต่อน้ำ 2ลิตร แช่นาน 15 -30 นาที สำหรับผลไม้แช่ทั้งลูกนาน 1 ชั่วโมงขึ้นไป หรือแช่ข้ามคืนได้ยิ่งดี แอปเปิ้ล หอมใหญ่ มะเขือเทศ ก่อนนำไปบริโภคทยอยนำมาผ่าซีก แล้วแช่ในน้ำเอนไซม์ซ้ำอีกครั้งนาน 15 นาที ถ้าทำได้จะดีต่อสุขภาพ (แอปเปิ้ล ควรรับประทานทั้งเปลือก)
การทดลอง
เพื่อการฟื้นฟูควรดื่มต่อเนื่องทุกวันเป็นเวลา 7 - 15 วัน จะเริ่มเห็นผล มื้อเย็นควรงดอาหารประเภท แป้ง ข้าว เพราะเป็นตัวลดเกร็ดเลือด ควรดื่มน้ำเอนไซม์ด้วย จะช่วยคุ้มครองเกร็ดเลือดให้แข็งแรง และเปลี่ยนพฤติกรรมให้ได้ตามบทปฏิบัติ 10 ประการจะพบความมหัศจรรย์ของร่างกายด้วยตัวท่านเอง ควบคุมอาหารให้ได้ตามคำแนะนำของชมรมบ้านสุขภาพ
หมายเหตุ


ผัก ผลไม้ พวกมียางห้ามนำไปปั่นเด็ดขาด เพราะยางจะเปลี่ยนรูปเป็นยางมะตอย เช่น ผักบุ้ง ใบบัวบก ว่านหางจระเข้ แก้วมังกร อโวคาโด เนื้อฝรั่ง ไม่ดีต่อไต และแครอทไม่เหมาะกับคนไทยเพราะมีแคลเซียมไบคาบอเนทที่ย่อยยาก 

อัพเดทล่าสุด