ป่น เป็นอาหารที่ชอบมากมาตั้งแต่เด็กๆไม่ว่า เตี่ย แม่ หรืออา ทำได้อร่อยมาก ที่บ้านเมื่อก่อนเเตี่ยแม่ทำสวนผักปลูกสารพัดผักหมุนเวียนกันไป ผักที่กินกับป่นจึงสดเสมอจากต้น เมื่อได้ไปอยู่กับอา เมื่อเริ่มเรียนหนังสือช่วงหนึ่ง อาก็ทำป่นได้อร่อยมากวันไหนมีป่น ก็ชวนน้องๆำไปเก็บกระถินข้างเจดีย์เก่า ซึ่งจะมีดอกหญ้าเจ้าชู้ทั้งดอกจิ๋วและดอกเป็นช่อ มี 2แบบ ติดเสื้อกางเกงมาด้วยอยู่ในโรงเรียนการช่างชาย ปัจจุบันคือวิทยาลัยเทคนิคสุพรรณบุรี ทุกครั้งที่ได้กลับบ้านก็ได้เก็บยอดกระถินสดๆกินกับปลาร้าสับหรือป่น กระถินที่บ้านสุพรรณขึ้นเองในที่ว่างมากพอควรไปทีไรก็ไปช่วยแม่ตัดไม่ให้เป็นดงป่ากระถิน ตามริมถนนหน้าบ้านก็มีตลอดแนว กระถินเป็นอีกหนึ่งสมุนไพรที่มีประโยชน์มาก เรามาชมกันนะคะว่าป่นปลาช่อน ทำอย่างไร
วิธีทำ
1. พริกสดเม็ดใหญ่ กระเทียม หัวหอมแดง เสียบไม้ ย่างไฟหรือคั่วในกระทะ
แกะเปลือกหอมกระเทียมออกส่วนพริกจะแกะเปลือกออกหรือไม่แล้วแต่ชอบ
2. ปลาช่อน ขอดเกล็ด ผ่าท้องนำตับไตไส้พุง ฯออก ล้างน้ำเสียบไม้ย่างให้สุก
กรณีไม่มีเตาถ่านใช้นึ่งหรือต้มก็ได้ แกะก้างออกใช้แต่เนื้อปลา
3. น้ำใส่หม้อหรือกระทะ ใส่ตะไคร้ ใบมะกรูด นำตัวปลาร้าใส่เคี่ยวไปด้วยกัน
กรองนำก้างออกให้เหลือแต่น้ำปลาร้า
4. ตำพริกหอมกระเทียมให้ละเอียดหรือหยาบตามชอบ
ใส่เนื้อปลาโขลกรวมกับพริกหอมกระเทียมให้เข้ากันดี
5. นำน้ำปลาร้าใส่กระทะอีกครั้งแล้วนำที่ตำมาใส่กระทะทำให้เดือดอีกครั้ง
6. ถ้าชอบมีรสเปรี้ยว เมื่อตักใส่ถ้วยบีบน้ำมะนาวลงไปก็จะเพิ่มความหอมและรสเปรี้ยวอร่อยไปอีกแบบ
7. ป่นอร่อยกับผักสดๆ เช่น ยอดกระถิน มะเขือกรอบ แตงกวา ผักกาดขาว ถั่วฝักยาว กระหล่ำ ยอดผักต่าง ฯ
( ผู้ที่ไม่กินปลาร้า ใช้น้ำปลาแทนได้นะคะ )
น้ำพริกปลาร้าหรือป่นนั้นในถ้วยเดียวมีทั้งโปรตีนจากเนื้อปลาร้าและปลาช่อนย่าง ได้แคลเซียมจากกระดูกก้างปลาร้า ปลาร้าถือได้ว่าเป็นอาหารที่มีแคลเซียมสูง สมุนไพรมีกระเทียม พริก หัวหอมแดง ( ตะไคร้ ใบมะกรูด ต้มน้ำปลาร้า)และได้จากผักสดหรือผักต้ม นึ่ง ลวก จึงเป็นอาหารที่ดีต่อสุขภาพมากทีเดียว
ที่มา https://www.gotoknow.org/posts/539405