ฉู่ฉี่ปลาทับทิม


ฉู่ฉี่ปลาทับทิม

ปลาทับทิม ปัจจุบันจัดเป็นปลาที่แซงหน้าปลาน้ำจืด ปลาน้ำเค็ม ชนิดอื่นได้ทีเดียวในบางตลาดที่มีการขายปลา เป็นปลาที่มีเนื้อมากก้างในเนื้อปลาโดยรวมไม่มี คือแตกต่างจากปลาที่มีก้างในเนื้อปลาเช่น ปลาตะเพียน ยี่สก ปลาสร้อย ฯลฯ ลักษณะของก้างเหมือนตัว Y ในเนื้อปลาทับทิมไม่มี การทราบว่าก้างปลาหลักๆในตัวปลาอยู่ตรงไหน ก็จะกินปลาได้ง่ายโดยไม่ต้องกลัวก้างติดคอ ผู้ที่ชอบกินปลา กินปลาเก่งๆจะทราบดีว่าส่วนไหนของปลาที่อร่อยและแกะง่าย 

ปลาทับทิมนั้นนอกจากมีเนื้อมากแล้วไขมันก็มากเช่นกัน การกินปลาทับทิม จึงนิยมกินตอนที่ยังร้อนหรืออุ่นๆจะอร่อยที่สุดหากปล่อยไว้ให้เย็นเกินไปเนื้อปลาจะไม่นิ่มเพราะไขมันเย็นลงก็จะเกาะเนื้อปลาทำให้เนื้อปลาไม่นิ่มเท่าที่ควร ( ลักษณะจะคล้ายกับการทำอาหารด้วยแหนม เมื่อเย็นลงเนื้อแหนมก็จะแข็งกว่าตอนร้อนเพราะมีไขมันนั่นเอง) แต่ไขมันในปลาเป็นที่ทราบกันดีว่าไม่มีอันตรายเท่าเนื้อสัตว์อื่นๆ ปลาจึงเป็นอาหารที่ดีต่อสุขภาพสำหรับทุกวัย  

จริงๆแล้วเมื่อก่อนหรือถึงแม้ในปัจจุบันในร้านอาหารหรือบางครอบครัวก็ยังที่จะใช้ปลาที่นิยมทำฉู่ฉี่กันมานานแล้วคือ ปลาเนื้ออ่อน  ปลาแขยง  แต่ปลาทั้ง 2 อย่างนั้นหาไม่ง่ายแล้วในปัจจุบันและเนื้อน้อยนอกเสียจากจะใช้ปลาเนื้ออ่อนตัวใหญ่ วันนี้จึงชวนทำปลาทับทิมที่หาได้ง่ายและมีเนื้อมากมาทำฉู่ฉี่ ตักกินกับข้าวสวยร้อนๆได้อร่อยเต็มคำดีค่ะ

ฉู่ฉี่ปลาทับทิม

วิธีทำ

1. ปลาตัวพอเหมาะ ขอดเกล็ดออกให้หมดตัดครีบ ตัดหาง แก้ม จะแฉลมออกหรือไม่ก็ได้ผ่าท้องนำส่วนในท้องปลาออกให้หมด บั้งกลางตัวปลา หรือซื้อมาจากร้านที่มีขายที่ทำแล้วก็ได้ ล้างน้ำโดยตัวปลาใส่กะละมังที่ใหญ่กว่าตัวปลาล้างด้วยน้ำเกลือ หรือน้ำเอนไซม์ แช่ไว้สักพัก แล้วล้างให้สะอาด ใส่ภาชนะวางให้สะเด็ดน้ำ

2. นำปลาที่สะเด็ดน้ำดีแล้ว นำลงทอดในกระทะโดย ตั้งกระทะให้ร้อนก่อนใส่น้ำมันพอน้ำมันร้อน ค่อยๆนำตัวปลาลง ใช้ไฟไม่ต้องแรงมาก ( ทอดใจเย็นๆ )ให้ด้านที่ติดกระทะเกรียมก่อนแล้วค่อยกลับอีกด้าน กรณี ถ้ากลัวติดกระทะไม่ทันใจ หากมีแป้งมันในครัวก็ทาตัวปลาบางๆก่อน แล้วค่อยนำปลาลงทอด จะช่วยให้ไม่ติดกระทะได้ ทอดให้สุกหรือจะให้ปลากรอบแล้วแต่ผู้ทำนะคะ เมื่อสุกตามต้องการแล้วตักปลาใส่จาน หากมีน้ำมันมากจะใช้กระดาษซับน้ำมันออก หรือนำปลาไว้ข้างกระทะก่อนแล้วเอียงกระทะให้น้ำมันไหลลงจากตัวปลาก่อนค่อยตักใส่จานก็ได้

3. พริกแกงจะซื้อที่ขายสำเร็จแล้วนำมาเพิ่มกระเทียมหัวหอม ผิวมะกรูดพอประมาณตำให้ละเอียดก็ได้ หรือตำพริกแกงเองมี พริกแห้ง กระเทียม หอมแดง ตะไคร้  ข่า ผิวมะกรูด กะปิ อย่างละพอประมาณ ตำให้ละเอียด

4. หัวกะทิจะคั้นเอง หรือซื้อจากตลาด หรือใช้แบบกล่องก็ได้ตามสะดวก

5. ใบมะกรูดดึงเส้นกลางออกล้างน้ำหั่นฝอยๆ (วันที่ทำในภาพหั่นยังไม่ฝอยนะคะเลยไม่สวยงาม)

6. ทุกอย่างพร้อมเตรียมลงกระทะ กระทะตั้งไฟใส่หัวกะทิ ใส่พริกแกงผัดให้หอมใส่หัวกะทิเป็นระยะๆเพื่อไม่ให้พริกแกงแห้งไหม้ จนหอมดีแล้ว ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาล เพิ่มหัวกะทิให้พอเหมาะกับที่จะราดบนตัวปลาที่ทอดไว้ ชิมดูให้อร่อยตามชอบ  

7. ตักน้ำฉู่ฉี่ราดบนตัวปลา แล้วโรยด้วยใบมะกรูด 

ฉู่ฉี่ปลา เป็นอาหารที่มีกะทิ หลายๆคนคงโดนห้ามว่าไม่ให้กินอาหารที่ปรุงด้วยกะทิ ก็จะไม่กล่าวอะไรมากนะคะเพราะบอกมาหลายบันทึกแล้ว กรณีที่ไม่เปลี่ยนความคิดเรื่องกะทิ การจะกินปลาทับทิมลักษณะคล้ายๆอย่างนี้ก็ทำได้ โดยไม่ต้องใส่กะทิ ก็จะเป็นปลาราดพริก โรยด้วยใบมะกรูดหั่นฝอยได้เช่นกัน ถ้าจะให้อร่อยมากขึ้นก็เพิ่มความเปรี้ยวลงไปด้วย โดยใช้น้ำมะขามเปียกปรุงลงไปด้วย ก็จะมี เปรี้ยว หวาน เค็ม เผ็ด ในพริกแกงที่ราดบนตัวปลา ในฉู่ฉี่ 1 จานนั้นมีสมุนไพร คือ พริก กระเทียม หัวหอมแดง ข่า ตะไคร้ ผิวมะกรูด กะทิจากมะพร้าว ใบมะกรูด โปรตีน ฯจากเนื้อปลา ไขมัน ในกะทิและปลา  เป็นอาหารเมนูหนึ่งที่มีสารอาหารหลายอย่างทีดีต่อสุขภาพ 
ที่มา   https://www.gotoknow.org/posts/541473

อัพเดทล่าสุด