วันนี้เป็นอีกวันที่ทำให้นีกถึงเมื่อวันแรกที่ต้องรับโทรศัพท์จากทั่วเมืองไทยที่ได้ฟังวิทยุรายการบันทึกสถานการณ์ สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยกทม.วันแรกที่สอนการทำน้ำมันมะพร้าวและวันต่อๆมา จนถึงออกรายการทั่วทิศถิ่นไทยเรื่องมังคุดหมักน้ำเอนไซม์ ถึงแม้ในวันนี้ไม่ได้ออกรายการ ทั่วทิศถิ่นไทยด้วยตัวเอง(เวลา บ่ายโมงกว่า ) แต่ชื่อและหมายเลขโทรศัพท์ออกอากาศโดยอาจารย์สุวัฒน์ ทรัพยะประภา ( ซึ่งอาจารย์บอกไว้ว่าขอเอ่ยถึง แต่ไม่ได้บอกว่าจะบอกหมายเลขโทรศัพท์ด้วย) พอบอกปุ๊บโทรศัพท์ดังทันที อาจารย์มอบหน้าที่ให้เป็นผู้สอนทางโทรศัพท์ วิธีทำัมังคุดต้มสุก เพื่อรักษาโรค ดูแลสุขภาพ ฯ
การได้รับโทรศัพท์และสอนเป็นเวลาครึ่งวัน ตั้งแต่หมายเลขโทรอาจารย์และผู้ดำเนินรายการบอกผู้ฟัง ทั้งสายที่ได้รับสายโทรเข้าไม่ได้ 100 กว่าสาย ทำให้ทราบว่ามีผู้ป่วยมากทีเดียวที่เมื่อทราบการใช้สมุนไพรรักษาโรคได้นั้นต้องการใช้เพื่อให้โรคดีขึ้น วันนี้แค่เพียงได้รับไม่กี่สายเพราะแต่ละสายก็ต้องสอนกันหลายนาที ผู้ที่โทร.เข้าไม่ได้คงเข้าใจนะคะว่ารับทุกสายไม่ได้เพราะอะไร
การได้รับทราบความเจ็บป่วยวันนี้น่าเห็นใจและน่าเป็นห่วงทุกคน หลายคนฟังตอนใกล้จบรายการจดหมายเลขทันโทรติดก็ดีใจ มีท่านหนึ่งป่วยเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาว เจ็บปวดมากเวลาต้องตรวจเจาะไขสันหลัง โทรติดและดีใจมากที่ได้คุยกันเพราะเข้าใจผิดว่าน้ำทีกินคือ น้ำต้มในหม้อ ซึ่งพอมารับโทรรับอีกหลายสายยังมีผู้เข้าใจผิดเช่นเดียวกับท่านที่เป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาว
ผู้ป่วยที่โทรติดและได้รับสาย มีทั้งป่วยเป็นโรคเช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ภูมิแพ้ เชื้อราที่เล็บ รูมาตอยด์ อ้วน เกาต์ ฯลฯ . การได้ทราบบางโรค ได้แนะนำสมุนไพรชนิดอื่นไปด้วย วันนี้ก็เลยได้สอนทั้งการทำ ฮอร์โมนไข่ หมักน้ำเอนไซม์ น้ำมันมะพร้าว น้ำผักปั่น ฯ
20. 35 น. มีผู้โทร.เข้ามาอีกขอรับโทรศัพท์ก่อนนะคะ.......
ท่านบอกฟังการอธิบายแล้วตาสว่าง เข้าใจเลย เพราะฟังวิทยุแล้วไม่เข้าใจทำไม่ถูก ท่านอวยพรยกใหญ่ เป็นแผลในปากและหลานเป็นสิว พอวางสายก็มีผู้ป่วยอัมพฤกษ์ อยู่นครนายก โทรเข้ามาอีกสาย ฟังเสียงแล้วเป็นผู้สูงอายุทั้ง 2 ท่าน ๆบอกพูดดังๆ ท่านไม่ค่อยได้ยิน พอดีเชียงใหม่ฝนกำลังตก
การได้พุดคุยกับผู้ใหญ่เวลาท่านพูดจบก็อวยพรให้ฟังแล้วชื่นใจนะคะ วันนี้ได้คำอวยพรเต็มอิ่มเลย มีท่านหนึ่งบอกว่าปีนี้อายุ 70 ปีอยู่ที่นครปฐม ยายเป็นเบาหวาน ฯ ตาเป็นความดันโลหิตสูง ก็เลยแนะนำฝากบอกว่าปีนี้วันแม่บอกให้ลูกๆซื้อต้นมะลิมาปลูกแทนพวงมาลัย ปลูกเป็นต้นออกดอกแล้วจะได้เก็บดอกมะลิมาแช่น้ำหรือชงชาดื่มลดความดัน บำรุงหัวใจฯได้ด้วย คุณยายอวยพรให้ยาวเลยค่ะ
จากที่ฟังอาจารย์บอกว่ามีผู้อยู่ที่ภูเรือ ใช้วิธีนึ่งมังคุดไม่ได้ต้ม นึ่งแล้วไม่แตกด้วย อาจารย์ก็บอกว่าที่สอนให้ต้มเพราะทุกบ้านทำได้ บางบ้านไม่มีหม้อนึ่ง มีผู้ใช้น้ำมังคุดกับเนื้อมังคุดต้มสุก กินแล้วน้ำหนักลดและผิวขาวสวย
"สารแซนโทน" ในเปลือกมังคุดนั้น ถูกเรียกว่าเป็น มหัศจรรย์สารแซนโทน เช่นเดียวกับมีผู้เรียกน้ำมันมะพร้าวเพราะมีกรดไขมันที่ชื่อ"กรดลอริก " น้ำมันมะพร้าวจึงได้ฉายาว่า มหัศจรรย์น้ำมันมะพร้าว น้ำสีแดงที่ได้ในลูกมังคุดต้ม และน้ำมันมะพร้าว หากนำมาใช้ด้วยกัน ก็เป็น มหัศจรรย์ ยกกำลัง 2 สรรพคุณประโยชน์ที่ได้จากสมุนไพรทั้ง 2 ชนิดนี้คล้ายๆกัน หลายอย่างมาก หากศึกษาเปรียบเทียมกันดีๆที่ร่างกายได้รับแล้วมีผลดีต่อสุขภาพ
การใช้ด้วยกันเช่น บำรุงผิวหน้า ถ้าใช้น้ำในลูกมังคุดอย่างเดียวจะทำให้ผิวตึง เมื่อผสมน้ำมันมะพร้าวเพียงเล็กน้อยก็จะไม่ตึง และการใช้ได้ผลดีเร็วต่อผิวไม่ว่าจะให้ผิวขาวหรือรักษาสิว ผื่น ตุ่ม การเป็นเชื้อรา น้ำมันมะพร้าวกับน้ำมังคุดก็จะทำให้หายเร็วไวขึ้น รวมทั้งการเป็นแผล ช่วยสมานได้เยี่ยมที่เดียวหากทั้ง 2 ชนิดรวมกัน หรือทานวดที่ละอย่างไปพร้อมๆกันในครั้งเดียว น้ำมันมะพร้าวจะพาน้ำมังคุดเข้าผิวได้เร็วผิวหนังไม่ตึง แห้ง
ช่วงนี้มังคุดมากมีขายน่าจะทุกจังหวัด ราคาก็ไม่แพงมาก ต้มแล้วเก็บแต่เนื้อแช่แข็งไว้เก็บไว้ได้นาน ส่วนน้ำที่มีในลูกเก็บไส่ขวดกินกับเนื้อมังคุดสดก่อนก็ได้ เนื้อที่ต้มสุกเก็บกินหลังไม่มีมังคุดขายแล้วก็ได้นะคะ เนื้อมังคุดสด มีสรรพคุณที่ผ่านการวิจัยแล้วว่าลดไขมันในเลือดได้ สมุนไพรสดที่เป็นยาได้เช่นกันเมื่อกินรวมกับน้ำในลูกมังคุดได้สารแซนโทน ก็เป็นยาที่เพิ่มสรรพคุณมากขึ้น มีสดๆก็กินสดๆก่อน แต่ก็เตรียมเก็บไว้กินด้วยเช่นกัน ลองนึกแปรรูปดูนะคะว่าเนื้อมังคุดกับน้ำในลูกนั้นมีวิธีถนอมเก็บไว้ได้นานได้บ้างทั้งแบบแช่เย็นและไม่แช่เย็น
มังคุดนึ่ง
เนื้อและน้ำในลูกมังคุด จากปริมาณน้ำหนักมังคุดดิบ 1 กิโลกรัม
โดยใช้วิธีนึ่งลูกมังคุดให้สุกโดยใช้ไฟเบาๆ
มังคุดเปลือกหนาบางไม่เท่ากัน ถ้าเปิดไฟแรงลูกแตกได้ไม่ว่าจะนึ่งหรือต้ม
วิธีทำน้ำมังคุดต้มเพื่อได้น้ำในลูก การทำไอศกรีมมังคุด การทำน้ำมังคุด อ่านชมเพิ่มได้ที่บันทึกเขียนไว้แล้วนะคะ