ผลไม้สตรอเบอร์รี่ คงเป็นผลไม้ของโปรดของคุณผู้หญิงหลายๆคน เพราะประโยชน์มันดีกับคุณสาวๆจริงๆ กินแล้วสวยทั้งตัวได้เลยล่ะคะ
คุณผู้หญิงค่ะ พอรู้กันไหมค่ะว่า สตรอเบอร์รี่ นอกจากจะมีรสชาติที่อร่อย ถูกปาก ถูกใจสาวๆกันแล้ว ยังว่วยผลให้คุผู้หญิงได้สวยทั่วทั้งสุขภาพร่างกายและเพื่อผิวพรรณที่สดใส วันนี้ต้องลองหยิบเจ้า สตรอเบอร์รี่เป็นผลไม้รสหวานอมเปรี้ยว มากินสักหน่อยแล้วค่ะ เพราะสตรอเบอร์รี่มีประสิทธิภาพในการต้านอนุมูลอิสระได้สูงกว่าผลไม้อื่นๆ อย่างส้ม องุ่นแดง กีวี กล้วยหอม และมะเขือเทศค่ะ แล้วมันดีต่อสุขภาพ ผิวพรรณ ความสวยเราอย่างไรลองมาดูกันค่ะ
1.ดูแลสายตา ปัญหาเกี่ยวกับดวงตาส่วนใหญ่จะเกิดจากอนุมูลอิสระ และการขาดสารอาหารบางชนิดและเมื่อเราอายุมากขึ้นดวงตาของเรายิ่งถูกทำร้ายได้ง่าย ซ้ำร้ายความแก่ชราจะทำให้กล้ามเนื้อดวงตาเสื่อมสภาพ แต่สตรอวเบอร์รี่มีสารต้านอนุมูลอิสระ อย่างวิตามินซี ฟลาโวนอยด์ กรดฟีโนลิก และกรดเอลลาจิก ซึ่งช่วยชะลอกระบวนการดังกล่าว แถมยังมีโพแทสเซียมซึ่งช่วยปรับความดันในตาให้เป็นปกติอีกด้วย
2.ป้องกันโรคข้ออักเสบและโรคเกาต์ เมื่อกล้ามเนื้อถูกใช้งานนาน ๆ เข้า กล้ามเนื้อของเราก็มีแต่จะถดถอยของเหลว บริเวณข้อต่อกระดูก็จะเหือดแห้งลงไปเรื่อย ๆ และร่างกายก็สะสมสารพิษอย่างกรดยูริกเอาไว้มากขึ้น ๆ ทำให้โรคข้ออักเสบและโรคเกาต์ถามหาแต่อย่าห่วงไป เพราะเราสามารถขับไล่โรคทั้งสองได้ด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ และสรรพคุณล้างพิษของสตรอวเบอร์รี่ค่ะ
3.กำราบโรคมะเร็ง กินสตรอวเบอร์รี่ทุกวันสิคะเซลล์มะเร็ง และเนื้องอกต้องชิดซ้ายหลีกทางให้แก่สารต้านอนุมูลอิสระอย่างวิตามินซีโฟเลต และแอนโธไชยานินส์ ที่มีอยู่มากมายในสตรอวเบอร์รี่ค่ะ
4.ส่งเสริมการทำงานของสมอง ยิ่งแก่ยิ่งขี้หลงขี้ลืม เพราะเนื้อเยื่อและเส้นประสาทในสมองเสื่อมสภาพจากอนุมูลอิสระตัวร้ายซึ่ง
สตรอวเบอร์รี่ช่วยได้เพราะมีวิตามินซี และไฟโตนิวเทรียนต์ ที่ทำให้อนุมูลอิสระหมดฤทธิ์ และคืนความอ่อนเยาว์ให้แก่ระบบประสาทแถมยังมีไอโอดีนที่ทำให้สมองและระบบประสาททำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย
5.ลดความดันโลหิต หากโซเดียมเป็นตัวการทำให้เกิดความดันโลหิตสูง สตรอวเบอร์รี่ก็มีโพแทสเซียมและแมกนีเซียมที่ช่วยปรับความดันให้เป็นปกติค่ะ
6.ปราบโรคหัวใจ ใยอาหาร โฟเลต และสารต้านอนุมูลอิสระมากมาย จะช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในร่างกาย
แถมวิตามินบีบางชนิดที่พบได้ในสตรอวเบอร์รี่ จะเสริมสร้างกล้ามเนื้อหัวใจให้แข็งแรงอีกด้วย
ที่มา https://www.108health.com/108health/topic_detail.php?mtopic_id=1552&sub_id=85&ref_main_id=1