ผอมเกินไปก็ใช่ว่าจะดี ระวังโรค..อนอเรกเซีย..จะถามหา คุณกฤษฎี โพธิทัต คุณแม่นักกำหนดอาหารพร้อมเรือพ่วงสามชีวิต (ด.ช.ทัต , ด.ญ.ทัชฌา , ด.ช.ไตรทัต) ใครจะเคยรู้ว่าเธอเคยเป็นโรคอนอเรกเซีย (Anorexia) มาก่อน จนวันนี้เธอเปลี่ยนใจมาเป็นนักโภชนาการบำบัด และขอชักชวนให้คุณแม่รู้จักการกินและลดความอ้วนอย่างถูกทาง โดยใช้ประสบการณ์ของตัวเองเป็นอุทาหรณ์ค่ะ ลดความอ้วนแบบบ้าเลือด "แพทโตที่เมืองไทยแต่ไปเรียนไฮสคูลที่อเมริกา ตอนอยู่เมืองนอกก็กินเยอะเพราะเราอยู่ในช่วงวัยรุ่นกำลังโต พอกลับมาเมืองไทยปรากฏว่าเราดูอ้วนเมื่อเทียบกับเพื่อนๆ เลยตัดสินใจจะลดน้ำหนักเพราะเพื่อนๆ ก็ลดกัน ตอนนั้นอยากผอมมากเลยเริ่มอดอาหารแล้วน้ำหนักก็ค่อยๆ ลดลงจนเหลือ 45 กิโลกรัม ก็ยังไม่พอใจ อยากผอมกว่านี้จนน้ำหนักเหลือ 38 ก็ยังไม่พอใจอีก คุณแม่เลยพาไปพบจิตแพทย์คุณหมอก็ชี้ให้เราเห็นว่า นี่แขนเล็กแล้วนะ ผมก็แห้ง ตาก็ลึกโบ๋ ตอนนั้นไม่เชื่อ ยังออกกำลังกายแบบบ้าเลือดแล้วก็อดอาหารเหมือนเดิม เป็นแบบนี้อยู่นาน คุณพ่อคุณแม่ พี่สาวเป็นห่วงมาก เพราะเราผอมมาก แล้วไม่ยอมเข้าสังคมเพราะกลัวต้องกิน จนวันหนึ่งเราส่องกระจกแล้วมองหน้าตัวเอง จากที่ไม่เคยมองหน้าตัวเองเลย มองส่วนอื่นตลอด เราก็เห็นว่า โอ้โห..หน้าเราเหรอนี่ตาลึกโบ๋เหลือแต่กระดูก นาทีนั้นก็คิดได้เลย เพราะนอกจากร่างกายเราจะแย่แล้วคุณพ่อคุณแม่และพี่สาวก็เครียดเป็นห่วงเรามากด้วย คราวนี้ก็กลับมากินๆๆ แต่เป็นการกินที่ผิดค่ะเรากลับมาอ้วนเป็นบอลลูนอีก เพราะเป็นช่วงที่ร่างกายเราดูดซึมอาหารน้อยมากแล้วพอกินเข้าไปนิดนึงก็ทำให้อ้วนง่ายเรียกว่าโยโย่ภายในสองปี พอรู้ว่าผิดวิธีก็ไปหานักกำหนดอาหารที่อเมริกา เขาก็แนะนำวิธีการกินที่ถูกต้องให้รักษาอยู่ประมาณ 5 ปี ร่างกายเราก็กลับมาแข็งแรงเหมือนเดิม" วิถีการกินที่ถูกต้อง "จากการรักษาครั้งนั้นเรียกว่าเป็นแรงบันดาลใจก็ได้ พอเรียนจบปริญญาตรีก็ตัดสินใจเรียนต่อด้านโภชนาการที่อเมริกาเลย อย่างน้อยเราก็น่าจะช่วยคนอื่นได้เพราะเราเคยเป็นมาก่อน เรียนจบแล้วก็กลับมาทำงานที่เมืองไทย เป็นนักกำหนดอาหารค่ะ ตอนนี้แพทมีลูกสามคนลูกชายคนโต 4 ขวบ ลูกสาวคนกลาง 2 ขวบ ลูกชายคนเล็ก 1 ขวบ ลูกๆ ได้กินนมแม่ครบหนึ่งปีทุกคน จะมีคนเล็กที่ขวบกว่าแล้วก็ยังกินอยู่เพราะนมคืออาหารที่ดีที่สุดสำหรับเด็ก แพทจะคอยดูแลเรื่องอาหารให้ลูกกับสามี แต่ก็ไม่ได้เคร่งขนาดต้องนับแคลอรีระหว่างมื้อ ตอนลูกอายุ5-6 เดือนแพทเริ่มให้ลูกกินข้าวกับผักก่อนกินผลไม้หรือน้ำผลไม้ เพราะไม่อยากให้ลูกติดรสหวาน จนตอนนี้ลูกทั้งสามชอบกินผักมาก ถ้าทำสปาเกตตี้เราจะมีจานผักวางไว้กินคู่กัน แต่ต้องซ่อนผักไว้ก่อนเพราะลูกจะกินแต่ผักอย่างเดียวไม่เตะสปาเกตตี้เลย ตอนนี้ลูกโตพอกินอาหารได้เราก็จะดูว่าเขาได้กินครบห้าหมู่ มีผัก ผลไม้ หรือยัง ส่วนสแนค ไอศกรีมเป็นของคู่กับเด็กห้ามยาก แต่เราเลี่ยงได้เลือกที่มีส่วนประกอบจากธัญพืชหรือไอศกรีมที่ทำมาจากนมแทน ส่วนสามีก็จะคอยเตือนให้เขากินผักบ้าง ชีวิตคนเราต้องมีอาหารและน้ำเป็นหลักในการดำรงชีวิตนะคะ การกินเป็นกิจกรรมที่ทำให้คนมีความสุข สนุก ยิ่งกับเด็กเรียกว่าเป็นส่วนสำคัญเกี่ยวข้องกับการเจริญเติบโตช่วยกระตุ้นพัฒนาการเด็กและพัฒนาสมอง แล้วยังไม่ป่วยง่ายอีกด้วย" เคล็ดลับการกินจากคุณแม่นักกำหนดอาหาร For baby * เด็กที่กินยากไม่ควรตามใจโดยเปลี่ยนอาหารให้แล้วกลับมาป้อนใหม่อีก ถ้าเขาไม่กินก็ควรรอให้ถึงมื้อต่อไปค่อยป้อนใหม่ เพื่อเป็นการฝึกนิสัยการกินเป็นมื้อให้ลูก * ชวนกันปลูกผักหรือไปชอปปิ้งผัก ผลไม้ด้วยกัน เพื่อดึงดูดให้ลูกชอบกินผักที่ตัวเองเลือก * ไม่ควรตามป้อนลูกไปทุกที่ ควรพาไปกินที่โต๊ะอาหารเพื่อจะได้เรียนรู้ว่าต้องกินอาหารที่โต๊ะอาหาร For mom* คุณแม่ที่ให้นมลูกอย่าอดอาหารหรือลดน้ำหนักเพราะลูกจะได้รับสารอาหารไม่เต็มที่ แถมผิวพรรณจะพลอยไม่ดีตามมาด้วย * ช่วงตั้งครรภ์ 9 เดือนเป็นช่วงที่ร่างกายทำงานหนักมาตลอด เพราะฉะนั้นหลังคลอดอย่าเพิ่งไดเอท ล้างพิษ และใช้ยาอันตราย การกินจะช่วยให้คุณแม่มีแรงในการเลี้ยงลูก * หากอยากลดน้ำหนักควรเริ่มเมื่อลูกอายุครบ 6 เดือนซึ่งกินนมแม่น้อยลงและเริ่มกินอาหารเสริมแล้ว คุณแม่อาจจะค่อยๆ ลดอาหารลงได้ จากเดิมกินเต็มร้อยก็ลดเหลือ70% เลือกกินผัก ผลไม้ และงดอาหารที่มีน้ำตาลสูง ไขมันสูง จะช่วยลดแคลอรีลงได้ โรคกลัวอ้วนมี 2 ประเภท
เมื่อกินอาหารเข้าไปจะรู้สึกผิดทุกครั้ง และจะพยายามกำจัดอาหารออกจากร่างกายด้วยหลายวิธี เช่น ออกกำลังกาย ล้วงคออาเจียน กินยาถ่าย เป็นต้น - อนอเร็กเซีย(Anorexia) อดอาหารไม่ยอมกินอะไรเลย - บูลิเมีย(Bulimia) กินอาหารทุกอย่างแล้วใช้วิธี “ล้วงคอ” ให้อาเจียนจนหมดหรือกินยาถ่าย
ที่มา https://www.108health.com/108health/topic_detail.php?mtopic_id=437&sub_id=9&ref_main_id=1