หยุดอายุผิว เพื่อความเยาว์วัยของคุณ


1,037 ผู้ชม


ถ้ามีครีมบำรุงที่ช่วยให้คุณมีผิวที่เยาว์วัยและสดใส คุณก็ไม่จำเป็นจะต้องดูแลตัวเองมากนักใช่ไหมค่ะ แต่ถ้าคุณหยุดอายุของผิวไว้ไม่ได้ งั้นเรามาดูปัญหาของการทำร้ายผิวของคุณกันดีกว่าค่ะ         ถ้ามีครีมบำรุงที่ช่วยให้คุณมีผิวที่เยาว์วัยและสดใส คุณก็ไม่จำเป็นจะต้องดูแลตัวเองมากนักใช่ไหมค่ะ แต่ถ้าคุณหยุดอายุของผิวไว้ไม่ได้ งั้นเรามาดูปัญหาของการทำร้ายผิวของคุณกันดีกว่าค่ะ 

ความเป็นจริงแล้วผิวพรรณ ใบหน้า และระบบต่างๆ ภาย ในร่างกายของเราทำงานเหมือนเข็มสั้นเข็มยาวที่เดินไปเรื่อยๆ ผิวพรรณของเราก็เช่นเดียวกัน เมื่อเวลาผ่านไปวัยแรกสาวก็ร่วงโรยตามกาลเวลา หนำซ้ำหากดูแลและรักษาผิวไม่ดี ผิวของคุณก็จะเสื่อมสภาพลง ดูแก่ก่อนวัยอันควรได้ง่ายๆ

มร.เกล็นน์ เชนี่ย์ และ มิส เค.ซี.ฮอลลี่ ผู้เปิดประเด็นเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของยีนแห่งความอ่อนเยาว์ จนได้รับการยอมรับจากหลายประเทศทั้วโลก งั้นเราลองมาอัพเดทเทรนด์ใหม่ๆ ก่อนเวลาจะพรากความอ่อนเยาว์เราไปมากกว่านี้
 
สำหรับสาวๆ แล้วเมื่อเวลาผ่านไปสิ่งที่เราต้องการ คือคงความสดใส ดูอ่อนเยาว์ ทั้งภายในและภายนอก ให้คงความอ่อนเยาว์อยู่เสมอ ซึ่งจากภายนอก คือผิวพรรณที่ปราศจากริ้วรอยก่อนวัย สัมผัสเรียบเนียน ดูเปล่งปลั่ง  ส่วนภายใน คือความรู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเปร่า มีพละกำลังทั้งร่างกายและสมอง พร้อมทำกิจกรรมต่างๆ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อเราอายุมากขึ้น คือร่างกายไม่สามารถ
ตอบสนองความต้องการได้อย่างที่ตั้งใจไว้ สัญญาณแห่งความร่วงโรยแห่งวัยที่สังเกตได้คือ อาการเฉื่อยชา เซื่องซึม หงอยเหงา สูญเสียการควบคุมที่ดีทั้งร่างกายและจิตใจ การแสดงออกของยีนก็จะเปลี่ยนแปลงไป ส่งผลต่อความรู้สึกอ่อนเยาว์ของร่างกาย ส่วนในด้านของสัญญาณแห่งความร่วงโรยของผิวนั้น ก็ได้แก่ ริ้วรอย โครงสร้างผิวอ่อนแอ ความสม่ำเสมอกันของสีผิว ความชุ่มชื้น
ของผิวลดลง สภาพผิวไม่เรียบเนียนกระจ่างใส และรูขุมขนกว้างขึ้น ฯลฯ
  ทุกคนคงเคยสงสัยว่า ทำไมคนที่อยู่ในช่วงอายุหรือวัยเดียวกันแต่กลับมีริ้วรอยหรือสัญญาณแห่งความแก่ชราไม่เท่ากัน นี่เลยกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการศึกษาการทำงานของยีนในร่างกายมนุษย์ที่มีผลต่อความเสื่อมชรา ซึ่งไม่ได้ศึกษาเพียงแค่ 1-2 ยีน แต่ศึกษารายละเอียดลึกซึ้งทั้งกลุ่มยีน จนสามารถระบุการทำงานของยีนแต่ละตัวได้ และพบว่าการทำงานของยีนในร่างกายของแต่ละคนมีการแสดงออกแตกต่างกัน หากเปรียบเทียบกลุ่มยีนกับวงออเครสต้า ถึงแม้แต่ละวงจะบรรเลงเพลงเดียวกันแต่ย่อมมีความไพเราะแตกต่างกัน เนื่องจากยีนแต่ละตัวจะทำหน้าที่ของตนเช่นเดียวกับหน้าที่ของเครื่องดนตรีแต่ละชิ้นในวง หากเครื่องดนตรีเพียงชิ้นเดียวในวงเกิดปัญหา ย่อมส่งผลให้การบรรเลงเพลงขาดความไพเราะ เปรียบเหมือนกับความเสื่อมชราของยีนตัวใดตัวหนึ่งย่อมมีผลต่อความร่วงโรยของผิวพรรณได้ด้วยเช่นกัน
  ปัจจัยที่เป็นตัวเร่งให้ยีนทำงานผิดปกติ ส่วนหนึ่งเกิดจากอายุที่เพิ่มขึ้น ไลฟ์สไตล์ของแต่ละบุคคล โดยไลฟ์สไตล์ที่ส่งผลกระทบต่อความร่วงโรยของผิวอย่างร้ายแรง นั่นก็คือ การสูบบุหรี่ ซึ่งนอกจากจะทำให้ผิวดูแก่ก่อนวัยแล้ว การสูบบุหรี่ยังเข้าไปทำลายสุขภาพและเป็นตัวการในการสร้างสารอนุมูลอิสระออกมาทำลายเซลล์ต่างๆ ในร่างกาย รวมถึงการออกกำลังกายกายและการรับประทานอาหาร สิ่งเหล่านี้ล้วนสามารถส่งผลต่อการทำงานของยีนในร่างกายคนเราได้ทั้งสิ้น และอีกประการที่สำคัญคือแสงแดด ที่ไม่เพียงแต่จะทำลายโปรตีนบนผิวเท่านั้น แสงแดดยังเข้าไปทำลายถึงระดับเซลล์ และส่งผลต่อการแสดงออกของยีน โดยหากเปรียบเทียบเม็ดสีผิวที่ได้รับผลกระทบจากแสงแดดระหว่างคนเอเชียกับคนยุโรป จะพบว่าคนเอเชียจะมีเม็ดสีที่แข็งแรงกว่าจึงทำให้ผิวพรรณดูอ่อนเยาว์กว่า แต่จะเกิดฝ้า กระได้ง่ายกว่า ส่วนคนในโซนยุโรป ปัญหาที่พบ คือริ้วรอย ผิวเหี่ยวย่น มากกว่า
 
ปัจจัยสำคัญ คืออาหารที่ช่วยให้การทำงานของยีนคงประสิทธิภาพดี ดังนั้นเราจึงควรบริโภคอาหารที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะผักและผลไม้หลากสี เช่น สีส้ม สีแดง สีเหลือง สีเขียว อย่าเน้นไปที่สีใดสีหนึ่งเพียงอย่างเดียว เพราะทุกอย่างมีประโยชน์หมด มีการค้นพบว่า คนที่ทานผักผลไม้สม่ำเสมอจะมีผิวที่ดูชุ่มชื้นและเต่งตึงมากกว่าคนที่ไม่ได้ทาน นอกจากนี้เราไม่ควรบริโภคอาหารที่มีส่วนประกอบที่มีน้ำตาลมากเกินไปเพราะน้ำตาลจะเข้าไปทำลายเซลล์เนื้อเยื่อต่างๆ และลดประสิทธิภาพการทำงานของยีน รวมถึงการทานเนื้อสัตว์ หรืออาหารจานด่วนก็ส่งผลให้ผิวพรรณและสุขภาพดูแก่ก่อนวัยและมีเปอร์เซ็นต์การเสียชีวิตก่อนวัยอันควรสูงด้วย
นอกจากนี้ยังพบว่า สารสำคัญในชาเขียวช่วยเร่งการทำงานของอีสาลติน เสริมสร้างโครงสร้างผิวให้แข็งแรง ยกกระชับ และเต่งตึง รวมถึงสารแคโรทีนอยด์ที่อยู่ในพืชผักผลไม้หลากสี ช่วยป้องกันผิวจากแสงแดดได้
 
ปัญหาเรื่องผิวพรรณ และสร้างความกังวลใจให้กับสาวๆ มีอยู่ไม่มาก แต่ก็ทำให้สาวๆนั้น วิตกกังกลกับมันได้เลยทีเดียว ซึ่งผู้หญิงสมัยใหม่ก็รู้จักดูแลตัวเองอยู่แล้ว จากการสอบถามบรรดาแพทย์ ทำให้ทราบว่า สภาพผิวที่จัดว่าเป็นผิวที่สวย คือ ...
  • ต้องไม่มีริ้วรอยเหี่ยวย่น
  • ผิวดูกระจ่างสดใส สีผิวสม่ำเสมอกัน ไม่มีจุดด่างดำ
  • ขนาดรูขุมขนที่ไม่ใหญ่ ดูเล็กละเอียดเรียบเนียน
  • ผิวหน้ามีความชุ่มชื้น ไม่แห้ง หรือมันเกินไป

ที่มา   https://www.108health.com/108health/topic_detail.php?mtopic_id=2560&sub_id=8&ref_main_id=1

อัพเดทล่าสุด