เข้าหน้าหนาวกันแล้วนะคะ คุณสาวๆ คงมีปัญหาผิวแห้ง ไม่ชุ่มชื้น วันนี้เรามีวิธีจัดการปัญหาผิวในช่วงหน้าหนาว ให้กับคุณสาวๆ ที่กลัวผิวจะหมดสวย
เคล็ดลับแก้ปัญหาผิวหน้าหนาว
1. ผิวพรรณไม่สดใส
ไม่ต้องแปลกใจหากในหน้าหนาวผิวหน้าที่เคยสดใสกลับดูซูบซีดลงอย่างเห็นได้ชัด นั่นเป็นเพราะว่าผิวหน้าคุณสูญเสียความชุ่มชื้นไปให้กับความแห้งของอากาศในฤดูนี้ เมื่อผิวแห้งสะสมกันหลายชั้นก็ทำให้ผิวดูหมองคล้ำ ซูบซีดไม่สดใส จัดการปัญหานี้ด้วยการสครับผิวหน้าเพื่อกำจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกไป และอย่าลืมบำรุงผิวใหม่ให้ชุ่มชื้นด้วยมอยส์เจอไรเซอร์ ส่วนในยามที่ต้องการเติมความสดใสให้ใบหน้าแบบเร่งด่วน การใช้บลัชออนตอบโจทย์คุณในกรณีนี้ได้ดีทีเดียว เลือกใช้บลัชสีชมพู หรือสีพีช ซึ่งทำให้ผิวหน้าซีดเซียวดูระเรื่อขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
2. ผิวหยาบกร้าน
เมื่อลมหนาวพัดพาความชุ่มชื้นไปจากผิว ทิ้งให้ผิวแห้ง หยาบกร้าน วิธีการจัดการที่ดีที่สุดคือ หมั่นทาครีมบำรุงเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวเป็นประจำเพื่อฟื้นฟูผิวจากภายใน และหากต้องแต่งหน้าให้เลือกครีมรองพื้นที่มีส่วนผสมของมอยส์เจอไรเซอร์ด้วย
3. ตาแห้งจนน้ำตาไหล
อากาศแห้งทำให้เราสูญเสียความชุ่มชื้นจากน้ำหล่อเลี้ยงดวงตาได้ด้วย ร่างกายมีกลไกในการรับมือกับอาการนี้ด้วยตัวของมันเอง โดยการขับน้ำตาออกมาหล่อลื่น ทำให้ในหน้าหนาว สาวๆ อาจมีอาการน้ำตาไหลได้ง่ายๆ ในรายที่มีอาการตาแห้งมากๆ ให้หยดน้ำตาเทียมเป็นตัวช่วย ส่วนสาวๆ คนไหนที่แต่งหน้าในหน้าหนาวอย่าลืมเลือกใช้มาสคาร่าแบบที่กันน้ำกันนะคะ
4. ริมฝีปากแห้งแตก
ริมฝีปากแห้งแตกเป็นอาการที่ได้พบได้บ่อยในฤดูหนาว เกิดจากการสูญเสียความชุ่มชื้นไปกับความแห้งของอากาศ เพราะฉะนั้นหมั่นทาลิปปาล์มเป็นประจำและทาทุกครั้งที่รู้สึกว่าปากเริ่มแห้ง นอกจากนี้เพื่อประสิทธิภาพที่ดีขึ้น เลือกใช้ลิปปาล์มที่มีส่วนผสมของวิตามินอีซึ่งจะช่วยช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับริมฝีปาก ได้มากขึ้นอีกระดับ รวมทั้งไม่ดึงหรือแกะริมฝีปากที่ลอก เพราะจะทำให้เกิดบาดแผล เจ็บและแสบไม่เบาเลยทีเดียว
5. ผิวไหม้แดด
แม้จะเป็นหน้าหนาวแต่ผิวก็ถูกทำร้ายจากแสงแดดได้ไม่แพ้ฤดูร้อน เมื่อแดดจัดจ้ารวมเข้ากับอากาศแห้งเย็นก็ยิ่งทำให้ผิวแสบไหม้ได้ง่ายขึ้น เพื่อหลีกเลี่ยงอาการเหล่านี้การทาครีมกันแดดจึงเป็นเรื่องจำเป็นรวมถึงไม่ลืมที่จะใช้ครีมบำรุงเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวควบคู่ไปด้วย
6. แก้มแตกแดง
หลายคนคงเคยมีประสบปัญหาผิวบริเวณแก้มแห้งแตก ลอกเป็นขุย นอกจากจะทำให้ผิวหยาบสากแล้วยังแห้งจนแดงและเจ็บอีกด้วย หนทางเดียวที่จะเยียวยาปัญหานี้ได้คือ การใช้ครีมบำรุงเข้มข้นทาอย่างสม่ำเสมอรวมทั้งไม่ลืมที่จะใช้ครีมกันแดดสำหรับผิวหน้าสูตรอ่อนโยนทาก่อนทุกครั้งที่ออกแดด เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ผิวที่แห้งแตกอยู่แล้วถูกทำลายจากแสงแดดอีกทอดหนึ่ง
ที่มา เข้าหน้าหนาวกันแล้วนะคะ คุณสาวๆ คงมีปัญหาผิวแห้ง ไม่ชุ่มชื้น วันนี้เรามีวิธีจัดการปัญหาผิวในช่วงหน้าหนาว ให้กับคุณสาวๆ ที่กลัวผิวจะหมดสวย
ที่มา เข้าหน้าหนาวกันแล้วนะคะ คุณสาวๆ คงมีปัญหาผิวแห้ง ไม่ชุ่มชื้น วันนี้เรามีวิธีจัดการปัญหาผิวในช่วงหน้าหนาว ให้กับคุณสาวๆ ที่กลัวผิวจะหมดสวย
เคล็ดลับแก้ปัญหาผิวหน้าหนาว
1. ผิวพรรณไม่สดใส
ไม่ต้องแปลกใจหากในหน้าหนาวผิวหน้าที่เคยสดใสกลับดูซูบซีดลงอย่างเห็นได้ชัด นั่นเป็นเพราะว่าผิวหน้าคุณสูญเสียความชุ่มชื้นไปให้กับความแห้งของอากาศในฤดูนี้ เมื่อผิวแห้งสะสมกันหลายชั้นก็ทำให้ผิวดูหมองคล้ำ ซูบซีดไม่สดใส จัดการปัญหานี้ด้วยการสครับผิวหน้าเพื่อกำจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกไป และอย่าลืมบำรุงผิวใหม่ให้ชุ่มชื้นด้วยมอยส์เจอไรเซอร์ ส่วนในยามที่ต้องการเติมความสดใสให้ใบหน้าแบบเร่งด่วน การใช้บลัชออนตอบโจทย์คุณในกรณีนี้ได้ดีทีเดียว เลือกใช้บลัชสีชมพู หรือสีพีช ซึ่งทำให้ผิวหน้าซีดเซียวดูระเรื่อขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
2. ผิวหยาบกร้าน
เมื่อลมหนาวพัดพาความชุ่มชื้นไปจากผิว ทิ้งให้ผิวแห้ง หยาบกร้าน วิธีการจัดการที่ดีที่สุดคือ หมั่นทาครีมบำรุงเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวเป็นประจำเพื่อฟื้นฟูผิวจากภายใน และหากต้องแต่งหน้าให้เลือกครีมรองพื้นที่มีส่วนผสมของมอยส์เจอไรเซอร์ด้วย
3. ตาแห้งจนน้ำตาไหล
อากาศแห้งทำให้เราสูญเสียความชุ่มชื้นจากน้ำหล่อเลี้ยงดวงตาได้ด้วย ร่างกายมีกลไกในการรับมือกับอาการนี้ด้วยตัวของมันเอง โดยการขับน้ำตาออกมาหล่อลื่น ทำให้ในหน้าหนาว สาวๆ อาจมีอาการน้ำตาไหลได้ง่ายๆ ในรายที่มีอาการตาแห้งมากๆ ให้หยดน้ำตาเทียมเป็นตัวช่วย ส่วนสาวๆ คนไหนที่แต่งหน้าในหน้าหนาวอย่าลืมเลือกใช้มาสคาร่าแบบที่กันน้ำกันนะคะ
4. ริมฝีปากแห้งแตก
ริมฝีปากแห้งแตกเป็นอาการที่ได้พบได้บ่อยในฤดูหนาว เกิดจากการสูญเสียความชุ่มชื้นไปกับความแห้งของอากาศ เพราะฉะนั้นหมั่นทาลิปปาล์มเป็นประจำและทาทุกครั้งที่รู้สึกว่าปากเริ่มแห้ง นอกจากนี้เพื่อประสิทธิภาพที่ดีขึ้น เลือกใช้ลิปปาล์มที่มีส่วนผสมของวิตามินอีซึ่งจะช่วยช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับริมฝีปาก ได้มากขึ้นอีกระดับ รวมทั้งไม่ดึงหรือแกะริมฝีปากที่ลอก เพราะจะทำให้เกิดบาดแผล เจ็บและแสบไม่เบาเลยทีเดียว
5. ผิวไหม้แดด
แม้จะเป็นหน้าหนาวแต่ผิวก็ถูกทำร้ายจากแสงแดดได้ไม่แพ้ฤดูร้อน เมื่อแดดจัดจ้ารวมเข้ากับอากาศแห้งเย็นก็ยิ่งทำให้ผิวแสบไหม้ได้ง่ายขึ้น เพื่อหลีกเลี่ยงอาการเหล่านี้การทาครีมกันแดดจึงเป็นเรื่องจำเป็นรวมถึงไม่ลืมที่จะใช้ครีมบำรุงเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวควบคู่ไปด้วย
6. แก้มแตกแดง
หลายคนคงเคยมีประสบปัญหาผิวบริเวณแก้มแห้งแตก ลอกเป็นขุย นอกจากจะทำให้ผิวหยาบสากแล้วยังแห้งจนแดงและเจ็บอีกด้วย หนทางเดียวที่จะเยียวยาปัญหานี้ได้คือ การใช้ครีมบำรุงเข้มข้นทาอย่างสม่ำเสมอรวมทั้งไม่ลืมที่จะใช้ครีมกันแดดสำหรับผิวหน้าสูตรอ่อนโยนทาก่อนทุกครั้งที่ออกแดด เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ผิวที่แห้งแตกอยู่แล้วถูกทำลายจากแสงแดดอีกทอดหนึ่ง
ที่มา https://www.108health.com/108health/topic_detail.php?mtopic_id=2032&sub_id=8&ref_main_id=1
ที่มา https://www.108health.com/108health/topic_detail.php?mtopic_id=2032&sub_id=8&ref_main_id=1