7 วิธีรับมือริมฝีปากแห้งแตก


909 ผู้ชม


ริมฝีปากนับเป็นผิวหนังที่อ่อนบางอีกส่วนหนึ่ง แต่น่าแปลกที่มันมักถูกละเลย ไม่ได้รับการดูแล เหมือนเช่นเดียวกับผิวหน้าหรือผิวกายวันนี้เรามีเคล็บลับเพื่อปากสวยๆ มาฝาก         ริมฝีปากนับเป็นผิวหนังที่อ่อนบางอีกส่วนหนึ่ง แต่น่าแปลกที่มันมักถูกละเลย ไม่ได้รับการดูแล เหมือนเช่นเดียวกับผิวหน้าหรือผิวกายวันนี้เรามีเคล็บลับเพื่อปากสวยๆ มาฝาก 
เพื่อไม่ให้ริมฝีปากถูกทิ้งให้แห้งแตก จนอาจลอกเป็นแผ่น และเลือดไหลซิบ หันมาบำรุงริมฝีปากในอิ่มเอิบ ชุ่มชื้น ด้วยวิธีที่กระปุกดอทคอมนำมาฝากกันในวันนี้ดีกว่าค่ะ
1. ผลัดผิวริมฝีปากอย่างอ่อนโยน
        อากาศแห้งทำให้เรียวปากขาดความชุ่มชื้น เมื่อเผชิญกับอากาศแห้งนาน ๆ เข้า ริมฝีปากก็เริ่มแตก วิธีที่จะช่วยได้คือกระตุ้นการผลัดผิวที่ริมฝีปาก ซึ่งจะทำให้ผิวหนังชั้นบนที่แห้งเป็นขุยค่อย ๆ หลุดลอกออกไป พร้อมเผยผิวริมฝีปากที่สุขภาพดีกว่าขึ้นมา และอย่าลืมใช้ลิปบาล์มเพื่อเติมความชุ่มชื้นให้กับริมฝีปากที่เพิ่งเผยขึ้นมาใหม่ด้วย
2. ดื่มน้ำอย่างเพียงพอ
        น้ำเป็นปัจจัยสำคัญและจำเป็นอย่างยิ่ง ที่จะเติมความชุ่มชื้น สดชื่น ให้กับร่างกายรวมทั้งริมฝีปาก เพราะฉะนั้นอย่าลืมดื่มน้ำอย่างพอเพียงเพื่อริมฝีปากที่อวบอิ่ม
3. บำรุงด้วยโอเมก้า 3 และ วิตามินเอ
        ริมฝีปากที่ดูเปล่งปลั่งสุขภาพดี ยังมาจากการได้รับวิตามินและเกลือแร่จำเป็น โอเมก้า 3 และ วิตามินเอ ในปริมาณที่เหมาะสม จะช่วยให้ริมฝีปากชุ่มชื้นได้ ลองปรึกษาเภสัชกรเพื่อรับคำแนะนำในการรับประทานวิตามินเสริม หรือหากได้รับจากการกินอาหารที่มีประโยชน์ได้ก็จะดีมาก
4. เลือกใช้ลิปบาล์มแทนลิปกลอส
        หลายคนมักสับสนในการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับริมฝีปากทั้งสองตัวนี้ ลิปบาล์มถูกผลิตขึ้นมาเพื่อบำรุงให้ความชุ่มชื้น และรักษาอาการริมฝีปากแห้งแตกโดยเฉพาะ ในขณะที่ลิปกลอสจัดอยู่ในประเภทเครื่องสำอาง และมักทำหน้าที่เคลือบผิวริมฝีปากให้ดูมันวาวเท่านั้น ทั้งนี้ นอกจากลิปบาล์มจะให้ความรู้สึกเนียนนุ่มชุ่มชื่นกว่าเมื่อทาลงไปแล้ว มันยังมักถูกเติมด้วยสารบำรุงและวิตามินที่มีประโยชน์ต่อริมฝีปากมากกว่าอีกด้วย เพราะฉะนั้นหากกำลังมองหาตัวช่วยรับมือริมฝีปากแห้งแตก มอบหน้าที่นี้ให้กับลิปบาล์มดีกว่าค่ะ
 5. ใช้ลิปสติกที่มีคุณสมบัติบำรุงริมฝีปาก
        หากคุณมักประสบปัญหาริมฝีปากแห้งแตกอยู่บ่อยครั้ง การทาลิปสติกให้สวยคงเป็นไปไม่ได้อย่างใจ ลองหาทางออกด้วยการเลือกใช้ลิปสติกที่มีคุณสมบัติบำรุงริมฝีปากแบบเข้มข้น หรือจะลองใช้ลิปบาล์มที่มีสีก็ได้ เท่านี้ริมฝีปากของคุณก็ดูมีสีสัน สวยได้รูป ทั้งยังดูชุ่มชื้นอิ่มเอิบไปพร้อม ๆ กัน
 6. กินอาหารอย่างถูกหลัก
        อาหารที่กินเข้าไปเป็นอีกหนึ่งสาเหตุสำคัญ ในการชี้ว่าคุณจะมีริมฝีปากที่สุขภาพดีได้หรือไม่ เมนูที่มีซัลเฟอร์สูงอย่าง ไข่ กระเทียม และ หน่อไม้ฝรั่ง จะช่วยให้ผิวพรรณรวมทั้งริมฝีปากดูสดชื่น เต่งตึง นอกจากนี้อาหารที่อุดมไปด้วยวิตามิน เอ บี และ ซี ซึ่งพบมากในผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ทั้งหลาย แครอท ผักใบเขียว โยเกิร์ตรสธรรมชาติ จะช่วยเรียกริมฝีปากที่สุขภาพดีกลับมาด้วย
 7. พบแพทย์หากอาการปากแห้งแตกไม่ดีขึ้น
        ไม่ว่าจะบำรุงทั้งจากภายนอกหรือภายในอย่างไร ริมฝีปากก็ยังคงแห้งแตกอยู่เหมือนเดิม คุณควรเข้าพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยถึงสาเหตุรวมทั้งรับการรักษาที่เหมาะสม เพราะอาการริมฝีปากแห้งแตกนี้ อาจเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงความเจ็บป่วย อย่างโรคโลหิตจาง หรือ อาการผิดปกติทางผิวหนังก็ได้ค่ะ
        หากหมั่นเอาใจใส่บำรุงริมฝีปากตามวิธีเหล่านี้อย่างสมํ่าเสมอแล้ว รับรองได้ว่าริมฝีปากชุ่มชื้นสุขภาพดี แถมยังอิ่มเอิบ น่าจุ๊บ ก็จะอยู่คู่กับสาว ๆ ได้อย่างแน่นอนค่ะ
ที่มา   https://www.108health.com/108health/topic_detail.php?mtopic_id=2000&sub_id=8&ref_main_id=1

อัพเดทล่าสุด