วิตามินเอ เป็นสารอาหารที่ร่างกายเจ้าตัวเล็กต้องการเพียงอย่างละน้อยอย่างละนิดในแต่ละวัน แต่ถ้าขาดไปแล้วละก็มีปัญหาแน่ค่ะโดยเฉพาะ วิตามินเอ...
ข้อมูลที่เรียบเรียงจากบทความของ รศ.ดร.ทรงศักดิ์ ศรีอนุชาต ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดลที่นำเสนอนี้ มีวิตามินเอเป็นพระเอกให้คุณพ่อคุณแม่เก็บเกี่ยวประโยชน์ไปให้เจ้าตัวเล็กของคุณค่ะ หน้าที่ของพระเอก อย่างที่เรามักจะท่องกันสมัยเด็กๆว่า เอตา ชาบี ซีฟัน ดีกระดูก นั่นแหละค่ะ
หน้าที่อย่างแรกของวิตามินเอ เกี่ยวข้องกับการมองเห็นของดวงตาเนื่องจากการมองเห็นจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อมีวิตามินเอบางรูปแบบที่ทำปฏิกิริยาภายในตากับแสงที่มากระทบ ซึ่งก็มีขั้นตอนที่ซับซ้อนหลากหลายกว่าที่เราจะมองเห็น แต่ที่แน่ๆ ถ้าเจ้าตัวเล็กได้รับวิตามินเอไม่เพียงพอต่อความความต้องการก็อาจทำให้มองเห็นไม่ชัด หรือที่เรียกว่าเป็นโรคตาฟางได้ *หน้าที่นี้เกี่ยวข้องกับการแบ่งตัวของเซลล์เยื่อบุต่างๆ ให้เป็นไปตามปกติ ถ้าขาดวิตามินเอ เซลล์เหล่านี้ก็จะเริ่มแห้งและแข็ง ไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ และที่ข้อเน้นว่าต้องท่องไว้ให้ขึ้นใจคือ เกี่ยวข้องอย่างมากกับการเจริญเติบโตและการพัฒนาของร่างกาย โดยเฉพาะกับเด็กเล็ก ยิ่งสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ด้วยแล้วถ้าได้รับวิตามินเอน้อยหรือมากเกินไปก็อาจทำให้ทารกในครรภ์ผิดปกติหรือพิการได้ *เกี่ยวข้องกับภูมิคุ้มกันของร่างกาย ถ้าลูกได้รับวิตามินเอน้อยเกินไปก็จะทำให้ความต้านทานในการติดเชื้อมีน้อย มีผลให้ติดเชื้อต่างๆได้ง่าย เช่น โรคหัด และโรคท้องร่วง
แหล่งสำคัญ จริงๆแล้ววิตามินเอ พบมากในอาหารที่ค่อนข้างจะมีน้ำมันอยู่ด้วย เพราะละลายดีในไขมัน แต่อย่าเพิ่งกังวลว่าจะหาให้ลูกหม่ำได้ยากค่ะ เพราะนอกจากจะมีในน้ำมันแล้ว สารแคโรทีน ยังสามารถเปลี่ยนเป็นวิตามินเอในร่างกายได้ด้วย ซึ่งสารที่ว่านี้พบมากในผัก ผลไม้สีเหลือง หรือไม่ก็ในผักสีเขียวเข้ม ก็เป็นอันว่าวิตามินเอและแคโรทีน มีทั้งในเนื้อสัตว์ ไข่ ตับ ผัก และผลไม้ มากมายซะจนหม่ำไม่ทันแน่ๆ
อาหารที่ให้คุณค่าวิตามินเอสูง รายการ ไมโครกรัม/100 กรัม เนื้อสัตว์ ตับหมู(ต้ม) 25,990 ตับไก่(ต้ม) 12,220 ไข่ไก่(ไข่แดง) 660 ไข่นกกระทา 143 ไข่เป็ด(ไข่เค็ม) 123 นมสดพาสเจอร์ไรส์ 35 ผัก กระเพรา 917 ผักชีฝรั่ง 867 ผักเสี้ยน 798 ปวยเล้ง 690 ตำลึง 673 ผักหวาน 619 ผักกระเฉด 589 แมงลัก 558 สะระแหน่ 527 กระถิน(ยอด) 510 ผักแว่น 468 โหระพา 452 ผักบุ้งจีน 429 ฟักทอง 105
ผลไม้ มะม่วงแก้วสุก 187 มะละกอสุก 174 แครอต 98 กล้วยไข่ 58
ความต้องการวิตามินเอ : วัน อายุ ไมโครกรัม 0-6 เดือน 375 7-12 เดือน 400 1-3 ปี 400 4-6 ปี 450 แม่ตั้งครรภ์ 800 แม่ในช่วงให้นมทารก 850 คุณพ่อคุณแม่คงเห็นแล้วว่า ความต้องการวิตามินเอของลูก จะมากขึ้นตามช่วงวัย ในช่วงแรกเกิดถึง 3 ขวบ ลูกยังต้องการน้อยหน่อยเพราะยังเล็กอยู่ และส่วนมากก็จะได้รับจาก นม ไข่ตับ ผัก ผลไม้ และอาหารเสริม เป็นประจำทุกวันอยู่แล้ว ถ้าคิดว่าเลี้ยงลูกตามปกติไม่ผิดแผกแตกต่างไปจากนี้ ลูกก็จะได้รับวิตามินเอจากอาหารอย่างเพียงพอโดยเฉพาะจากนม ขอเน้นว่าคุณพ่อคุณแม่ควรจะหัดให้ลูกกินผัก ผลไม้ และอาหารที่หลากหลายด้วย อาจเริ่มจากไข่แดง ตับบด ฟักทองต้ม และขยับสับเปลี่ยนเป็นผักใบเขียวต่างๆ ที่สำคัญถ้าหัดให้ลูกหม่ำง่าย หลากหลายชนิดอาหาร รับรองไม่ต้องพึ่งวิตามินเสริมให้สิ้นเปลืองโดยใช่เหตุเลยค่ะ < กลับ
ที่มา https://www.108health.com/108health/topic_detail.php?mtopic_id=454&sub_id=73&ref_main_id=14