เมนูอาหารเพื่อสุขภาพ : เมนูอาหารลดน้ำหนักง่ายๆ ประจำตู้เย็น


1,156 ผู้ชม


เมนูอาหารเพื่อสุขภาพ : เมนูอาหารลดน้ำหนักง่ายๆ ประจำตู้เย็น         เมนูอาหารเพื่อสุขภาพ : เมนูอาหารลดน้ำหนักง่ายๆ ประจำตู้เย็น 

หากเพื่อนๆ อยู่ในระหว่างแผนการควบคุมน้ำหนัก ซึ่งต้องอาศัยวินัยในการควบคุมอาหารเป็นอย่างมาก วันนี้เรามีเมนูอาหารที่เพื่อนๆควรจะมีติดตู้เย็นไว้ในช่วงการควบคุมน้ำหนัก เราไปสำรวจกันเลยว่า ในตู้เย็นของเพื่อนๆมีอาหารเหล่านี้อยู่หรือไม่

1.    สลัดผักสำเร็จรูป

เดี๋ยวนี้หาได้ง่ายตามซุปเปอร์มาเก็ต หรือตามท้องตลาด อาจจะขายเป็นห่อ เป็นถุง หรือเป็นกล่อง ก็มีให้เลือกมากมาย สลัดผักส่วนใหญ่จะประกอบไปด้วย ผักใบเขียวต่างๆ เช่น ผักโขม ผักกาด กะหล่ำซอย แต่ถ้าอยากประหยัดเงิน เราก็ซื้อผักเหล่านี้มาติดตู้เย็นไว้เพื่อทำกินเองก็ได้ สลัดผักเป็นอาหารที่มีแคลอรี่ต่ำ ทำให้เราทานได้เรื่อยๆเมื่อหิว กินยังไงก็ไม่อ้วน แต่ถ้าหากกลัวว่ากินแล้วจะเบื่อหรือไม่อยู่ท้อง เราก็หาพวกผลไม้ต่างๆมาติดตู้เย็นไว้ เพราะผลไม้ก็เป็นอาหารที่มีแคลอรี่ต่ำเช่นกัน เพียงแค่นี้ก็เป้นอีก 1 ข้อง่ายๆในการควบคุมน้ำหนัก

2.    เนื้อสัตว์ที่มีโปรตีนสูงแต่ไขมันต่ำ

เช่นอกไก่เลาะหนัง กุ้งต้ม ทูน่ากระป๋อง อาหารเหล่านี้มีโปรตีนสูง และยังสามารถนำมาเก็บไว้ทานพร้อมสลัดได้อีกด้วย

3.    นมไขมันต่ำ นมพร่องมันเนย

สามารถหาซื้อได้ง่ายตามซุปเปอร์มาเก็ตทั่วไป ทำให้ร่างกายเราได้รับทั้งโปรตีนและแคลเซียม ซึ่งล้วนแต่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายทั้งสิ้น แต่ถ้าเกิดเบื่อ เราก็สามารถทานโยเกิร์ตไขมันต่ำแทนก็ได้ เพื่อไม่ให้เมนูอาหารในการลดน้ำหนัก ซ้ำซากจำเจจนเกินไป

4.    ขนมปังโฮลวีต

ถึงแม้จะอยู่ในช่วงลดน้ำหนัก แต่ร่างกายเราก็ยังต้องการคาร์โบไฮเดรต เพื่อเป็นพลังงานให้กับร่างกาย แต่เราก็ควรเลือกทานในปริมาณที่พอเหมาะ และเลือกเวลากินด้วย ไม่ควรกินอาหารประเภทแป้งในตอนเย็นหรือก่อนนอน ควรกินตอนเช้าเพื่อให้ร่างกายได้รับพลังงาน และเผาพลาญในตอนกลางวัน ควรกินในปริมาณที่เหมาะสมเช่นกัน กินมื้อเช้า 2 แผ่นรวมกับอาหารอื่นๆให้ท้องอิ่ม ก็เพียงพอแล้วกับการลดน้ำหนัก


เมนูอาหารลดน้ำหนักที่แนะนำเพื่อนๆมาทั้งหมด เป็นเมนูอาหารที่หาซื้อง่าย ทำเองได้ง่าย ช่วยให้เพื่อนๆลดน้ำหนักได้ง่ายขึ้น แต่อยู่ที่ว่าเพื่อนๆ จะมีวินัยในการกินแค่ไหน ใช่ว่าซื้ออาหารมาแช่ไว้ในตู้เย็นเฉยๆ แต่ไปกินข้าวข้างนอกซะพุงกาง แบบนี้ก็ไม่เรียกว่าการลดน้ำหนักซะแล้ว....
ที่มา   https://www.108health.com/108health/topic_detail.php?mtopic_id=2347&sub_id=18&ref_main_id=4

อัพเดทล่าสุด