ส้ม..เป็นผลไม้ที่ให้ความรู้สึกสดชื่น อิ่มอุดมสมบูรณ์ ดังที่ชาวจีนนิยมนำไปอวยพร กันในวันปีใหม่
เราใช้คำว่า 'ส้มหล่น' เวลาที่ได้รับสิ่งดีๆ โดยที่ไม่คาดฝัน แต่ถ้าใส่คำว่า 'ส้ม' ต่อท้ายชื่ออาหารไทยเมื่อไหร่ เช่น แกงส้ม ต้มส้ม ส้มตำเป็นอันรู้ว่า อาหารชื่อนั้นมีรสเปรี้ยว ซึ่งไม่เกี่ยวว่าจะต้องมีส้มเป็นส่วนผสมแต่อย่างไร
ส้มเป็นพืชตระกูล Citrus ที่เจริญงอกงามในเขตร้อนชื้น สายพันธุ์ส่วนใหญ่มาจากจีน มีหลักฐานว่าปลูกกันมากว่าสี่พันปี และหมู่เกาะอินเดียตะวันตก ต่อมาจึงมีผู้นำพันธุ์ไปปลูกในอเมริกา (แถบฟลอริดา แคลิฟอร์เนีย)
วงศาคณาญาติเขามีมากมาย แบ่งเป็น ส้มหวาน Sweet Orange (Citrus Sinensis) นัยว่าเป็นยอดนิยมในหมู่ส้มทั้งมวล ต้นกำเนิดจากจีน ใช้น้ำผสมซอส ทำสลัด ตกแต่งอาหาร Grape Fruit (ชื่อทางวิชาการ Citrus Paradisi) ขนาดผลค่อนข้างใหญ่ มีน้ำมาก ลักษณะเปลือกนอกสีเหลืองนวล ผลกลมเกลี้ยง ส่วนสีขาวที่ห่อหุ้มผลส้มภายในเปลือกค่อนข้างหนา เมื่อเทียบกับส้มเขียวหวาน เหมาะสำหรับคั้นผสมเครื่องดื่ม เสิร์ฟเป็นอาหารเรียกน้ำย่อยในมื้อเช้าเพื่อกระตุ้นระบบการย่อยอาหาร
ส่วนส้มในบ้านเรานั้นเป็นพันธุ์ส้มเขียวหวาน ลักษะเปลือกบาง ปอกง่าย ชานนุ่ม (มีหลายเผ่าพันธุ์สีผิวต่างกันไปเช่น ส้ม Mandarin ส้มTangerine ส้ม Citrus Reticulata) แต่ก่อนบ้านเราะคุ้นเคยกับส้มเขียวหวานบางมด ปัจจุบันนี้เรามีพันธุ์ใหม่ๆ อร่อยๆ เพิ่มขึ้นอีกมากมาย เช่น ส้มสีทอง ส้มสายน้ำผึ้ง จากฝาง เชียงใหม่ ส้มโชกุนจากทางใต้ ส้มฟรีมองต์ ฯลฯ บางพันธุ์ เช่น (Clementine) นี่พัฒนาจนถึงได้น้ำเข้มข้น เปลือกปอกง่าย และไม่มีเมล็ด
ส้มบางพันธุ์ เช่น KumQuat ผลกลมรีสีส้มสดขนาดใหญ่กว่าหัวแม่โป้งเล็กน้อยนั้น รับประทานสดๆ ได้ทั้งเปลือก แต่นิยมเอาไปแช่อิ่ม หรือดองเค็มตากแห้ง ดังที่เราเรียกกันว่า ส้มกิมจ๊อ นอกจากนี้ยังส้มโอ ซึ่งแตกสายพันธุ์ไปได้อีกตอนหนึ่ง มะนาว มะกรูด ก็นับเป็นญาติในตระกูล Citrus ด้วยเหมือนกัน
ส้มเป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินซี ส้มผลเดียวมีวิตามินซี 69.7 ม.ก. มะนาวมี 46 ม.ก.: 1 กรัม (ใครเล่าจะกินมะนาวเข้าไปทั้งลูกเหมือนกินส้ม) สตรอเบอรี่มี 84.5 ม.ก.(นับเป็นปริมาณต่อหนึ่งถ้วยตวงหรอก) ส่วนฝรั่งลูกเดียวนั้น มีปริมาณวิตามินซีถึง 120 มิลลิกรัม (แต่ฝรั่งลูกโตกว่าส้มนี่)
เอาเถิดน่า...ชื่อเรื่องก็บอกแล้วว่าวันนี้จะยุให้คนกินส้ม ยังไงก็ต้องเข้าข้างส้มก่อน นอกจากวิตามินซีแล้วส้มยังมีเกลือแร่วิตามินอื่นที่มีคุณค่าต่อร่างกายอีกหลายชนิด
เขียนไปก็เท่านั้น มาดูกันว่ากินส้มเข้าไปแล้วดีอย่างไรดีกว่า เพราะส้มเป็นแหล่งของวิตามินซี แล้ววิตามินซีนี้มีประโยชน์มาก แล้วยังมีเกลือแร่ วิตามินอื่นที่มีคุณค่าต่อร่างกายอีกหลายชนิด วิตามินซีมีผลดีสำหรับคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับโรคหวัด โรคภูมิแพ้ เป็นแผลติดเชื้อง่าย (ภาษากันเองๆ ก็คือพวกตื่นมาไม่จามก็คัดจมูกน้ำมูกไหลมีเสมหะ ให้กระแอมจนติดเป็นนิสัย เจ็บคอ เป็นแผลในปากบ่อยๆ..อย่างนี้ค่อยเห็นภาพไหม) ภาษาชาวบ้านชอบว่าอาการข้างบนว่า...น้ำเหลืองไม่ดี..
ซึ่งถ้าสังเกต จะเห็นว่าคนเครียดง่ายๆก็มักมีอาการดังนี้เสมอ ค้นไปค้นมาจึงพบว่าความเครียด..ทำให้ร่างกายสังเคราะห์วิตามินทั้งหลายแหล่ออกมาได้ไม่เต็มที่ วิตามินซีจะช่วยกระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดขาว และแอนตี้บอดี้ เพิ่มภูมิคุ้มกันต้านทานการแพ้จากธรรมชาติและสารพิษ..
เป็นหนึ่งในวิตามินที่ต้านทานอนุมูลอิสระ สาเหตุของการเสื่อมของเซล เช่น ต้อกระจก หลอดลมอุดตัน ไขข้อ ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ มะเร็ง.. (ในวงการความงามเขาสรุปว่า แก้แก่หง่อม)
จำเป็นต่อการสร้างเนื้อเยื้อ กระดูก ฟัน มีส่วนในการสังเคราะห์คอลลาเจน ตัวที่ทำให้ผิวพรรณมีความยืดหยุ่นและกระชับ ป้องกันการเปราะบางของเส้นเลือดฝอย ทำให้แผลหายเร็ว ป้องกันเส้นเลือดขอด...
รักษาโรคโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก ลดคอเลสเตอรอล เขียนเหมือนท่องจำมาอย่างนี้ดูไกลตัวพอๆ กับที่เคยท่องจำว่ารักษาและป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน..
แล้วเป็นไงเล่า เข้าทำนองไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา ..พอร่องแก้มลึก ตีนกาโผล่ ปวดข้อเข่า หรือเห็นญาติผู้ใหญ่เข้าโรงพยาบาลเพราะเส้นเลือดฝอยแตก..เผอิญเป็นเส้นเลือดฝอยที่ว่านั้นมักจะเป็นตรงสมองเสียด้วยก็หลายราย ซึ่งควบคุมการทำงานทั้งหมดในร่างกายทำให้เกิดอาการอัมพฤกต์ อัมพาต ความจำเสื่อมตามมา ..
ทีนี้เรื่องฝอยก็กลายเป็นเรื่องใหญ่เชียวละ รีบเปิดตำราปรึกษาหมอกันวุ่น ทำไงถึงจะไม่แตกซ้ำ ทำอย่างไรถึงจะป้องกันได้ รีบออกกำลังกาย รับประทานผักผลไม้ ลดเกลือเพื่อลดความดันกันใหญ่ ..
แต่ว่าไม่รู้ว่าจะเป็นได้สักกี่น้ำ..เพราะในชีวิตประจำวันของคนในสังคมเมือง เรื่องกินเอาคุณค่านั้นกลายเป็นเรื่องรองลงมา ปัญหาอยู่ที่จะหาอะไรกิน จะหากินอะไรมากกว่า ประมาทพลาดเผลอไปแป๊บเดียว คอเลสเตอรอล ไตรกลีเซอไรด์ ความดัน น้ำตาล..เกิน
วิตามินเกลือแร่ธาตุเหล็ก..ขาด.. ว่าแล้วก็วิ่งไปซื้อวิตามินสำเร็จรูปมากินดีกว่า ..ก็ได้..แต่ถ้าไปซื้อในรูปแบบกรดแอสคอบิครสเปรี้ยวอมอร่อย จะมีความเป็นกรดสูงระคายกระเพาะอาหาร ก่อให้เกิดนิ่วทางเดินปัสสาวะ (ควรเลือกประเภทที่เขาเรียกว่าไบโอซี เพราะมีส่วนประกอบของวิตะมินซีตามธรรมชาติ ทำให้ร่างกายดูดซึมไปใช้ประโยชน์ได้เต็มที่เพราะคงอยู่ในร่างกายได้ดี ไม่ถูกขับออกอย่างรวดเร็วเกินไป(เพราะถ้าร่างกายเก็บไม่ได้ภาษาจิกกะริณี หมายถึง จิ๊กกี๋หรือจิ๊กโก๋ผู้หญิง เขาว่าปัสสาวะทีก็หมดแล้ว)
แต่จะดีที่สุด ถ้ารับประทานในรูปของธรรมชาติที่มีอยู่ในผักผลไม้ (และส้ม)..สด เพราะจะได้ประโยชน์จากกากอาหารที่จะช่วยการทำงานของลำไส้ ที่สำคัญคือ ควรปรุงและรับประทานให้ถูกวิธี เพราะว่าวิตามินซีจะสูญสลายเมื่อถูกความร้อน น้ำ แสงแดด ประเภทปอกหั่น แช่น้ำตากแดดตากลม เอาไปต้มเคี่ยวนี่คงเหลือแต่กากแน่
ว่าจะเขียนเรื่องส้มแต่ไหงไปลงวิตามินซี..อย่างที่ว่าละ..พอนึกถึงส้มให้นึกไปถึงวิตามินซีทุกทีสิ...
เมนูส้ม
1.วุ้นส้ม ใช้น้ำส้มแท็งค์ทำวุ้นใสๆ แช่เย็นไว้อร่อยยามบ่าย
2.ไอศกรีมส้มแบบอิตาเลียน แช่น้ำส้มแท็งค์จนเย็นจัด แล้วใช้มือกวนปั่นในถังทำไอติมให้แข็งแต่ยัง
เป็นเกล็ด
3.แพนเค้กกลิ่นส้ม หยอดน้ำส้มแท็งค์เข้มข้นลงในแป้งแพนเค้กเล็กน้อย จะได้รสเปรี้ยวอ่อนแปลกลิ้น
4.หวานเย็นส้ม ไสน้ำแข็งแล้วราดด้วยน้ำส้มแท็งค์เข้มข้น โรยหน้าด้วยองุ่นดำ
5.ฟรุตสลัดเกล็ดส้ม ละลายน้ำส้มแท็งค์ หั่นสับปะรด แอปเปิ้ล มะละกอใส่จนเต็ม แช่เย็นเป็นเกล็ด
6.ส้มซ่า ใช้โซดาชงน้ำส้มแท็งค์
7.ส้มเปรี้ยวมะนาวหวาน ชงน้ำส้มแท็งค์ เทใส่ถาดน้ำแข็ง พอแข็งเป็นก้อนสี่เหลี่ยมลูกบาศก์แกะออก
ใส่ถ้วยทรงสูง เติมน้ำมะนาวชงออกรสหวานใส่ เสิร์ฟได้ตลอดวันที่ต้องการความสดชื่น