อาการระคายเคือง แสบ คัน ของจุดซ่อนเร้นอาจสร้างความรำคาญใจให้คุณสาวๆ แน่เลยใช่ไหมล่ะค่ะ ปัญหาเหล่านี้จะหมดไปถ้าคุณสาวๆ รู้จักป้องกัน และดูแลรักษาตัวเองจุดซ่อนเร้นของคุณน่ะค่ะ
ทำอย่างไร..เมื่อจุดซ่อนเร้นของมีปัญหา?จุดซ่อนเร้นเป็นอวัยวะที่มีความละเอียดอ่อน และมักสัมผัสกับความ ชื้นตลอดเวลา อีกทั้งเป็นอวัยวะที่เชื่อมต่อกับระบบขับถ่ายและระบบสืบพันธุ์ ทำให้มีโอกาสเสี่ยงสัมผัสหรือแพร่กระจายเชื้อโรคได้มาก |
เมื่อเป็นแบบนี้ปัญหาใดบ้างที่เจ้าของร่างกายควรสังเกตและปรึกษาสูตินรีแพทย์อย่างเร่งด่วน รวมถึงมีวิธีใดที่สามารถป้องกันหรือแก้ไขเองในเบื้องต้น เรามีคำแนะนำดีๆ มาบอกกันค่ะ อาการอย่างไรที่บ่งบอกว่าน่าจะติดเชื้อ หรือไม่ติดเชื้อ? การติดเชื้อที่จุดซ่อนเร้นแบ่งออกได้หลายระดับแตกต่างกันไป บางครั้งหากไม่ตรวจอย่างละเอียด หรือไม่ทันสังเกตก็จะไม่รู้ถึงความผิดปกติ แต่ถ้ารอให้มีอาการก็มักจะเป็นมากและมีภาวะแทรกซ้อนของโรคไปแล้ว แต่อาการเบื้องต้นที่เป็นสัญญาเตือนได้ว่าคุณน่าจะติดเชื้อ ได้แก่
อาการที่กล่าวเบื้องต้นมักเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่ไม่ปลอดภัยหรือไม่มีการป้องกันที่ดี นั่นคือการเปลี่ยนคู่นอนบ่อย สำส่อนทางเพศประเภท one night stand การไม่สวมถุงยางอนามัย ทำให้มีการแพร่เชื้อต่อๆ กัน ซึ่งอาจเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย เช่น โรคหนองใน แผลริมอ่อน แบคทีเรียทริโคโมนาส การติดเชื้อทางไวรัส เป็นหูดหงอนไก่ เป็นต้น เมื่อสังเกตถึงความผิดปกติก็มักเป็นมาก ดังนั้นวิธีการแก้ไขที่ดีและถูกต้องคือ การไปพบสูตินรีแพทย์ทันที เพราะยิ่งเร็วเท่าไรนั่นหมายถึงเวลารักษาและความรุนแรงก็จะทุเลาลง อาการเตือนอื่นๆ ที่ก่อความรำคาญ แต่แก้ได้ง่าย เพราะปัญหาที่เกิดกับจุดซ่อนเร้นอาจไม่ได้จำกัดอยู่แต่ภายในเท่านั้น แต่อาจเกิดบริเวณภายนอกรอบๆ ที่ทำให้เกิดความรำคาญไม่น้อย เช่น
อาการเหล่านี้ไม่จำเป็นต้องมาจากการมีเพศสัมพันธ์เท่านั้น แต่เกิดการใช้ชีวิตประจำวันด้วย โดยอาจเป็นการติดเชื้อรา หรือผิวหนังบริเวณจุดซ่อนเร้นเกิดการแพ้สารเคมีบางอย่าง ทำให้อักเสบ โดยสาเหตุหลักๆ ก็มาจาก
ปัญหาจุดซ่อนเร้นเป็นเรื่องที่สาวๆ ต้องใส่ใจให้มาก เพราะหากเกิดอาการหรือสิ่งผิดปกติขึ้นแล้ว ตัวเองจะเป็นคนที่รำคาญและทุกข์ที่สุดค่ะ การดูแลจุดซ่อนเร้นที่ถูกต้อง แม้จุดซ่อนเร้นจะมีโอกาสเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้มากด้วยสรีระตามธรรมชาติ แต่หากสาวน้อยสาวใหญ่ดูแลและทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นได้อย่างถูกต้อง แบบไม่มากหรือน้อยเกินไป โอกาสที่จะเกิดอาการไม่พึงประสงค์ก็ย่อมลดลง นั่นคือ
ที่มา https://www.108health.com/108health/topic_detail.php?mtopic_id=2765&sub_id=103&ref_main_id=2 |