| ผู้ที่นอนหลับพักผ่อนเพียงพอลดโอกาสการเป็นโรคมะเร็งได้ถึงร้อยละ 25 และเขาก็ยังทำการวิจับอีกว่า ผู้หญิงที่นอนหลับน้อยกว่าวันละ 7 ชั่วโมงต่อคืนเป็นประจำ มีโอกาสเป็นโรคมะเร็งเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าอีกด้วย.
การศึกษานี้ทำเพื่อให้เข้าใจความสัมพันธ์กันระหว่างการพักผ่อน การนอนหลับ และการควบคุมป้องกันโรคต่างๆ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นในอนาคต คำแนะนำสำหรับการปรับปรุงการนอนหลับของท่าน: กำหนดการเข้านอนในเวลาเดียว กันทุกคืนและตื่นขึ้นในเวลาเดียวกันทุกเช้า รวมไปถึงในวันหยุดของคุณด้วย
( นอนให้เป็นเวลานั่นเอง )
สร้างสภาพแวดล้อมในการนอน: เงียบสงบ, ห้องนอนไม่สว่างจ้าเกินไป, ความสะดวกสบายและผ่อนคลายของที่นอน อุณภูมิห้องพอเหมาะไม่หนาวหรือไม่ร้อนจนเกินไป ที่สำคัญควรให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก ไม่อึดอัด
ใช้เตียงนอนในขนาดที่เหมาะสม และหากท่านอยากทำกิจกรรมอื่นๆ เช่นดูหนัง หรืออ่านหนังสือ กินขนมไปอ่านหนังสือไป ท่านควรหาโซฟาที่ปรับเอนได้มาใช้สำหรับกิจกรรมเหล่านี้ และพวกรีโมทหรือหนังสือก็ไม่ควรทิ้งไว้บนเตียงในขณะที่ท่านนอนหลับ
การผ่อนคลายก่อนนอน เวลาก่อนนอนไม่ใช่เวลาที่ท่านจะมาวิ่งจ๊อกกิ้ง 3-4 กิโล การออกกำลังกายควรทำในตอนเย็น อย่าใช้เวลาก่อนนอนทำกิจกรรมที่เครียดมากๆเช่น นั่งคิดเงินรายจ่ายรายเดือน ทำบัญชีหนี้สินของตัวเองเป็นต้น ถ้าอาบน้ำอุ่นก่อนนอนได้จะดีมาก เปิดเพลงที่ท่านชอบคลอๆไปช่วยในการผ่อนคลายได้เป็นอย่างดี
อย่ากินอาหารมื้อใหญ่ก่อนนอน รวมไปถึงการดื่มกาแฟ หรือแอลกอฮอล์ เพราะจะทำให้ท่านหลับไม่สบาย
หลีกเลี่ยงการใช้ยานอนหลับ การใช้ยานอนหลับเป็นประจำไม่เป็นผลดีกับร่างกายแน่นอน หากท่านต้องใช้ยาช่วยในการนอนหลับควรปรึกษาแพทย์โดยตรง และควรทำเป็นประจำ
อย่างีบหลับในตอนเย็น การงีบหลับในตอนเย็นๆจะทำให้ท่านนอนหลับยากในตอนกลางคืน หากท่านง่วงนอนตอนเย็นๆ ก็ควรหากิจกรรมบางอย่างที่ท่านชอบ ทำให้ผ่อนคลาย และค่อยหลับในตอนหัวค่ำจะดีกว่า
ควรโดนแสงแดดบ้าง การ รับแสงแดดอ่อนๆในช่วงเช้าหรือช่วงเย็น ทำให้ร่างกายได้รับวิตามินดี เป็นประโยชน์ต่อร่างกายมาก การไม่โดนแสงแดดเลยไม่ใช่เรื่องที่ดีกับร่างกาย
ที่มา https://www.108health.com/108health/topic_detail.php?mtopic_id=2424&sub_id=95&ref_main_id=2 | 
การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอสามารถลดความเสี่ยงของผู้หญิงของการเกิดมะเร็ง แต่ก็ยังมีอีกปัจจัยหนึ่งก็คือ พวกเธอยังต้องได้รับการนอนหลับอย่างเพียงพอเป็นประจำด้วย ข้อมูลจากการประชุมของศูนย์วิจัยโรคมะเร็ง, สหรัฐอเมริกา 