ข่าวจาก CDC แอตแลนต้า : องค์การควบคุมโรคติดต่อของรัฐบาลสหรัฐ หรือ center of disease control ออกมากล่าวว่า ไข้หวัดใหญ่ในปีนี้ ระบาดแรง และดื้อต่อยาที่เคยใช้ได้ผลคือ tamiflu ทามิฟลู (ที่ใช้รักษาไข้หวัดนก) มากขึ้น
อย่างไรก็ตาม แพทย์ของ CDC ยังกล่าวว่า ยังเร็วไปที่จะตัดสินเพราะตอนนี้เพิ่งเริ่มย่างเข้าฤดูกาล และไม่แน่ว่าเชื้ออาจจะเปลี่ยนไปอีก ยิ่งกว่านั้น ประชาชนทั่วไปก็ยังไม่ได้รับทามิฟลูเพื่อรักษากันสักเท่าไร และวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ก็ยังได้ผลดีในการป้องกันอยู่
ปัญหาจะตกอยู่ที่แพทย์ ต้องเข้าใจและตื่นตัวว่า อาจมีการระบาดที่ควบคุมไม่ได้ ปัญหาไข้หวัดใหญ่คือ ทุกปีมีผู้ป่วยประมาณ 2 แสนราย ที่ต้องนอนรพ. และในจำนวนนี้ 36,000 คนตาย โดยเฉพาะเด็กเล็กๆ คนแก่ หรือผู้ที่ป่วยหลายๆโรค หรือโรคเรื้อรัง มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอ เช่น โรคปอด ตับ ไต หัวใจ หรือเบาหวาน
สำหรับประชาชน สิ่งสำคัญที่สุดที่ต้องเน้นย้ำคือ การได้รับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ในสหรัฐ แนะนำให้ฉีดในผู้ใหญ่อายุ 50 ขึ้นไป เด็ก อายุ 6-18 เดือน ผู้หญิงตั้งครรภ์ ผู้ที่ต้องดูแลเด็กเยอะๆหรือ ในสถานเลี้ยงคนชรา ผู้ที่มีโรคเรื้อรังดังกล่าว
การรักษาสำหรับผู้เป็นไข้หวัดใหญ่ มียาอยู่สองขนานที่ใช้รักษาคือ
- tamiflu ในชือ generic ว่า olseltamivir (Roche)
- relenza ยาสูดพ่น มีชื่อ generic ว่า zanamivir (Glaxo)
ยาจะใช้ได้ผลดีสุด ในสองวันแรกหลังจากเริ่มมีอาการ
การตรวจสอบในปีนี้ จากฮาวาย และสิบกว่ารัฐ พบว่า 49 ตัวอย่างจาก 50 ตัวอย่าง ของเชื้อ H1N1 หรือไข้หวัดใหญ่ปีนี้ ดื้อต่อ tamiflu อย่างไรก็ตาม ไม่พบการระบาดที่อื่นๆ แพทย์ยังหวัง ไม่ให้มันกลายมาเป็นสายพันธ์หลักในการระบาดไปที่อื่นๆ
คำแนะนำของ CDC เกี่ยวกับการรักษา แนะนำว่า ถ้าสงสัย อาจเริ่มให้การรักษา ด้วย relenza แทนที่จะใช้ tamiflu แต่ยานี้ห้ามในเด็กอายุน้อยกว่า 7 ขวบ หรือมีโรคปอดเช่น หอบหืด อย่างไรก็ตาม โฆษกของ Glaxo กล่าวว่า สต๊อกยาอาจไม่เพียงพอ ในกรณีเช่นนี้ แพทย์หลายท่าน นพ.แชฟเนอร์ (Vanderbilt U)แนะนำให้ใช้ tamiflu ร่วมกับ rimantadine
อ้างอิง https://www.cdc.gov/flu/weekly/
ที่มา https://www.thaihealth.net/h/article705.html