กินทุเรียนแล้วร้อนในแก้ไขอย่างไรดี


816 ผู้ชม


ฤดูกาลนี้คงถูกใจคนชอบทุเรียน บางคนอร่อยจนยั้งไม่อยู่ ทำให้น้ำหนักตัวขึ้นพรวดพราดเลยทีเดียว ไม่เพียงเรื่องน้ำหนักเพิ่มขึ้นเท่านั้นแต่ยังต้องระวังการกินทุเรียนจะทำให้ร้อนในอีกต่างหาก         ฤดูกาลนี้คงถูกใจคนชอบทุเรียน บางคนอร่อยจนยั้งไม่อยู่ ทำให้น้ำหนักตัวขึ้นพรวดพราดเลยทีเดียว ไม่เพียงเรื่องน้ำหนักเพิ่มขึ้นเท่านั้นแต่ยังต้องระวังการกินทุเรียนจะทำให้ร้อนในอีกต่างหาก 
เพราะว่าทุเรียนอุดมไปด้วยแป้งและน้ำตาลให้พลังงานมาก เป็นอาหารประเภทหยาง หรืออาหารธาตุร้อนนั่นเองเช่นเดียวกับอาหารที่มีไขมัน โปรตีน แป้งและน้ำตาลสูง ยิ่งหากคุณเป็นคนธาตุร้อนด้วยแล้ว การกินทุเรียนมากๆ ท่ามกลางอากาศร้อนเช่นนี้ ก็อาจทำให้ร้อนในจนไม่สบายได้
อาการร้อนในจากการกินทุเรียนมากๆ มักจะทำให้มีแผลในปาก เจ็บคอ ไอ มีไข้ ปวดศีรษะ จุกแน่นท้อง มีขี้ตามาก ครั่นเนื้อครั่นตัว รู้สึกไม่สบาย อึดอัด หน้าแดง ลิ้นแดง ตาแดง รู้สึกว่าผิวตัวร้อนผ่าวๆ ฯลฯ การแพทย์ทางเลือกไม่ว่าจะเป็นแพทย์จีนหรือแพทย์ไทย ต่างแนะนำทางแก้ร้อนในไว้มากมาย แต่ล้วนยึดหลักการเดียวกันนั่นคือ ให้กินอาหารธาตุเย็น (หยิน) ลงไปเพื่อรักษาสมดุลของร่างกาย
อาหารธาตุร้อน (หยาง) เช่น อาหารที่ให้พลังงานสูง อาหารประเภทเนื้อแดง อาหารทอด อาหารหวานมันจัด ตลอดจนผลไม้ที่มีแป้งหรือน้ำตาลมากๆ อย่าง ทุเรียน ลำไย ขนุน เป็นต้น
อาหารธาตุเย็น (หยิน) เช่น อาหารที่มีรสจืด เปรี้ยว และขม หรือผักผลไม้ที่มีน้ำมาก น้ำตาลต่ำ เช่น มะระ พวกสะเดา แตงโม บวบ รากบัว มะนาว ส้ม มังคุด เป็นต้น
ดังนั้นสำหรับคนที่กินทุเรียนจนร้อนใน คุณควรกินอาหารธาตุเย็นที่มีฤทธิ์แก้ร้อนในตามลงไป ซึ่งมีให้เลือกมากมายตามความเหมาะสมและความชอบของคุณ เช่น ดื่มน้ำเปล่ามากๆ บางคนชงน้ำเกลือเจือจางดื่มสักแก้วก็ดีขึ้นได้เช่นกัน กินผักสดต่างๆ ให้มากขึ้น กินผลไม้ที่มีน้ำเยอะ ประเภทแตงโม แตงล้าน หรือผลไม้รสเปรี้ยวหรือหวานอมเปรี้ยว เช่น ส้ม สับปะรด มะนาวให้มากขึ้น หลายคนนิยมกินมังคุดตามหลังกินทุเรียน ดื่มเครื่องดื่มสมุนไพรต่างๆ ที่มีฤทธิ์ช่วยแก้ร้อนใน เช่น น้ำเก๊กฮวย น้ำหล่อฮั่งก๊วย น้ำรากบัว น้ำมะนาว น้ำใบบัวบก น้ำใบเตย เฉาก๊วย หากยังไม่ดีขึ้นคุณอาจต้องพึ่งยาขมยาแผนโบราณที่สรรพคุณเชื่อถือได้
แต่สิ่งที่ดีที่สุดคือ กินทุเรียนแต่พอประมาณ พอหอมปากหอมคอ คุณก็จะไม่ร้อนในและที่สำคัญไม่อ้วนขึ้นด้วยค่ะ

อัพเดทล่าสุด