พ่อแม่ส่วนใหญ่ ยังมีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน เกี่ยวกับไข้หวัดของเด็ก ๆ จากการศึกษาในรพ.เด็ก ในสหรัฐอเมริกา
เมื่อเด็กเป็นหวัด แพทย์ก็มักช่วยอะไรไม่ได้มาก เนื่องจากภาวะนี้ เป็นจากเชื้อไวรัส ซึ่งเรารู้อยู่แล้วว่าหายเองได้ การให้ยาปฏิชีวนะ ไม่ได้ช่วยอะไรมากนัก อย่างไรก็ตาม ที่เราพบเห็นกันทั่วไป ก็คือ พ่อแม่มักร้องขอยาปฏิชีวนะ ซึ่งพบเห็นได้ทั่วไป ไม่ว่าที่นี่ หรือที่สหรัฐอเมริกา
ในปีหนึ่ง ๆ การพบแพทย์ที่ไม่จำเป็น ในอเมริกา มีมูลค่าสูงถึง 25 ล้านเหรียญ คิดเป็น 1.6 ล้านครั้ง ที่ไปรพ.โดยไม่จำเป็น สิ่งที่น่าเป็นห่วงกว่า คือพ่อแม่มักร้องขอยา ปฏิชีวนะ ซึ่งไม่จำเป็น และอาจก่อให้เกิดเชื้อดื้อยาในสิ่งแวดล้อม
จากการศึกษา โดยการแจกแบบสอบถามให้กับพ่อแม่ที่พาลูกมาโรงพยาบาลเด็ก ตีพิมพ์ในวารสาร pediatrics ของสมาคมกุมารแพทย์อเมริกันพบว่า
- พ่อแม่เกือบทั้งหมด 93% ทราบว่า ไวรัสเป็นตัวการทำให้เกิดไข้หวัด
- สองในสาม คือ 66% เชื่อว่าแบคทีเรียทำให้เกิดหวัด
- มากกว่าครึ่ง เชื่อว่า ต้องได้รับยาปฏิชีวนะจึงจะช่วยให้ดีขึ้น
- ถ้าถามพ่อแม่ว่าเวลาลูกเป็นไข้หวัด จะทำอย่างไร ประมาณ 60 % บอกว่าจะพาไปพบแพทย์
คำแนะนำที่ถูกต้องคือ 1. ไม่มียาอะไรที่รักษาให้หาย ถ้าจะหายคือหายเอง ดังนั้นยาที่ให้คือรักษาตามอาการ
2. เนื่องจากเด็กต้องหายใจทางปากเพราะจมูกคัด ดังนั้น ปากอาจแห้ง แนะนำให้ดื่มน้ำ หรือน้ำผลไม้มาก ๆ
3. เด็กมักจะเบื่ออาหาร แต่พยายามให้กินให้เพียงพอและครบถ้วน 4. ห้องนอนที่สะอาด ความชื้นพอเหมาะ จะช่วยให้การหายใจดีขึ้น
5. วัดไข้ และถามอาการเด็กอย่างสม่ำเสมอ
6. ยาที่ดีที่สุดคือความรัก ความเข้าใจ เห็นใจ กรุณาจัดยานี้ให้มาก ๆ
7. อย่าให้ยาปฏิชีวนะ
8. อย่าให้ aspirin กับเด็ก เพราะอาจทำให้เกิดโรคที่ไม่พบบ่อย แต่รุนแรงคือ reye syndrome ซึ่งอาจถึงชีวิตได้ (มีตัวอย่างคดีความแล้ว)
แต่ต้องเรียกพบแพทย์ในกรณี 1. เจ็บคอหรือปวดหูมาก
2. หายใจไม่ได้ ไอมาก
3. หวัดเป็นนานกว่า 10 วัน
4. ไข้ลอยมากกว่า 48 ชม
ที่มา https://www.thaihealth.net/h/article24.html