วันนี้จะเอา หัวข้อ ต้นกระบองเพชรช่วยดูดซับรังสีจากจอคอมพิวเตอร์ มาบอกกล่าวกันครับ
มีผลวิจัยจากต่างประเทศเชื่อว่า ต้นกระบองเพชร หรือตะบองเพชร หรือแคคตัส (cactus) ที่ตั้งหน้าคอมพิวเตอร์ สามารถช่วยลดปัญหารังสีที่แผ่ออกมาได้ นายแพทย์ ศักดิ์ชัย ใช้จิกจา จักษุแพทย์ ผอ.มูลนิธิเทียนฟ้า อธิบายว่ารังสีอัลตร้าไวโอเลต หรือรังสียูวี รังสีเหนือม่วง พบในแสงแดด หลอดไฟ โทรทัศน์ และคอมพิวเตอร์ ซึ่งอย่างหลังคนเราสัมผัสใกล้ชิดมากกว่าอย่างอื่น การใช้คอมพิวเตอร์นานๆก่อให้เกิดปัญหาระคายเคืองเยื่อบุตา เคืองและแสบตา ส่งผลระยะยาวอาจก่อให้เกิดโรคต้อกระจกเร็วกว่าปกติ หรือมีปัญหาประสาทตาเสื่อม (ทีวีไม่ได้ดูรายละเอียดมากเท่าใช้สายตาเพ่งคอมพิวเตอร์ ใช้นานมีปัญหาต่อสายตาทำให้กล้ามเนื้อตาล้า ปวดศีรษะ อาเจียนถึงขั้นหมดสติ ใช้ติดกันนานเป็นภาวะสายตาสั้นเกิดขึ้นชั่วคราว จริงๆไม่ได้สั้น แต่สายตาเปลี่ยนแปลงชั่วคราว รู้สึกว่าสายตาสั้น) ปัจจุบันคอมพิวเตอร์รุ่นใหม่มีระบบกรองรังสี สำหรับจักษุแพทย์ศักดิ์ชัยแสดงความเห็นส่วนตัวว่าการที่ตะบองเพชรสามารถดูดรังสีได้นั้นน่าจะเป็นเพราะว่า ?พืชสีเขียวมีคลอโรฟิลล์รับแสงแดดอยู่แล้วในการปรุงอาหาร ตะบองเพชรมีสีเขียวมีโอกาสดูดซับรังสีจากคอมพ์บางส่วน แทนที่จะกระจายให้ผู้ใช้โดยตรงเท่านั้น? ไม่ว่าผลที่ได้จะเป็นอย่างไร บางครั้งการได้มองสีเขียวๆของธรรมชาติ แม้เพียงเสี้ยววินาทีเดียวอาจจะช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดของกล้ามเนื้อตาได้บ้าง มากกว่าการนั่งแช่หน้าคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆเพียงอย่างเดียว ในบทความเกี่ยวกับความเจ็บป่วยจากจอคอมพิวเตอร์ของโรเจอร์ (Roger Coghill) ได้อ้างถึงผลวิจัยของสถาบัน Recherches en Geobiologie ของสวิตเซอร์แลนด์และนักวิจัยในอเมริกา ลดรังสีที่ฉายออกมาโดยทดลองนำต้นตะบองเพชรความสูง 40 เซนติเมตรไปตั้งไว้หน้าคอมพิวเตอร์ของลูกจ้างผู้เคยได้รับความเจ็บปวดทุกข์ทรมานจากอาการปวดหัวและความอ่อนเพลีย วิธีการรดน้ำต้นกระบองเพชร 1. รดน้ำ 1 สัปดาห์ต่อครั้ง และเอาต้นฯไปรับแดด (ให้ดีควรเอาไปรับแดดตอนเช้า แล้วตอนบ่ายๆ ค่อยมาเก็บ) 2. ก่อนที่จะเอาตั้งหน้ามอนิเตอร์ ควรใช้ไม้จิ้มฟัน จิ้มลงในดินก่อนว่าชื้นหรือไม่ ถ้าชื้นก็ต้องเอาไปรับแดดต่อ ไม่ควรเอาไปเก็บ 3. เมื่อตรวจสอบดินว่าไม่ชิ้น (ไม้จิ้มฟันจะไม่เปียก) ก็เอามาตั้งไว้หน้ามอนิเตอร์ ปล. ถ้าดินยังชื้น จะทำให้ต้นฯขึ้น รา และจะตายในที่สุดครับ วิธีที่กล่าวมาผมใช้อยู่ครับ ได้ผลด้วย ลองดู! ที่มา https://www.108health.com/108health/topic_detail.php?mtopic_id=1753&sub_id=95&ref_main_id=2 |