โรคริดสีดวงทวารหนัก ความรู้ทั่วไป ตอน 2 การป้องกัน และรักษา


1,556 ผู้ชม


มาถึงภาคสอง ภาคจบ ของความรู้เบื้องต้น เกี่ยวกับการรักษาโรคริดสีดวงทวารกันครับ ปัจจุบัน การผ่าตัดพัฒนามาก ท่านที่เคยมีประสบการณ์คงทราบว่า ภายหลังการผ่าตัดแบบเก่า ทรมานอยู่เป็นอาทิตย์ เรามาดูว่า จะมีแนวทางและการรักษาแนวใหม่อย่างไร


การดูแลตนเองและป้องกันรักษา

  1. เลี่ยงพฤติกรรมที่กล่าวมาในส่วนแรก เช่นการท้องผูก ถ่ายนาน อ่านหนังสือไป ให้รับประทานน้ำมาก ๆ อาหารที่มีกากใยมาก
  2. ถ้าปวดมาก อาจต้องพึ่งยาแก้ปวด แก้อักเสบ แช่ก้นในน้ำอุ่นทุกวันหลังถ่าย ประมาณ 15 นาที และอาจต้องใช้ยาระบายในขณะที่มีอาการ
  3. ยาเหน็บ เช่น พร็อคโตซีดิล เชอริพร็อค และ อนูซอล วันละ 1-3 ครั้งประมาณ 7 วัน น่าจะช่วยได้ดีขึ้น ยารับประทาน เช่น ดาฟลอน(daflon) หรือยาใหม่ venoluton ช่วยลดอาการคั่งของเลือด
  4. ในกรณีที่อายุมาก เป็น ๆ หาย ๆ บ่อย แนะนำว่าต้องตรวจมะเร็ง โดยการส่องกล้องด้วย เพราะอาจไม่ใช่ริดสีดวงทวารอย่างเดียว

ระยะต่าง ๆของริดสีดวงทวารและการรักษา

  1. ระยะแรก หัวยังอยู่ภายใน มักไม่เจ็บ แต่จะมีเลือดออก  รักษาโดยการให้ยา ฉีดยาเข้าไปในตำแหน่งที่เลือดออก
  2. ระยะ2หัวโผล่เมื่อถ่ายอุจจาระ หดกลับเองได้ รักษาโดยการยิงยางเพื่อรัดโคนของริดสีดวง หัวก็จะหลุดเองได้
  3. ระยะ 3 และ 4 ริดสีดวงใหญ่มากเกินกว่าจะกลับเข้าไปเอง ผ่าตัด หรือใช้วิธีใหม่คือ "เครื่องมือตัดเย็บอัตโนมัติ"

การรักษาแนวใหม่

เนื่องจากเราเข้าใจว่า ริดสีดวงทวารเกิดจากเบาะรองที่เลื่อนลง การรักษาโดยการผ่าตัดปัจจุบัน คือการดันเบาะที่เลื่อนลง กลับเข้าไปและเย็บแขวนไว้ไม่ให้เลื่อนลงมาอีก  ส่วนของเบาะที่เหลือจะถูกตัดทิ้งโดยเครื่องมือตัดเย็บ hemoorhoid stappler ในแนวที่สูงกว่าเส้นประสาท ทำให้ไม่รู้สึกเจ็บมาก เมื่อเทียบกับการผ่าตัดแบบเก่า ที่จะเจ็บปวดมากในช่วง 24 ชมแรก ข้อดีคือ

  1. ตัดริดสีดวงทวารหนักออกหมดโดยไม่เกิดการตีบของรูทวาร
  2. การเจ็บปวดหลังผ่าตัดน้อยกว่า
  3. ไม่มีบาดแผลอยู่ภายนอก ไม่ต้องรักษาแผล
  4. ไม่จำเป็นต้องแช่น้ำอุ่นที่ก้นเป็นอาทิตย์
  5. เวลาในการผ่าสั้นกว่า
  6. เวลาในการอยู่รพ.สั้นกว่า
ที่มา https://www.thaihealth.net/h/article285.html

อัพเดทล่าสุด