คุณหมอขา ดิฉันจะคลอดเองหรือต้องผ่าคะ เป็นคำถามยอดฮิตของคุณแม่ขี้กังวลทั้งหลาย ซึ่งไม่มีใครจะให้คำตอบได้นอกจากคุณหมอที่ดูแลครรภ์..
เชื่อว่าแม่ทุกคนปรารถนาจะจดจำนาทีปีติในการให้กำเนิดชีวิตน้อยๆด้วยตัวเองตามธรรมชาติ แต่ก็มีหลายสาเหตุที่ทำให้แม่ตั้งครรภ์คลอดเองไม่ได้ ต้องใช้วิธีผ่าคลอดแทน
ซึ่งคุณหมอจะเป็นผู้พิจารณาถึงวิธีที่เหมาะสมและปลอดภัยต่อการคลอดนั้นๆ อย่างไรก็ตาม คุณแม่จะหาความรู้ไว้บ้างก็ไม่เสียหายค่ะ
สาเหตุที่รู้ได้ล่วงหน้า
-เชิงกรานของแม่เล็กเกินไป (คุณแม่ตัวเล็กไม่ต้องกังวลค่ะ มีคุณแม่ตัวบางร่างน้อยคลอดเองได้ถมเถไป)
-ทารกตัวโตมาก (คุณแม่บำรุงมากไปหน่อย)
-ทารกอยู่ในท่าขวางหรือท่าก้น
-มีอาการแทรกซ้อนของโรคเบาหวาน
-มีอาการแทรกซ้อนของโลหิตเป็นพิษ บวม ความดันโลหิตสูง
ยังมีสาเหตุอื่นๆอีก เช่น แม่อายุ 40 ปีขึ้นไป ครรภ์แฝด แต่ถ้าคิดจะให้หมอผ่าตามฤกษ์ที่ต้องการ เลิกคิดเสียเถอะนะคะ เป็นอันตรายต่อลูกมานักต่อนักแล้ว
ผ่าตัดคลอดฉุกเฉิน
-ปากมดลูกไม่ขยายเมื่อถึงเวลาอันควร ทำให้ระยะคลอดยืดเยื้อ หรือที่เรียกว่าคลอดยาก (บางรายปวดท้องคลอดข้ามคืนข้ามวัน ก็ต้องผ่าค่ะ ไม่เช่นนั้นแม่และลูกจะบอบช้ำ)
-เมื่อทารกในครรภ์ขาดออกซิเจนกะทันหัน เช่น แม่ได้ประสบอุบัติเหตุหรือถูกกระทบกระเทือนรุนแรง
-รกเกาะต่ำขวางทางคลอด รกลอกตัวก่อนกำหนด
ปลอดภัยไหม
การผ่าตัดคลอดในโรงพยาบาลมีความปลอดภัยสูง แต่ทารกจะต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดเพราะออกมาสู่โลกภายนอกอย่างกะทันหัน อาจปรับตัวไม่ทัน ผิดกับเด็กที่คลอดทางช่องคลอด ขั้นตอนการคลอดจะค่อยๆบีบเอาน้ำคร่ำออกจากปอดทารกและช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบสูบฉีดโลหิต
ใช้เวลาในการผ่าตัดเท่าไร
การผ่าตัดคลอดใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง คุณแม่จะได้รับการฉีดยาชาเข้าไขสันหลัง ทำให้ไม่เจ็บปวด แต่จะรู้สึกตัวตลอดเวลา คุณหมอจะผ่าเอาทารกคลอดออกจากท้องแม่ภายใน5-10 นาที เวลาที่เหลือใช้ในการผูก ตัดสายสะดือ ดูแลเด็ก เย็บปิดแผลแม่
แผลผ่าตัดแบบไหนดี
เดี๋ยวนี้คุณหมอนิยมผ่าในแนวขวางเหนือหัวเหน่า เรียกว่า"เส้นบิกินี่"ซึ่งแทบมองไม่เห็นรอยแผลหลังผ่าตัด แผลแข็งแรงกว่าการผ่าตามแนวยาวที่ผ่าจากสะดือลงมาซึ่งทิ้งรอยแผลผ่าตัดเห็นชัด วิธีหลังนี้ใช้เวลาในการผ่าตัดสั้นกว่า เสียเลือดน้อยกว่า มักใช้ในกรณีฉุกเฉิน ส่วนการเย็บปิดแผลมักจะใช้ไหมละลาย ถ้าใช้ไหมธรรมดา จะตัดไหมภายใน 1 สัปดาห์หลังผ่าตัด
หลังผ่าตัดเป็นอย่างไร
หลังผ่าตัดคุณแม่จะต้องนอนพักในโรงพยาบาลประมาณ 1 สัปดาห์ ควรพยายามเดินหรือเคลื่อนไหวเพื่อกระตุ้นระบบไหลเวียนโลหิตและการทำงานของระบบลำไส้ ยิ่งลุกขึ้นเดินมากเท่าไรแผลก็จะหายเร็วมากขึ้นเท่านั้น แต่อย่าเพิ่งยกของหรือออกกำลังกายหนักๆเป็นเวลาอย่างน้อย 6 สัปดาห์ แม้จะเห็นว่าแผลหายดีแล้วก็ตาม
เมื่อไรมีลูกได้อีก
อย่าเพิ่งรีบร้อนมีลูกอีก ควรคุมกำเนิดไว้ก่อนอย่างน้อย 1 ปีเพื่อให้แผลในมดลูกหายดี ส่วนจะต้องผ่าตัดคลอดอีกหรือไม่ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของคุณหมออีกละค่ะแล้วอย่าเสียใจถ้าไม่ได้คลอดเองเลยสักท้อง เพราะในความเป็นแม่จะคลอดวิธีไหนก็รักลูกไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน..จริงไหมคะ
ที่มา https://www.108health.com/108health/topic_detail.php?mtopic_id=906&sub_id=1&ref_main_id=2